บทย่อ
เขาเป็นบอดี้การ์ด เป็นเพื่อน เป็นคนขับรถ เป็นทุกอย่าง... ที่สำคัญเขาเป็นของรักของหวงของเธอ “หงุดหงิดอะไร?” “ก็คุณไม่ได้ดั่งใจหนู!” “ฉันไม่ได้ดั่งใจยังไง? นี่ก็ตามใจเธอจนไม่รู้จะตามใจยังไงแล้ว” “คุณก็เป็นแบบนี้ตลอด!” “ฉันเป็นยังไง? เป็นให้ทุกอย่างแล้ว เป็นบอดี้การ์ด เป็นคนขับรถ เป็นเพื่อน เป็นคนตามเช็ดล้างเรื่องที่เธอก่อ เธอจะให้ฉันเป็นอะไรอีก?” “เป็นแฟน”
บทที่ 1 ลูกสาวมาเฟีย
- Atin -
University : 15.30 PM
พลั่ก! ตุบ! ปัก!
การได้กระทืบคนมันไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบหรอก แต่การได้แสดงให้พวกมันเห็นว่าฉัน...อติน จิระตระกูล ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ใช่ว่าใครจะมารังแกได้ง่าย และฉันไม่กลัวพวกผู้ชายที่ชอบรังแกอื่น!
อา...ใช่! ตอนนี้ฉันกำลังปล่อยหมัดใส่พวกเด็กวิศวะอยู่น่ะ พวกมันมากันสามคน ฉันจัดการไปแล้วสอง นั่นไง...ร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังจัดการคนที่สามอยู่
พลั่ก!
ฉันเตะเข้าที่กลางเป้าของมัน พอมันงอตัวด้วยความเจ็บปวด ฉันก็เสยปลายคางมันอย่างแรง มันไม่มีโอกาสได้ร้องเจ็บด้วยซ้ำ จังหวะสุดท้าย ฉันกระโดดหมุนตัวแล้วใช้เท้าเตะอัดหน้าจนมันร่วงลงไปกองที่พื้น พอจัดการพวกมันทั้งสามเสร็จ ฉันก็หันไปยิ้มแล้วเดินไปหาเพื่อนสามคนของฉันที่กำลังยืนมองอยู่ห่างๆ
“สุดยอดไปเลยอติน! แกเก่งจริงๆ ฉันนับถือ” คนแรกคือต้นหน หนุ่มน้อยที่เป็นเพื่อนฉันมาตั้งแต่ไฮสคูล หมอนี่ตามฉันแจ ฉันสั่งอะไรก็ทำถามทุกอย่าง แต่อย่าคิดว่ามันเป็นลูกน้องฉันนะ เพราะฉันชอบให้คนรักมากกว่ากลัวน่ะ แด๊ดดี้สอนฉันมา
“ปากแกแตกด้วย...เจ็บไหมวะ?” ส่วนนี่ก็ซัมเมอร์ ยัยนี่เป็นพวกเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ วันไหนอยากจะรักฉัน มันก็รัก วันไหนอยากจะเกลียดฉัน มันก็เกลียด อย่างวันนี้...ฉันว่ามันมาในธีมรักฉันล่ะ
“นิดหน่อย แค่นี้ไม่เจ็บหรอก สงสัยจะโดนหนึ่งในพวกมันต่อยตอนที่รุมฉันน่ะ” ฉันตอบซัมเมอร์ ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนรักที่ฉันสนิทและไว้ใจมากที่สุดในสามคนนี้ นั่นก็คือยัยปีศาจน้ำแข็งจอมเย็นชา ตระการตา หรือตาว
“ฉันโทรหาฟรานซิสแล้ว เขากำลังมา และดูท่าเหมือนว่าเขาจะโกรธมาก”
“หะ?!” พอได้ยัยเย็นชาพูดมาแบบนั้น ฉันก็รู้ได้ในทันทีว่าวันนี้ฉันต้องโดนเขาคนนั้นดุและสั่งสอนอีกแล้ว
ฟรานซิส ที่ทุกคนรู้จักในนามบอดี้การ์ดของฉัน เขาก็คือ...ฟรังก์ คนที่เป็นทุกอย่างให้ฉัน เขาเป็นลูกน้องที่พ่อฉันไว้ใจมาก เขาทำงานให้พ่อฉันมาเจ็ดปีแล้ว ตอนนั้นฉันอายุแค่สิบสามเอง เขาเป็นทั้งอาจารย์สอนพิเศษ ตอนที่ฉันโดนพักการเรียน ต่อมาก็มาเป็นบอดี้การ์ด เป็นเพื่อน เป็นคนขับรถ พูดง่ายๆว่าเขาเป็นทุกอย่างให้ฉันจริงๆ แต่นอกจากจะคอยดูแลฉันแล้ว เขายังดูแลกิจการทั้งหมดแทนพ่อของฉันด้วย พ่อฉันมอบหมายให้เขาเป็นมือขวาแทน อาริว ลูกน้องเก่าของพ่อที่ไปแต่งงานมีลูกมีครอบครัว พูดง่ายๆคือตอนนี้ฉันมีบอดี้การ์ดเป็นมาเฟีย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าพ่อฉันเป็นมาเฟียไง
“รีบไปกันเถอะว่ะ ถ้าธันเดอร์มาเห็น เราได้ซวยกันแน่” ในตอนนั้นต้นหนก็พูดขึ้นมา
“ทำไมเราต้องกลัวไอ้ธันเดอร์ด้วย? ไอ้สามคนนั้นมันมาเกาะแกะกับตาวก่อน! ตาวบอกว่าไม่ชอบพวกมันก็ยังเข้าหา ฉันก็เลยต้องจัดการแบบนี้ไง!” ฉันหันมองไอ้สามคนที่ตอนนี้ยังนอนอยู่ที่พื้น
“นี่แกจะเอาฉันเป็นข้ออ้างในการทำร้ายคนอื่นอีกแล้วเหรอ?” ตาวทำเสียงเรียบ ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินออกไป
“ไอ้ตาว! รอฉันด้วย” แล้วซัมเมอร์ก็วิ่งตามตาวไป ตอนนี้ก็เหลือแค่ฉันกับต้นหน
“อย่าอยู่ตรงนี้นานเลยว่ะ ที่นี่มันหลังตึกวิศวะนะ มันไม่ใช่ถิ่นเรา” ต้นหนกำลังจะบอกว่าถิ่นของเราคือตึกบริหาร เพราะพวกเราเรียนบริหารน่ะ
“ยัยลูกมาเฟีย!” แล้วจังหวะนรกก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังฉัน และฉันรู้ดีว่ามันเป็นเสียงของไอ้ธันเดอร์ ผู้ครองฉายานักเลงวิศวะ เป็นรุ่นพี่ปีสี่ที่ใครๆต่างก็กลัว แน่นอนว่ายกเว้นฉัน
“อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น!” ฉันหันไปจ้องหน้าธันเดอร์ ขณะที่ต้นหนจอมขี้กลัวรีบเข้ามาแอบที่ด้านหลังฉันอย่างรวดเร็ว
“แล้วจะให้เรียกว่าไง? คุณหนูเหรอ?” ธันเดอร์แสยะยิ้ม “หึ! ขอโทษนะ...ฉันไม่ใช่ลูกน้องพ่อเธอ!”
“ฉันมีชื่อ! ถ้านายเรียกชื่อฉันไม่ได้ ฉันก็จะเรียกนายว่าไอ้นักเลงปลายแถว!”
“ก็แล้วแต่ แต่ถ้าเรียกฉันแบบนั้น...เธอได้โดนดีแน่!”
“คิดว่ากลัวเหรอ?! ไอ้นักเลงปลายแถว!”
หมั่บ!
“อ๊ะ!”
“อติน!” โอเคนัมเบอร์วัน! ต้นหนทำได้เพียงร้องเรียกชื่อฉัน ในตอนที่ฉันถูกไอ้ธันเดอร์กระชากคอเสื้อ และฉันสู้แรงของมันไม่ได้ ธันเดอร์นี่มันแรงควายชัดๆ
“จะลองดีเหรอ? เก่งมาจากไหนวะเธออะ? คิดว่าเป็นลูกสาวมาเฟียใหญ่แล้วจะอัดคนอื่นไปทั่วแบบนี้ได้เหรอ?” ธันเดอร์เอ่ยออกมา ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันจะได้กลิ่นบุหรี่จากตัวมัน
“ฉันไม่ได้อัดใครไปทั่ว! รุ่นน้องนายมายุ่งกับเพื่อนฉัน! พวกมันมาตาเกาะแกตาว! ตาวไม่ชอบ! ฉันก็แค่ปกป้องเพื่อน!”
“แล้วมีผู้ชายคนไหนในมหาลัยนี้บ้างที่ไม่ชอบตาว?! เพื่อนเธอน่ะ...ใครๆก็ชอบ! คนตามจีบเยอะไม่ใช่เหรอ?! ทำไมไปอัดพวกเด็กนิเทษบ้างวะ?! ฉันรู้นะว่าเธอเจาะจงเล่นงานเด็กวิศวะอย่างเดียว!”
“ก็เพราะเด็กวิศวะรุ่นน้องนายมันกวนตีนไง! ปล่อยฉันนะ! ตัวเหม็นบุหรี่เป็นบ้าเลย!”
“ไม่ปล่อย! ถึงตาเธอต้องโดนบ้างแล้วอติน...ฉันคงใจดีกับเธอเกินไป เธอถึงได้มาใช้อำนาจพ่อให้ตึกวิศวะอยู่เรื่อย!” ฉันพยายามดิ้น แต่ก็สู้แรงของธันเดอร์ไม่ได้ มันกำลังง้างมือขึ้นสูง จากที่ดู...ทั้งแรงและกฎ Momentum เอ่อ...ไม่ต้องอ้างกฎ Momentum ดีกว่า เพราะฉันก็ไม่ได้รู้จักกฎนี้เลย มันยากไปน่ะ
เอาเป็นว่าดูจากที่ธันเดอร์ง้างมือขึ้นสูงขนาดนั้นแล้วกำหมัด ฉันรู้ได้ทันทีว่าถ้ามันต่อยลงมา...ฟันฉันต้องร่วงแน่ๆ
“พี่ธันเดอร์ฮะ! อย่าทำอตินเลยฮะ!” ต้นหนคงพยายามแล้ว แต่มันก็ทำได้แค่นั้น “อติน! ขอโทษพี่เขาไปสิวะ!”
