บทที่ 7 ถ้าต้องเลือก
- Atin -
Club Mulligan : 22.30 PM
แก๊ง!
“หมดแก้ว!” ซัมเมอร์ตะโกนบอก หลังจากที่พวกเราทั้งสี่ชนแก้วกัน ฉันยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มจนหมดแก้วไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว และเป็นแก้วที่สิบแล้วมั๊ง ที่เราดื่มกัน ฉันเมาเริ่มได้ที่แล้ว แต่ก็ยังมีสติเหลืออยู่บ้าง ปกติฉันไม่ได้ค่อยออกไปดื่มหรอก เพราะใครบางคนไม่ให้ไปน่ะสิ ใครบางคนที่ใจร้ายและเพิ่งทำฉันร้องไห้ ก่อนหน้านี้เราเปิดโอกาสให้ตาวได้ระบายความอัดอั้นออกมา และฉันก็ได้รู้ว่าเพื่อนของฉันโดดเดี่ยวมากแค่ไหน แม้ว่าตาวจะดูเป็นคนเข้มแข็ง แต่ลึกๆแล้วเพื่อนฉันอ่อนไหวมาก ถึงปากจะบอกว่าไม่ต้องการความรัก แต่ฉันก็รับรู้ได้ว่ายัยเจ้าหญิงน้ำแข็งอ่อนแอและต้องการความรักจากใครสักคนจริงๆ
“จบเรื่องตาวแล้ว มาต่อกันที่เรื่องอตินดีกว่า...พวกแกสองคนรู้ไหมว่าวันนี้พี่ธันเดอร์บอกว่าจะจีบอตินด้วยล่ะ” ต้นหนทำตัวปากมากขึ้นมาอีกแล้ว
“จริงดิ? พี่เขาชอบแกเหรอวะ? วันก่อนเพิ่งมีเรื่องกันไปไม่ใช่เหรอ? วันนี้บอกว่าจะจีบเนี่ยนะ?” ซัมเมอร์ทำหน้าอยากรู้อยากเห็น
“ไม่ใช่หรอก! ไอ้บ้านั่นมันจะชอบฉันได้ไง? ไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย แล้วฉันว่ามันก็ไม่ได้คิดจะจีบฉันจริงๆหรอก ก็แค่อยากจะกวนประสาท” ฉันตอบ
“ที่รู้มา...พี่ธันเดอร์เขาไม่ใช่คนแบบนั้น ผู้หญิงเข้าหาเขาเยอะจะตาย แล้วเขาก็ไม่เคยจีบใครก่อน” ตาวที่เริ่มดีขึ้นแล้วพูดขึ้นมา
“ฉันก็ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน ว่าแต่แกเถอะอติน แกจะว่ายังไงถ้าพี่ธันเดอร์จะจีบแกจริงๆ ถึงฉันจะชอบพี่สิงโต แต่บอกตามตรงนะว่าพี่ธันเดอร์ก็กร๊าวใจเหมือนกัน หล่อ ทรงแบดบอย แถมยังรวยด้วย เขาแก่กว่าเราแค่ปีเดียวแต่แกรู้ไหมว่าเขาน่ะหาเงินจากการแข่งรถได้เยอะเลยนะ ในวงการนักแข่งน่ะ เขามีชื่ออยู่อันดับต้นๆเลยนะ” ซัมเมอร์กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าชอบไอ้สิงโต ทั้งๆที่ตัวเองมีแฟนอยู่แล้ว สุดยอดจริงๆเลยเพื่อนฉัน
“พี่ธันเดอร์สนใจแกจริงๆ ฟาโรห์บอกฉันมา” ตาวเสริม
“เดี๋ยวนะ แกไปคุยกับไอ้ฟาโรห์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไอ้ตาว?”
“ก็...คุยไปงั้นๆอะ เบื่อฉันก็คุย ไม่เบื่อก็ไม่คุย ฟาโรห์ก็ไม่ได้แย่อะไร อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกไร้ค่าเหมือนที่พ่อฉันทำ”
“แบบนี้ก็ลงล็อกเลยสิ ฉันคู่กับพี่สิงโต ไอ้ตาวคู่กับพี่ฟาโรห์ ส่วนอตินก็คู่กับพี่ธันเดอร์” ซัมเมอร์ทำหน้าเพ้อฝัน
“ไม่เอา! ใครบอกว่าฉันจะคู่กับไอ้ธันเดอร์!”
