บท
ตั้งค่า

4

เสียงสวบสาบจากการเสียดสีของกางเกงผ้าฝ้ายเนื้อดีสภาพกลางเก่ากลางใหม่ที่ครูดไล้ไปกับยอดหญ้าสูงถึงหัวเข่าดังเป็นระยะ ๆ จากบริเวณลำรางน้ำไหลที่เด็กสาวหน้าตาละม้ายสาวต่างชาติเดินลัดเลาะจากมา ผมยาวปลายม้วนเป็นลอนขนาดใหญ่สีน้ำตาลเข้มไหวลู่ไปตามแรงเคลื่อนของเจ้าตัวขณะเดินกึ่งวิ่งไปข้างหน้าอย่างต้องการทำเวลาให้เร็วที่สุด แต่ไปไม่ได้ดั่งใจเพราะพื้นดินไม่เรียบ มันทั้งขรุขระและแฉะชื้นจากฝนที่กระหน่ำตกลงมาหลายวันติด ๆ กัน จนทำให้เธอต้องเดินอย่างระมัดระวังไปยังจุดหมายเบื้องหน้า

เพราะมัวแต่คลุกข้าวเพื่อนำไปให้สุนัขจรจัดแถวลำรางน้ำไหล แถมยังมาเสียเวลาตะโกนเรียกหาพวกมันอยู่อีกนาน นึกแปลกใจที่พวกมันพากันหายไปจากจุดที่เคยนัดกันเกือบหมดแก๊ง หวั่นใจอยู่ว่าจะมีคนคิดร้ายมาทำอะไรพวกมัน กว่าจะตามเจอก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง เลยทำให้เธอต้องล่าช้ากับการกลับมาเตรียมอาหารให้คนป่วยเสียอีก

จอมขวัญเป็นเด็กสาวอายุย่างเข้าสิบเก้าปี เธอเพิ่งจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกได้เพียงเดือนเดียว และต้องมาดูแลคนป่วยตามคำขอของนางนิพาพร ผู้เป็นภรรยาใหม่ของพ่อ ความฝันที่จะเรียนต่อของเธอหายวับไปกับตา

คนป่วยที่เธอต้องดูแลประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนกระดูกสันหลังหัก อนาคตไม่แน่ว่าคงพิการจนเดินไม่ได้อีกเลยไปตลอดชีวิตของเขา สมองยังถูกกระทบกระเทือนจนมีเลือดคั่งต้องผ่าตัดเอาออก

มารดาเลี้ยงของเธอเล่าว่าเดิมทีเขาเป็นคนฉุนเฉียวอยู่แล้ว พอประสบอุบัติเหตุครั้งนี้เลยอาการหนักกว่าเก่า อาจทำให้เจ้าอารมณ์มากขึ้นอีก ท่านบอกให้เธออดทน อะไรที่ยอม ๆ เขาได้ก็ให้ยอม นึกเสียว่าทำทานไปเพื่อแลกกับเงินที่จะนำไปไถ่เอาบ้านออกมาจากธนาคารก่อนที่จะถูกยึด

คิดมาถึงตรงนี้เด็กสาวก็มาหยุดยืนหอบหายใจเล็กน้อยที่หน้าบ้านหลังใหญ่พอดี

ไม่รีรอให้ช้าไปกว่านี้อีกแล้ว จอมขวัญผลักประตูเข้าไปเพื่อจัดเตรียมอาหารให้อีกฝ่ายอย่างที่ทำมาแล้วเกือบเดือน เธอดูแลเขาทุกเรื่องตั้งแต่ตอนที่อีกฝ่ายอาการพ้นวิกฤติ แพทย์จึงอนุญาตให้กลับมารักษาตัวต่อยังที่บ้าน และฟื้นคืนสติในที่สุด

“หายไปไหนมา หิวจะตายอยู่แล้ว”

เสียงทุ้มดุดันถามทันทีที่เห็นหน้าของเธอ จอมขวัญบอกเสียงอ่อย

“หนูเอาข้าวไปให้พวกไอ้ด่างมาค่ะ”

“คนยังไม่ได้กิน กระแดะเอาไปให้หมา เร็วเข้า หิว”

“ค่ะคุณภู”

“ไม่เคยอนุญาตให้เรียกชื่อเล่น” เสียงดุบอกอย่างถือตัว

“ค่ะคุณภูเบศวร์”

สาวน้อยวัยแรกผลิหยิบปิ่นโตออกจากเถาทีละชั้น เทใส่ชามอย่างระมัดระวังเพราะมันยังร้อนอยู่มาก เตรียมจานชามช้อนแก้วเรียบร้อย จึงไปนั่งข้างเตียง เขาอยู่บนเตียงไฟฟ้าแบบปรับระดับได้ทั้งหัวและปลายเตียงด้วยรีโมต เธอจึงปรับจัดท่าให้เขาพร้อมสำหรับการกินอาหารจนเรียบร้อยดีค่อยตั้งท่าป้อนข้าวให้

“ล้างมือหรือยัง” คนป่วยตวัดเสียงถาม เมื่อนึกขึ้นมาได้ที่อีกฝ่ายบอกว่าเอาข้าวไปให้ไอ้ด่างมา แล้วมือนั่นล้างหรือยัง