“ถ้าต่อยฉัน นายตายแน่! แด๊ดดี้ไม่มีทางปล่อยนาย! คนสุดท้ายที่ทำฉันเจ็บตัว ตอนนี้ยังนอนหยอดน้ำข้าวต้นอยู่เลย!” และนอกจากที๋ฉันจะไม่ขอโทษ ฉันยังขู่เขาซ้ำไปอีก
“หึ! แล้วใครว่าฉันจะต่อยเธอ? ทำเธอเจ็บตัวมันก็เท่านั้นแหละ ฉันทำเจ็บใจดีกว่า...” หมัดที่ง้างอยู่บนอากาศ เปลี่ยนเป็นการคว้าเข้ามาที่ท้ายทอยของฉัน
“นะ...นายจะทำอะไร?!”
“จูบ!”
“ไม่นะ!!!”
พลั่ก!!!
วินาทีที่ฉันคิดว่าตัวเองกำลังจะเสียจูบแรกไป อยู่ๆร่างของธันเดอร์ก็ร่วงลงไปที่พื้น พอฉันมองไปยังต้นเหตุ ฉันก็ได้เห็นฟรังก์ยืนตรงนั้น สีหน้าของเขาดูโกรธมาก และเขาไม่มองหน้าฉันเลย เขาทำเพียงกระชากแขนฉันไปอยู่ด้านหลังเขา
“ครั้งต่อไปจะไม่ใช่แค่ถีบ ถ้ามึงยังกล้ามาแตะตัวอตินอีก” สิ้นคำนั้นฟรังก์ก็พาฉันออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว โดยมีต้นหนวิ่งตามเรามา ฉันหันไปดูที่ธันเดอร์ มันเองก็กำลังมองมาที่ฉัน แต่มันทำอะไรไม่ได้ จะวิ่งเข้ามาหาฉันก็ไม่ได้ เพราะลูกน้องของฟรังก์สามคน กำลังยืนกันทางของมันอยู่...
ฟรังก์พาฉันมาที่รถ ฉันรู้ว่าเขาจะจับฉันยัดใส่เบาะหลัง แต่ฉันดันประตูเอาไว้ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่มองหน้าหรือไม่คิดจะพูดอะไรกับฉันเลย โอเค ฉันรู้ว่าฉันก่อเรื่องอีกแล้ว เน้นตรงคำว่าอีกแล้ว ใช่ ฉันก่อเรื่องบ่อย แต่ทุกครั้งที่ก่อ มันไม่ได้เกิดจากการที่ฉันไปหาเรื่องใครก่อนสักหน่อย ฉันแค่ปกป้องตัว หรือปกป้องเพื่อนก็เท่านั้น
“คุณโกรธหนู” สรรพนามของฉันกับเขาค่อนข้างแปลก มันเปลี่ยนไปตอนไหนฉันก็จำไม่ได้ เพราะเราสองคนรู้จักกันมาเจ็ดปีแล้ว และความสัมพันธ์มันก็ค่อนข้างซับซ้อน เอ่อฉันไม่รู้ว่าเขามองว่ามันซับซ้อนหรือเปล่า แต่สำหรับฉัน...มันซับซ้อนและคลุมเครือ แถมยังน่าปวดหัว!
“โกรธ! เพราะเธอผิดคำพูด เธอบอกว่าจะไม่มีเรื่องชกต่อยอีก แต่ก็ยังทำ” อา...เขายอมพูดกับฉันแล้ว
“ก็ไอ้พวกนั้น...”
“ไม่ต้องพูด กลับบ้าน! ปากเธอแตก...ต้องทำแผล” เขาตะคอก แต่สายตาดูอ่อนโยนเหมือนว่าเป็นห่วงฉัน มือก็ยังเอื้อมมือประคองหน้าฉัน “เจ็บไหม?” แล้วดูคำถามเขาสิ
“เจ็บ...เจ็บมากเลย...”
“เมื่อกี้ยังบอกว่าไม่เจ็บอยู่เลย อะไรวะ?” แล้วเสียงของไอ้ต้นหนก็ดังขึ้นมา
“กลับบ้านกัน...” ฟรังก์พาฉันให้ขึ้นไปนั่งบนรถ ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ เขาทำฉันใจเต้นแรงอีกแล้ว ถึงได้บอกไง...ว่าความสัมพันธ์ของเรามันซับซ้อน เพราะฉันมักจะใจเต้นแรงกับเขาเสมอ...ทั้งๆที่เขามีแฟนแล้ว!