“ไม่เอาด้วย! พวกแกลืมฉันไปแล้วเหรอวะ?! ฉันไม่ใช่เศษเนื้อหรือติ่งหูดนะเว้ย! หาคู่ให้ฉันด้วย!” ต้นหนโวยวายขึ้นมา
“เลิกเนิร์ดแดกก่อนต้นหน แกไม่มีทางมีแฟนหรอกถ้าเอาเวลาทั้งหมดในชีวิตไปลงที่เกมกับซีรีส์กำลังภายในแล้วก็นิยายวาย!”
“นิยายวายมันไม่ดียังไง? ฉันก็ชอบอ่าน ไอ้ที่ไม่ดีมันคือคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสืออย่างแกอะไอ้เมอร์!” ตาวเป็นสาววายเหมือนกับหนุ่มวายอย่างต้นหน
“ไม่ต้องเถียงกัน! ถ้าฉันไม่มีแฟน พวกแกก็ห้ามมี! โดยเฉพาะไอ้อติน! แด๊ดดี้แกห้ามไม่ให้มีแฟนไม่ใช่เหรอ? พี่ฟรานซิสก็คงไม่ปล่อยให้แกไปมีแฟนหรอก!” ต้นหนยื่นมือมาตรงกลางเพื่อให้ซัมเมอร์กับตาวเลิกเถียงกัน
“ฉันจะมีแฟน!” ในตอนนั้นฉันก็โพล่งออกไป
“ว่าไงนะ?”
“ฉันบอกว่าฉันจะมีแฟน! ฉันจะหาแฟน! พวกแกต้องช่วยฉันนะ! หาแฟนให้ฉันภายในหนึ่งเดือนนี้!”
“แกจะเอาแฟนไปทำอะไรวะ?! ไหนบอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว? และฉันก็เพิ่งบอกไปว่าแกมีแฟนไม่ได้ไง!” ต้นหนถลึงตาใส่ฉัน
“แกชอบใคร? ใช่คนที่ทำให้แกใจเต้นแรงหรือเปล่า?” ตาวดูจะสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ
“บอกมานะไอ้อติน! กล้าดียังไงมามีความลับกับเพื่อนสามคนที่แกมีอยู่!” ซัมเมอร์คาดคั้น แล้วพวกมันทั้งสามก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันเพื่อรอฟังคำตอบ
“บอกไป...แล้วพวกแกจะช่วยฉันไหม?”
“บอกมาก่อน”
“เชี่ย! ฉันนึกไม่ออกเลยว่ะ ไม่มีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้แกได้ ไม่เคยมีใครกล้ามาจีบแกนอกจากพี่ธันเดอร์ แล้วใครกันวะที่จะทำให้แกใจเต้นแรงได้?”
“พวกแกลืมอะไรไปหรือเปล่า? ทำไมจะไม่มีผู้ชายเข้าใกล้อติน มันมีอยู่คนนึงไง ผู้ชายที่บางมุมก็ดูอบอุ่น บางมุมก็ดูเย็นชา ผู้ชายที่อตินไม่เคยเอาชนะได้ เขาหล่อ เท่ห์ ดูแบด แถมยังรวยไม่แพ้ใคร รอยสักกับซิกส์แพคทำสาวใจละลายกันถ้วนหน้า เขาคนนั้นคือผู้ชายคนเดียวที่เข้าใกล้อตินได้...” ตาววิเคราะห์ และการวิเคราะห์นั้นก็ทำใจฉันเต้นแรงขึ้นมา
“อย่าบอกนะว่า...” ต้นหนทำหน้าตกใจ “แกชอบฉันเหรอวะไอ้อติน?!”
ป๊าบ!!!
แล้วตาวก็ซัดหัวต้นหนอย่างแรง
“โอ๊ย! แกตบหัวฉันทำไมวะไอ้ตาว?!”
“ลืมไปเหรอว่าตัวเองเป็นเกย์ แล้วอตินก็รู้เรื่องนั้นดี?”
“เออๆ โทษ...ฉันลืมไปเลยว่าตัวเองเป็นเกย์”
“ฟรานซิสต่างหาก คนที่ทำให้หัวใจของอตินเต้นแรง”
“เชี่ย!!!”
“จริงปะเนี่ย?! พี่ฟรานซิสเขามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ? เขาดูแลแกมาตั้งแต่เด็กนะ! แกทำอีท่าไหนถึงไปชอบเขาวะ?!” ซัมเมอร์ถามรัวๆ
“เจองานหยาบแล้ว...พ่อแกห้ามมีแฟน แถมยังให้พี่ฟรานซิสดูแลแก แล้วแกดันไปชอบพี่ฟรานซิส แบบนี้พ่อแกจะรับได้เหรอวะ? นี่ยังไม่รวมเรื่องที่พี่ฟรานซิสอาจจะมองแกเป็นแค่เด็กที่เขาต้องดูแลอีกนะ” ต้นหนเครียดเกินหน้าเกินตาฉันอีก
“...” ฉันได้แต่นิ่งเงียบ ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“อตินมันคงคิดเรื่องที่พวกแกคิดมาหมดแล้วล่ะ มันถึงบอกว่าอยากจะมีแฟนไง...” ตาวว่า
“แล้วแกจะมีแฟนไปทำไมวะ? ในเมื่อแกชอบพี่ฟรานซิส หรือแกอยากจะห้ามใจจากเขา?” ต้นหนสงสัย
“หรืออยากจะประชด?” ตาวเสริม
“บังเอิญจังวะ...” ในตอนนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา แล้วก็เป็นอีกครั้งที่มีจังหวะนรกเกิดขึ้น เพราะเจ้าของเสียงนั้นก็คือ...
“พี่ธันเดอร์!!!”
- Atin End -
Paradise Hotel : 23.30 PM
ฟรานซิสกับพริมา มาดื่มกันที่เลานจ์บนชั้นสูงสุดของโรงแรมหรู วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบยี่สิบเจ็ดปีของหญิงสาว ทว่าชายหนุ่มที่เป็นแฟนกลับไม่มีของขวัญสักชิ้นหรือแม้แต่ดอกไม้สักช่อ พริมาอดน้อยใจไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามทำเป็นว่าเข้าใจ ว่าเขาแค่ไม่มีเวลาไปหาซื้อ เขาไม่ได้ลืมหรือละเลยเธอ
“เรามาที่นี่กันทุกปี ทั้งวันเกิดของคุณ วันเกิดพริม วันครบรอบของเรา คุณเบื่อไหมคะ? อยากลองเปลี่ยนไปที่อื่นดูบ้างไหม?” พริมมาชวนคุย เพราะฝ่ายชายเอาแต่ดื่มอยู่เงียบๆ เขาทำเหมือนว่าลืมของสำคัญไว้ที่บ้านและอยากจะกลับไปหามันจนใจจะขาด
“ผมแล้วแต่คุณ”
“งั้นวันเกิดคุณอีกสามเดือน เราไปสิงคโปร์กันดีไหม? ไปเช้าเย็นกลับก็ได้ถ้าคุณไม่มีเวลา”
“ยังไงก็ได้ครับ”
“คุณพ่อถามหาคุณนะคะ ท่านบอกว่าคิดถึง ไม่ได้เจอคุณนานแล้ว ไว้ว่างๆเราเข้าไปหาท่านกันนะคะ”
“เอาที่คุณสะดวกเลยพริม”
“ฟรานซิส...” พริมาเริ่มทนไม่ไหว ฟรานซิสทำตัวเหมือนคนไม่ได้พกวิญญาณออกมาจากบ้าน ถามอะไรไปเขาก็ตอบกลับแบบส่งๆ
“หืม?”
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า? คุณดูเหมือนคนใจลอย เหมือนคุณไม่ได้อยู่ตรงนี้กับพริม”
“เปล่า...เอาไวน์เพิ่มไหม?” ว่าแล้วเขาก็ยกมือเรียกบริกร เพื่อสั่งไวน์เพิ่ม
“คุณเต็มใจมาหาพริมหรือเปล่า พริมไม่ได้อยากจะชวนทะเลาะนะ แต่พริมรู้สึกว่าคุณอยากไปทำอย่างอื่นมากกว่ามาฉลองวันเกิดกับพริม” พริมจ้องมองฟรานซิสอย่างรอคำตอบ
“...” ทว่าเขากลับเงียบ สายตาจ้องมองนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนที่จะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูหน้าจอแอปพลิเคชันที่ติดตามสัญญาณโทรศัพท์ของอติน
“ของขวัญสักชิ้นคุณก็ไม่มีให้ พอมาเจอกันคุณก็ทำเหมือนว่ามีเรื่องสำคัญที่รออยู่ พริมถามจริงๆเถอะ ว่าถ้างานของคุณมันสำคัญขนาดนั้น ถ้าการต้องดูแลอตินมันสำคัญกว่าทุกอย่างบนโลกนี้ แล้วถ้าพริมไม่มีความสำคัญกับคุณเลย เราจะคบกันทำไมคะ?” ที่ผ่านมาสิ่งที่พริมมากลัวที่สุดคือการถูกฟรานซิสทิ้ง แต่ตอนนี้เธออยากรู้มากจริงๆว่าเขารักเธอบ้างหรือเปล่า แผนการในอนาคตของเขามีเธออยู่บ้างไหม
“พริม...”
“พริมรู้ว่าเราคุยเรื่องนี้กันไปแล้ว พริมรู้ว่าอตินกับงานของคุณต้องมาเป็นอันดับแรก แต่ตอนนั้นพริมยังไม่ได้รักคุณเหมือนตอนนี้นี่! ตอนนี้พริมรักคุณมาก พริมอยากอยู่กับคุณ ฮึก! พริมอยากให้เราแต่งงานกัน แต่ดูคุณสิ...คุณกำลังทำเหมือนว่าพริมรักคุณอยู่ฝ่ายเดียว ถามจริงเถอะ...ถ้าคุณต้องเลือกระหว่างอตินกับพริม คุณจะเลือกใคร?” จากที่คิดว่าจะไม่ร้องไห้ พริมกลับไม่อาจอดกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีกแล้ว
“คุณก็รู้ว่าผมเลือกคุณไม่ได้ สุขสันต์วันเกิดนะครับ...”
จุ๊บ!
ฟรานซิสโน้มตัวไปจูบแก้มพริมมา ก่อนจะลุกออกไปจากโต๊ะ มือยังคงเลื่อนหน้าจอมือถือ ดูว่าเวลานี้สัญญาณโทรศัพท์ของอตินอยู่ที่ไหน ทว่าในตอนที่เขากำลังจะลงลิฟต์ พริมมาก็วิ่งเข้ามาขวางประตูลิฟต์เอาไว้ทั้งน้ำตา
“พริม?”
“พริมมีอีกคำถาม...ฮึก!” พริมมาจ้องหน้าฟรานซิสไม่วางตา “ที่บอกว่าเลือกพริมไม่ได้ เพราะคุณต้องเลือกอติน งั้นพริมอยากรู้ค่ะว่าคุณเลือกเด็กคนนั้นเพราะหน้าที่หรือเพราะคุณรักเขากันแน่?!”
“...”
“ตอบคำถามของพริมมาสิคะ! คุณเลือกเขาเพราะอะไร?!”
“...” ฟรานซิสหลุบตามองต่ำ เขากำลังใช้ความคิด ในใจเขามันรู้ดีว่าใครทั้งนั้นว่าเขายืนอยู่ที่จุดไหนและกำลังทำอะไรอยู่ เหตุผลของเขาชัดเจน จุดยืนก็เด่นชัดกว่าใคร ทั้งกับพริมา ทั้งกับอติน เขามีเหตุผลในการเลือกทำสิ่งเหล่านี้ “เพราะหน้าที่ และตอนนี้ผมก็ต้องไปทำตามหน้าที่ ขอโทษนะพริม”
"ถ้าคุณบอกแบบนั้น พริมก็จะเชื่อค่ะ พริมจะยอมให้คุณไปทำตามหน้าที่ แต่อย่าลืมนะคะว่าคุณเป็นแฟนพริม คุณจะรักใครไม่ได้นอกจากพริม" พริมายอมถอยออกมา แล้วปล่อยให้ประตูลิฟต์ปิดลง อย่างน้อยเธอก็ใจชื้นขึ้นมาบ้างที่ฟรานซิสไม่ได้ตอบว่าเลือกอตินเพราะความรัก