“ล้างแล้วค่ะ” จอมขวัญบอกเสียงนุ่มนิ่ม

“ล้างแล้วก็รีบป้อน”

สาวน้อยยกช้อนในชามขึ้นเป่าเบา ๆ ครู่หนึ่ง แตะริมฝีปากกับอาหารจนแน่ใจว่าอุ่นดีจึงส่งมันไปที่ปากของเขา พร้อมบอกขึ้น

“อ้าปากค่ะ”

ชายหนุ่มขยับปากที่มีหนวดเคราขึ้นรกเต็มไปถึงคางอ้าอย่างหงุดหงิดแล้วรับเอาช้อนที่มีอาหารเข้าไปเคี้ยว ๆ ก่อนกลืนลงคอในเวลาอันรวดเร็ว

“ป้อนไว ๆ หิว!”

“หนูบอกคุณแล้วว่าให้กินเยอะ ๆ เมื่อตอนเที่ยง คุณก็ไม่เชื่อ”

“มีสิทธิ์อะไรมาบอก ยัยเด็กอมมือ”

เขาว่าเธออย่างหงุดหงิด บ่นไปตามเรื่องของเขา จอมขวัญจึงทำหูทวนลม บ่อยครั้งเมื่อตอนอยู่หอ เวลาถูกซิสเตอร์อบรมเด็กสาวจะทำแบบนี้อยู่บ่อย ๆ เธอกับเพื่อนจะพากันนั่งก้มหน้ายิ้ม ๆ ให้ท่านบ่นจนจบเรื่อง ตอนนี้ก็เช่นกัน เขาอยากพูดอยากบ่นอะไรก็ปล่อยเขาไป จนป้อนข้าวหมดชาม จัดแจงเตรียมผลไม้และยาหลังอาหารไว้รอท่า เตรียมป้อนคนป่วยอีกครั้งจนเรียบร้อยแล้วถึงบอกเขา

“คุณจะทำกายภาพบำบัดก่อนไหมคะ แล้วค่อยอาบน้ำ จะได้นอนเลย”

“ไม่ ฉันจะอาบน้ำก่อน เพิ่งกินข้าว อาหารยังไม่ทันย่อยเลย จุกตายพอดีสิ”

“แต่ว่า...ทำเสร็จจะเหม็นเหงื่ออีกนะคะ”

“ก็อาบอีก” เขาว่าอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น

จอมขวัญถอนหายใจพรืดอย่างนึกหมั่นไส้คนเรื่องเยอะแล้วเตรียมผ้ามารอเขา

อาบน้ำที่ว่าคือแค่นำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ดตัวบนเตียงโดยไม่ต้องเคลื่อนย้าย สภาพคนตัวใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นแบบนี้ เธอคงพาเขาไปอาบน้ำไม่ไหว จอมขวัญจะเช็ดเฉพาะใบหน้าที่ครึ้มไปด้วยหนวดเครา คอ ลำตัว และแขนขาเขาเท่านั้น ส่วนบริเวณอื่น หนุ่ม ลูกน้องคนสนิทของเขาจะเข้ามาทำแทน

เด็กสาวมองร่างกายใหญ่โตของเขาแล้วนึกเห็นใจ นักกายภาพบำบัดที่เคยมาสอนเธอบอกว่าถ้ากินมากจนอ้วนกว่าเดิมคนไข้จะฟื้นช้า

‘ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น’

เธอได้ยินนักกายภาพบำบัดว่าไว้แบบนั้น จะเป็นไปได้หรือที่อาการหนักขั้นพิการจะดีขึ้นได้

“จริง ๆ เธอควรเช็ดให้มันทั่วทั้งตัวนะ ยัยเด็กอมมือ”

จู่ ๆ เสียงของเขาก็ว่าขึ้นขัดความคิดของเด็กสาว

“ทุกทีหนูก็เช็ดให้หมดทั้งตัวนี่คะ”

“หมดที่ไหน” เสียงเข้มว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ไปพลาง เป็นยิ้มเยาะที่จอมขวัญไม่เข้าใจว่าเขาเยาะเธอด้วยเรื่องอะไร มือเขาไม่ได้พิการเหมือนขาและสมองของเขา สายตาก็ด้วยที่เหลือบลงไปมองยังตำแหน่งที่เธอไม่เคยเช็ดให้ เขาถามแบบหมิ่น ๆ

“นี่ไม่เห็นเช็ด”

“ทำไมคุณภูเบศวร์ถึงลามกแบบนี้คะ” เสียงหวานไม่ได้ตวาด เธอถามเนิบ ๆ ช้า ๆ อย่างระมัดระวัง และนั่นยิ่งทำให้ภูเบศวร์นึกหมั่นไส้อีกเป็นกำลัง ชายหนุ่มหนวดครึ้มชะงักรอยยิ้มว่ากลับ

“ลามกอะไรยัยเด็กแก่แดด เดี๋ยวเถอะ หมายถึงแถวต้นขานี่ต่างหาก”

“หนูจะไปเช็ดได้ยังไงล่ะคะตรงนั้น น่าเกลียด...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel