บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 โอกาสหรือเวรกรรม

บทที่ 3 โอกาสหรือเวรกรรม

ท่ามกลางความดำมืดหลี่เฟินเยว่รับรู้ได้ถึงเสียงเรียกของใครบางคน นางเคยจินตนาการไว้ว่าถ้าตายไปแล้วคงเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าแต่เหมือนมันจะไม่เป็นเช่นนั้น

เปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ แสงแดดจ้าที่ส่องเข้ามาทำให้เฟินเยว่ต้องหลี่ตาลงเพื่อปรับสายตา บรรยากาศที่คุ้นเคยภายในห้องนอนทำให้นางต้องตกใจจนขยี้ตาแรงๆ

“ระ…รั่วถง” หลี่เฟินเยว่เรียกบ่าวคนสนิทเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า

“คุณหนู ท่านฟื้นแล้ว”

รั่วถงดีอกดีใจที่คุณหนูของนางฟื้นจนเผลอเขย่าตัวเฟินเยว่เสียแรง

“นี่มันอะไรกันรั่วถง” เฟินเยว่กำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“คุณหนูจำไม่ได้หรือเจ้าคะ คุณหนูพึ่งโดนนายท่านลงโทษจนสลบไป บ่าวเป็นห่วงคุณหนูมากเลยนะเจ้าคะ”

รั่วถงมองคุณหนูของนางด้วยความสงสาร คุณหนูโดนนายท่านโบยเพราะนางไปมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับแม่นางซินหยานจนฝั่งนั้นใบหน้าเป็นแผล แต่โดนตีไปได้แค่สองครั้งคุณหนูก็ตกใจจนสลบไปเลยทุกคนเป็นห่วงกันแทบแย่

“จริงหรือรั่วถง” เฟินเยว่ถามบ่าวคนสนิทด้วยความตื่นเต้น นี่นางยังไม่ตายงั้นหรือ

ดีใจได้ไม่นานก็นึกขึ้นได้ว่านี่สวรรค์กำลังให้โอกาสนางหรือนางกำลังโดนเวรกรรมเล่นงานกันแน่ ถ้านางได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งจริงๆแปลว่าในตอนนี้ท่านพ่อได้เอ่ยขอสมรสพระราชทานไปแล้ว เรื่องราวที่ทำให้ครอบครัวของนางต้องพบเจอกันความเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

“จริงเจ้าค่ะ คุณหนูคงตกใจมากถึงได้เป็นเช่นนี้ บ่าวไปตามนายท่านกับฮูหยินมาดูดีกว่าเผื่อเป็นอะไรจะได้ไปตามท่านหมอมา”

รั่วถงเป็นห่วงคุณหนูของนางจากใจจริง ถึงช่วงหลังมานี้คุณหนูจะใจร้ายกับนางมากขึ้น แต่รั่วถงก็ไม่คิดจะทรยศผู้เป็นนาย

“ไม่ต้องๆ ข้าจะไปหาพวกเขาเอง”

หลี่เฟินเยว่อยากแน่ใจว่านางไม่ได้กำลังฝันอยู่ หากทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงนางตัดสินใจแล้วว่าจะหาทางยกเลิกสมรสพระราชทานและเลิกยุ่งกับทั้งท่านอ๋องและหลี่ฟางเซียนซะ

นางจะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังการใส่ร้ายบิดาของนางและยับยั้งเรื่องร้ายๆที่จะตามมาให้ได้

“บ่าวช่วยเจ้าค่ะ”

ขาเรียวก้าวลงจากเตียงโดยมีรั่วถงคอยประคอง แม้จะยังมีอาการมึนงงอยู่เล็กน้อยแต่ไม่นานก็สามารถก้าวเดินไปจนถึงห้องโถงกลางบ้านได้

“ท่านพ่อ…ท่านแม่…” เฟินเยว่เรียกบิดาและมารดาของนางเสียงสั่น น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาท่วมท้น

การได้เห็นว่าบิดาและมารดาของนางยังมีชีวิตอยู่ต่อให้นี่คือฝันนางก็อยากจะอยู่ในฝันตลอดไป

“ลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ” เฟินเยว่เดินเข้าไปและคุกเข่าลง

เสนาบดีหลี่ที่คิดว่าบุตรสาวคนรองของเขารู้สึกผิดเรื่องของซินหยานก็ตกอกตกใจ เฟินเยว่ต้องรู้สึกผิดขนาดไหนถึงได้ร้องไห้ถึงเพียงนี้

“อย่าร้องลูก เรื่องมันผ่านไปแล้ว”

หลี่ฮูหยินเขยิบเข้าไปใกล้บุตรสาวและสวมกอดนางไว้เบาๆ บุตรสาวของนางพึ่งเคยโดนโบยเป็นครั้งแรกคงตกใจกลัวน่าดู เห็นลูกเป็นแบบนี้คนเป็นแม่ก็ใจสลาย

“ข้าขอโทษนะเจ้าคะ ข้าไม่น่าทำเช่นนั้นเลย”

“ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นไร”

“รู้สึกผิดและคิดได้ก็ดีแล้ว” เสนาบดีหลี่เอ่ยกับบุตรสาว

“พี่รอง” เสียงหวานของคนที่เฟินเยว่ไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้เอ่ยเรียกนาง

“ท่านฟื้นแล้ว เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ฟางเซียนแสร้งเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

หลี่เฟินแยว่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมเมื่อก่อนนางถึงมองไม่ออกกันนะว่าสิ่งที่ฟางเซียนทำมันเสแสร้งขนาดไหน คนที่เป็นคนเอาเรื่องของซินหยานมาบอกเฟินเยว่ก็คือฟางเซียน และนางยังยุให้เฟินเยว่ไปหาเรื่องอีกฝั่งอีกด้วย

“พี่ไม่เป็นอะไร ขอบใจน้องสามมากที่เป็นห่วง” หลี่เฟินเยว่เอ่ยเสียงหวานกลับไป น้ำตาที่พรั่งพรูก่อนหน้าถูกเช็ดออกลวกๆ

หลี่เฟินเยว่คิดไว้แล้วว่านางจะเล่นไปตามที่ฟางเซียนวางแผนไว้ก่อน จะทำการใหญ่ก็ไม่ควรทำให้ศัตรูรู้ตัวและไหวตัวได้ทัน

“ข้าเป็นห่วงพี่รองแทบแย่” ฟางเซียนเอามือขึ้นมาทาบอกอย่างโล่งอกที่พี่สาวไม่เป็นอะไร

ในตอนที่เฟินเยว่โดนโบยจนสลบฟางเซียนต้องพยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ แผนการง่ายๆแต่กลับได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจขนาดนี้ก็คงต้องขอบคุณความโง่ของเฟินเยว่จริงๆ ที่ไม่ว่านางจะพูดอะไรอีกฝ่ายก็เชื่อไปเสียหมด

“เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก เห็นเจ้าบอกว่าอี๋เหนียงก็กำลังป่วยเช่นกัน เอาเวลาไปสนใจมารดาของเจ้าเถอะ”

หลี่ฟางเซียนไม่อยากไปดูแลพี่สาวนางจึงอ้างว่ามารดาของนางก็ป่วยเช่นกัน ด้วยเพราะแกล้งเป็นคนดีมาตลอดจึงต้องหาข้ออ้างมาเพื่อเอาตัวรอด น้ำเสียงของเฟินเยว่ทำให้ฟางเซียนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เฟินเยว่พูดจริงหรือกำลังแซะนางกันแน่

“ขอบคุณพี่สาวที่เป็นห่วงแม้ว่ามารดาของข้านางจะเป็นแค่อนุ” นางทำเหมือนซาบซึ้งกับถ้อยคำเหล่านั้น

“เจ้าไปเถอะฟางเซียน ข้ามีเรื่องจะต้องคุยกับท่านพ่อและท่านแม่” หลี่เฟินเยว่เอ่ยปากไล่โดยไม่หันไปมองใบหน้าสับสนของฟางเซียน และการโบกมือไล่นี่มันอะไรกัน

