บท
ตั้งค่า

Chapter 5 เหยื่อ

พยัคห์รีบถลาเข้าไปข้างในทันที สภาพของสีหราชนั้นหนักหนาใช่เล่น ลมหายใจรวยริน ร่างกายของเขามีรอยไหม้เกือบครึ่งตัว เลือดจากศีรษะแข็งแห้งเกรอะกรัง

“นายสิงห์! นายสิงห์!! เกิดอะไรขึ้นกับนาย!?” พยัคฆ์ช้อนตัวพี่ชายฝาแฝดขึ้น พร้อมกับตะโกนบอกคนงาน

“มาช่วยกันย้ายคุณสีหราชออกไปจากตรงนี้ก่อน! เรียกรถพยาบาลให้ด้วย!!”

"นายอย่าเป็นอะไรนะนายสิงห์ เข้มแข็งไว้! นายแม่ยังรอลูกสะใภ้คนโตอยู่" เขาตะโกนบอกพี่ข้างหูของพี่ชายฝาแฝด แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้ยินก็ตาม

สีหราชถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการสาหัส เพลิงสงบลงในเวลาอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา

“วอดทั้งหลังครับ เหลือแต่โครงสร้าง ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับพ่อเลี้ยง” เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามารายงาน แต่ไม่ต้องบอกก็รู้จากภาพตรงหน้า โรงบ่มไวน์ที่แสนภาคภูมิใจของพยัคฆ์กลายเป็นเถ้าถ่าน กลิ่นควันตกค้างจากการถูกเผาผลาญอย่างรุนแรงลอยคละคลุ้ง สิ่งที่สร้างมาอย่างยากลำบากหายไปหมดสิ้นภายในเวลาชั่วครู่เดียว

“ขอบคุณมากครับ พวกคุณทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว” พยัคฆ์ตอบ เขาไม่ได้มองหน้าพนักงานดับเพลิงคนนั้นเลย

“ไวน์ที่เราเตรียมจะส่งออกถูกลำเลียงออกไปก่อนจุดไฟเผาครับ พ่อเลี้ยงคิดว่าเป็นคนเดียวกันกับคนที่ผมคิดหรือเปล่า” ผู้จัดการที่ยืนอยู่ข้างกันรายงานและถามความเห็นต่อ

“ใช่มันคนเดียวนั่นแหละ ไอ้หนานคํา!” พยัคฆ์ระเบิดเสียงออกมาด้วยความโกรธ

ตอนนี้ไฟแค้นในอกของพ่อเลี้ยงพยัคฆ์รุนแรงมากกว่ากองเพลิงที่โหมไหม้โรงบ่มไวน์เมื่อครู่เสียอีก เขาอยากถลกหนังหัวคนก่อเหตุตั้งแต่วินาทีนี้เสียเลย

“ถ้าเรารีบออกตามล่ามันตอนนี้ผมคิดว่าน่าจะยังทันนะครับ พวกนั้นไม่น่าจะขนของออกไปได้เร็วนัก”

ใช้เวลาไม่นานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งประเมินความเสียหายเบื้องต้นนับสิบล้าน เพราะโครงสร้างถูกเผาวอดไปเกือบหมด แนวกรามของพยัคฆ์ขบเข้ากันแน่น ต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นเขาจะต้องลากคอหนานคำกลับมาให้ได้ เพราะจากการสอบถามมีหนานคำและลูกสมุนอีก 2 คนที่หายไป รวมถึงข้าวของในแคมป์คนงานที่หายไปด้วย

“ทุกคนในนี้ฟัง! ถ้าใครหาเบาะแสของหนานคำกับพวกและของกลางได้ ฉันมีรางวัลพิเศษให้ 1 ล้านบาท!” พยัคฆ์ประกาศเสียงกร้าวทันที นั่นสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกน้องของเขาเป็นอย่างมาก

“ลุย!” ทุกเสียงเปล่งออกมาพร้อมกัน

“มีอะไรคืบหน้าโทรหาฉันหรือผู้จัดการได้ตลอดเวลา”

คนงานทุกคนขานรับอย่างพร้อมเพรียงกัน หลังจากที่พวกเขาแยกย้ายกันออกไปแล้วพยัคฆ์จึงหันมาบอกกับผู้จัดการ

“คุณช่วยไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ให้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านดักสกัดพวกมันไว้ก่อน” พยัคฆ์หันไปบอกผู้จัดการ

"ครับ"

“ต้องแจ้งแม่เลี้ยงเรื่องคุณสิงห์หรือเปล่าครับ”

“เดี๋ยวผมไปบอกท่านเอง คุณไปจัดการเรื่องนั้นเถอะ ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ทันการณ์ ได้เรื่องยังไงโทรหาผมนะ”

“ครับ เดี๋ยวผมไปเช็คกล้องวงจรปิดก่อน แล้วจะโทรหานะครับ”

“แล้วข้าวหอมไปไหน” พยัคฆ์ถามหาพร้อมกับกวาดสายตามองหาไปด้วย ตอนที่เพลิงกำลังลุกไหม้เขาลากตัวเธอมาที่นี่ด้วย

“ผมไม่เจอเธอนะครับ เธอกลับบ้านไปพร้อมกับแม่เลี้ยงหรือเปล่า” ผู้จัดการหนุ่มบอกไปตามสิ่งที่เขาเข้าใจ เพราะไม่ได้เจอข้าวหอมจริงๆ พยัคฆ์กำหมัดแน่น กัดฟันจนไรคางปูดโปนเป็นสันนูน บอกได้ถึงความโกรธที่เขามี

พยัคฆ์นึกถึงตอนหัวค่ำที่เข้าหอมกลับมาไร่ ทั้งที่เธอเคยบอกว่ามีสอบและไม่สามารถกลับมาได้ นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แล้วทุกอย่างก็ลงตัวลงตัวอย่างเหมาะเหม็ง แม้กระทั่งว่าเธอกลับบ้านไปพร้อมกับมารดาของเขา แต่เธอก็ยังกลับมาที่งานอีก

“ข้าวหอม....เธอคิดจะทรยศฉันเป็นนางนกต่องั้นเหรอ แล้วเธอจะได้รู้ว่านรกมันร้อนแค่ไหน”

ตอนนี้ไฟในใจของพยัคฆ์ร้อนรุ่มมากกว่ากองเพลิงเมื่อครู่เสียอีก เขาก้าวเท้ายาวเดินไปที่พักของเธอทันที จนกระทั่งผู้จัดการไร่โทรมาแจ้งรายละเอียดข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

เสียแรงที่เขาและมารดาของเขารักเธอเหมือนลูกสาวและน้องแท้ๆ ส่งเสียให้เรียนหนังสือตั้งแต่เด็ก แต่เธอกลับทรยศครอบครัวเขาได้ พยัคฆ์สาบานว่าเธอจะได้รับบทลงโทษที่สาสม

"ข้าวหอม!!! ผู้หญิงทรยศ" พยัคฆ์คำรามลั่น พร้อมกับระดมทุกกำปั้นลงบนประตู

ปังๆๆ เสียงทุบหน้าห้องทำให้เจ้าของห้องสะดุ้งโหยง ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เวลานี้ข้าวหอมเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องทั้งหมด หลังจากที่เธอปะติดปะต่อเรื่องราวก็เข้าใจได้ว่าเป็นใครก็ต้องโกรธ ยิ่งคนอย่างพยัคฆ์ด้วยแล้ว เขายิ่งไม่มีทางยอม

“เปิดเดี๋ยวนี้นะข้าวหอม!” เสียงคำรามลั่นของคนนอกห้องทำให้ข้าวหอมยิ่งกลัว เธอรีบเดินลนลานออกมาเปิดประตู

“คะ!!!” หญิงสาวหันมาสบตาเขา รอยความเครียดถึงบนไรคางสากโผล่ให้เห็นอย่างเด่นชัด เส้นเลือดของเขาปูดโปน มือของเขายังกำโทรศัพท์แน่น เพราะเพิ่งวางสายจากผู้จัดการไร่ที่รายงานความคืบหน้า แน่นอนว่าคนร้ายคือหนานคำ

“บอกมาว่าพ่อของเธออยู่ไหน!” เสียงคำรามกึ่งตะคอกของเขาทำให้หญิงสาวยิ่งกลัว

"ข้าวไม่ทราบค่ะ" หญิงสาวขานรับเสียงอ่อย ไม่กล้าสบตาแววตาถมึงทึงของยักษ์เขียวที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“ฉันไม่เชื่อ” น้ำเสียงห้วนเข้มยิ่งทำให้หญิงสาวหวาดกลัว เพราะรู้ว่าพ่อของเธอทำอะไรลงไปบ้าง ไม่แปลกที่เขาจะโกรธขนาดนี้

ข้าวหอมยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก น้ำตาหยดแหมะอาบข้างแก้ม เธอเพิ่งวางสายจากพ่อเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า คำพูดของพ่อยังก้องอยู่ในหูพร้อมกับคำถามมากมาย ทำไมพ่อถึงทำอย่างนี้

“บอกมา!” พยัคฆ์ตวาดลั่น มือใหญ่กระชากตัวข้าวหอมเข้าหา บีบต้นแขนของเธอแน่น ข้าวหอมไม่เคยเห็นเขาโกรธแบบนี้มาก่อน

“มะ...ไม่...ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ” ข้าวหอมลนลานตอบติดอ่าง คำสั่งพ่อของเธอยังก้องอยู่ในหู ในขณะที่เธอก็หวาดกลัวกับสายตาเขาจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel