บทที่ 6 ไม่เคยรู้ตัว
บทที่ 6 ไม่เคยรู้ตัว
“ให้คนอื่นคิดว่าข้าเป็นบ้าดีกว่าให้เขาคิดว่าข้าเป็นสตรีชั่วช้าโหดร้ายนะเจ้าคะ”
“ที่ลูกพูดมันก็ถูกนะเจ้าคะท่านพี่” หลี่ฮูหยินที่ฟังมานานก็เอ่ยช่วยบุตรสาว คนเป็นแม่ก็มักจะใจอ่อนกับลูกเสมอ
“ใช่ไหมล่ะเจ้าคะ ข้าทำตัวบ้าๆบอๆก็ดีกว่าไปไล่ทำร้ายคนอื่นเป็นไหนๆ”
“นั่นสิเนอะ” หลี่เฟยหลงทำท่าครุ่นคิดหัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน
“ใช่เจ้าค่ะ”
หลี่เฟินเยว่พยักหน้ารัวๆอย่างเห็นด้วย ในที่สุดก็สามารถหว่านล้อมท่านพ่อได้ คิดว่าจะโดนลงโทษอีกเสียแล้ว
“มันใช่เสียที่ไหนกันเล่า ! ”
เสนาบดีหลี่ขึ้นเสียงใส่บุตรสาวอีกครั้ง ถึงที่นางพูดจะเป็นเรื่องจริงแต่มันจะไม่ดีกว่าหรือถ้าเฟินเยว่แค่เลิกทำตัวร้ายกาจหาเรื่องคนอื่นไปทั่วและทำตัวเหมือนคนปกติเหมือนบุตรสาวของคนอื่น
“ท่านพ่ออย่าขึ้นเสียงใส่ข้าสิเจ้าคะข้าตกใจ” เฟินเยว่เอามือทาบอกเพื่อปลอบประโลมตัวเอง นึกว่าจะกล่อมได้แล้วเสียอีกตกใจหมดเลย
“กลับมาเหนื่อยๆไปอาบน้ำเถอะลูก”
หลี่ฮูหยินประคองลูกสาวลุกขึ้นและดันตัวนางออกไปด้วยความรวดเร็ว ในเวลาเช่นนี้ยิ่งหนีไวก็ยิ่งดี
“เข้าข้างกันเสียจริงนะ” คิดว่าเขาไม่รู้หรือไงว่าภรรยาช่วยลูกสาวหนีการลงโทษของเขาอีกแล้ว
“ท่านพี่ก็อย่าไปถือสาลูกมากเลยเจ้าค่ะ แค่นางสำนึกผิดก็ดีมากแล้ว”
คนเป็นแม่ก็แค่อยากให้ลูกมีความสุขก็เท่านั้น ไม่ว่าจะฐานะหรือหน้าตาทางสังคมนางล้วนไม่ให้ความสำคัญเท่าลูกๆ
ภายในวังหลวงใต้ต้นไม้ใหญ่มีบุรุษผู้หนึ่งร่างกายกำยำกำลังยืนเหม่อมองเหล่าสาวงามที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสุขสันต์ ช่างเป็นภาพที่เพลิดเพลินใจเสียจริง
“เรารู้สึกว่าช่วงนี้อะไรบางอย่างมันแปลกๆไปนะเจ้าว่าหรือไม่”
“อะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“เรารู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างมันขาดหายไป แต่ข้านึกอย่างไรก็นึกไม่ออก แล้วเจ้าล่ะรู้หรือไม่”
องค์รักษ์คนสนิทได้แต่ทำท่าครุ่นคิดอยู่นาน นี่เขากำลังเล่นปริศนาทายคำหรืออย่างไรกัน ใช้เวลาคิดอยู่สักพักเขาก็นึกถึงสาเหตุได้หนึ่งอย่าง
“เป็นเพราะว่าที่คู่หมั้นของพระองค์หรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ” เขาไม่กล้าพูดเต็มเสียงนัก ใครก็รู้ว่าท่านอ๋องไม่พอพระทัยในตัวว่าที่คู่หมั้นเพียงใด
“เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอันใดกัน ! ” เมื่อได้ยินคนพูดถึงนาง ชายหนุ่มก็เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที
เป็นที่รู้กันดีว่าท่านอ๋องพระองค์นี้รังเกียจว่าที่คู่หมั้นขนาดไหน แม้แต่ใบหน้าของนางเขาก็ไม่อยากเห็น แล้วที่เขาว้าวุ่นใจแบบนี้จะเกี่ยวกับนางได้อย่างไร
“กระหม่อมขออภัยพ่ะย่ะค่ะ เป็นความโง่เขลาของกระหม่อมเอง ท่านอ๋องได้โปรดอภัยให้กระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” องค์รักษ์หนุ่มรีบคุกเข่าลงกับพื้นทันทีและเอาหัวโขกกับพื้นไปหนึ่งครั้ง
“ลุกขึ้น” เมื่อคนใต้บังคับบัญชารู้สึกผิดเขาก็ไม่คิดจะเอาเรื่องให้มากความ
ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่อ๋องหนุ่มก็รู้ดีว่าเหตุผลที่องค์รักษ์ของเขาบอกมานั้นพอจะมีส่วนจริงอยู่ ช่วงนี้นางหายหน้าไปหลายวันทั้งๆที่ปกติจะมาป้วนเปี้ยนอยู่ในสายตาเขาจนน่ารำคาญ
“ท่านอ๋องอย่าพึ่งอารมณ์เสียสิเพคะ มาเล่นน้ำกับหม่อมฉันดีกว่า” เสียงหวานออดอ้อนมาพร้อมกับร่างกายเย้ายวนของหนึ่งในสตรีที่เล่นน้ำอยู่เมื่อครู่ แขนขาวๆยื่นไปข้างหน้าเพื่อดึงให้อีกฝ่ายลงมาเล่นน้ำด้วยกัน
ชายหนุ่มถอดเสื้อที่คลุมที่อยู่ด้านนอกออกและลงไปในน้ำตามคำเชิญของร่างอวบอั๋นในน้ำ แต่ภายในใจกลับยังมีเรื่องของหลี่เฟินเยว่มากวนใจ เขาคงจะต้องไปดูด้วยตัวเองว่านางกำลังวางแผนอะไรอยู่
‘หลี่เฟินเยว่นางหลงอะไรในตัวเขากันนะ นอกจากยศอ๋องแล้วชายผู้นี้ก็แทบไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าบุรุษทั่วไปสักอย่าง’
องค์รักหนุ่มทำได้เพียงคิดในใจ ถึงจะเป็นองค์รักษ์คนสนิทแต่เขาก็ทำไปตามหน้าที่เท่านั้น ถึงจะไม่ชอบใจนิสัยร้ายๆของเฟินเยว่แต่เขาก็ยังอดสงสัยไม่ได้อยู่ดี
ภายในจวนสกุลหลี่อยู่ภายใต้ความเงียบสงบ เมื่อก่อนอาจจะมีเสียงโวยวายของบุตรสาวคนรองของจวนส่งเสียงไม่พอใจเมื่อได้รู้ว่าว่าที่คู่หมั้นไปใกล้ชิดสนิทสนมกับสตรีอื่น แต่ในตอนนี้กลับไม่มีเรื่องเช่นนั้นแล้ว
“เราจะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะท่านแม่”
หลี่ฟางเซียนกลัดกลุ้มมาหลายวันจนต้องมาปรึกษมารดาของนาง
ตั้งแต่ที่หลี่เฟินเยว่ฟื้นขึ้นมาแผนการของฟางเซียนก็ดูจะไม่เป็นไปตามที่คิดไปเสียหมด นางคาดการณ์เอาไว้ว่าถ้าบอกเรื่องของบุตรสาวท่านราชครูเฟินเยว่จะต้องไม่อยู่เฉยๆแน่ แต่มันกลับผิดคาดนางเฝ้ารอมาหลายวันแล้วหลี่เฟินเยว่ก็ยังไม่ลงมือเสียที
“นั่นน่ะสิฟางเอ๋อร์ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปแผนการของเราคงจะไม่สำเร็จ”
ผู่เยว่ใช้ความพยายามมากมายจนได้เป็นอนุของเสนาบดีหลี่ จากบ่าวธรรมดาๆคนหนึ่งต้องทำทุกอย่างเพื่อถีบตัวเองขึ้นมาแต่นางก็ยังรู้สึกว่าแค่นี้มันยังไม่พอ
ความอิจฉาอยากได้อยากมีหลอมรวมกับความโกรธแค้นในความต่ำต้อยทำให้นางวางแผนทำเรื่องเลวๆลงไป
“ในเมื่อนางไม่ลงมือข้าก็จะเป็นคนลงมือเองเจ้าค่ะ”
เรื่องใส่ร้ายหลี่ฟางเซียนถนัดที่สุดอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็มีอีกหลายเรื่องเช่นกันที่หลี่เฟินเยว่ไม่ได้ทำแต่เป็นฟางเซียนที่ใส่ร้ายนาง ผู้คนถึงได้หวาดกลัวเฟินเยว่ขนาดนี้อย่างไรล่ะ
“เอาเลยลูก แม่สนับสนุน”
ผู่เยว่ยิ้มกว้างให้กับความคิดของบุตรสาว
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ อะไรที่พวกมันแย่งจากเราไปข้าจะเอาคืนให้ท่านเอง”
หลังจากนั้นไม่นานข่าวคราวว่าบุตรสาวของเสนาบดีหลี่ส่งคนไปทำร้ายร่างกายบุตรสาวของท่านราชครูก็ดังไปทั่วเมืองหลวง โดยที่คนที่โดนกล่าวถึงยังไม่รู้เรื่องเลย
บรรยากาศจวนสกุลหลี่อบอวลไปด้วยความตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อจวนราชครูมีการส่งข่าวว่าพวกเขาต้องการเข้าพบหลี่เฟยหลงและบุตรสาวของเขาเป็นการด่วนที่สุด
ความสัมพันธ์ระหว่างท่านราชครูและเสนาบดีหลี่เป็นมาด้วยดีตลอด พวกเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน ถึงจะไม่ได้สนิทกันมากแต่ก็ถือว่าเป็นมิตรต่อกัน ท่าทีร้อนรนของบ่าวที่มาแจ้งพร้อมกับเนื้อความที่พวกเขาฝากมาทำให้สมาชิกสกุลหลี่นั่งไม่ติดกับที่