ฟางเซียนหันซ้ายแลขวาอย่างทำตัวไม่ถูก ด้วยที่ผ่านมาเฟินเยว่มักจะใจดีกับฟางเซียนมาตลอดไม่เคยเมินเฉยต่อนางเลยสักครั้ง ถึงจะเป็นแค่ลูกอนุแต่ฐานะของนางในบ้านก็สูงกว่าลูกของอนุสกุลอื่นอยู่มาก

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” ในเมื่อเขาไล่แล้วก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องอยู่ต่อ แต่นางอยากรู้จริงๆว่าพวกเขากำลังจะพูดเรื่องอะไรกันถึงให้นางอยู่ฟังด้วยไม่ได้

“รั่วถง” เมื่อฟางเซียนออกไปแล้วเฟินเยว่ก็ส่งสายตาให้บ่าวคนสนิทจัดการปิดประตูและไปยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง

ฟางเซียนที่คิดจะแอบฟังก็ต้องผิดหวังและเดินกลับไป ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากรู้มันต้องเป็นเรื่องอะไรกันนะถึงทำเหมือนมันเป็นความลับขนาดนี้

“ลูกมีอะไรจะพูดกับพ่อแม่หรือเฟินเยว่” หลี่ซูเมิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ท่าทางที่เปลี่ยนไปของบุตรสาวทำให้นางแปลกใจไม่น้อย ปกติเฟินเยว่มักจะตัวติดกับฟางเซียนตลอด

“ลูกอยากขอโทษท่านพ่อและท่านแม่เจ้าค่ะ”

ขอโทษทั้งเรื่องที่เคยกระทำในชาติก่อนและในชาตินี้ ขอโทษที่เป็นลูกที่ไม่ได้ทำให้พวกท่านภูมิใจ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกท่านคาดหวัง

หลี่เฟินเยว่รู้ตัวว่าทำให้ครอบครัวต้องลำบากขนาดไหน ถึงไม่มีเรื่องประหารนางก็ยังทำให้ครอบครัวต้องเป็นทุกข์ใจมากอยู่ดี

ความรักมันทำให้เรากลายเป็นคนเสียสติไปได้จริงๆสินะ พอมองย้อนไปแล้วก็พึ่งรู้ตัวว่านางทำเรื่องโง่ๆไปตั้งหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน

“เรื่องอะไรกันลูก เมื่อครู่เจ้าก็ขอโทษพ่อกับแม่ไปแล้วพอแล้วเฟินเยว่”

“ลูกอยากขอโทษท่านพ่อกับท่านแม่อีกสักร้อยครั้งพันครั้งกับเรื่องที่ผ่านมา ให้อภัยให้กับความโง่เขลาของลูกด้วยเถอะนะเจ้าคะ”

ต่อให้ต้องขอโทษพวกเขาอีกกี่พันครั้งก็ไม่สามารถทำให้ความรู้สึกผิดที่กัดกินใจของเฟินเยว่ลดลงไปได้

“แม่ไม่เคยโกรธเจ้าเลย เฟินเยว่เจ้าเป็นลูกของแม่แล้วแม่จะทำใจโกรธเจ้าได้อย่างไร”

หลี่ฮูหยินดีใจที่ได้บุตรสาวคนเดิมกลับคืนมา ก่อนหน้านี้เฟินเยว่ก็เป็นเด็กสาวที่ร่าเริงสดใสปกติจนกระทั่งนางเริ่มสนิทกับฟางเซียนนางก็เริ่มเปลี่ยนไป เฟินเยว่เริ่มก้าวร้าวและใช้ความรุนแรงจนคนในครอบครัวเอือมระอา

“ที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันแล้วไปแล้วกัน ต่อจากนี้เจ้าก็กลับมาเป็นลูกสาวที่น่ารักของพ่อเหมือนเดิมนะเฟินเยว่”

ตั้งแต่ที่บุตรสาวคนรองเริ่มมีนิสัยก้าวร้าวเสนาบดีหลี่ก็แทบไม่อยากจะเห็นหน้าบุตรสาวด้วยซ้ำ เขาต้องโดนคำดูถูกจากขุนนางคนอื่นมากมายจนอยากมุดดินหนี เมื่อลูกรู้ตัวและรู้สึกผิดเขาก็พร้อมที่จะให้อภัย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel