บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 แววตาที่ว่างเปล่า

บทที่ 2 แววตาที่ว่างเปล่า

เรื่องราวของสกุลหลี่ถูกเล่าต่อๆกันไปจนทั่วทั้งเมืองหลวง เสนาบดีหลี่ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นขุนนางที่ได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทกลายเป็นขุนนางที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์จากการเล่าต่อกันอย่างใส่สีตีไข่ ถึงอย่างไรผู้คนก็ชอบฟังเรื่องที่มันเกินจริงกันอยู่แล้วพวกเขาไม่สนใจว่าความจริงจะเป็นอย่างไร

สกุลหลี่ถูกตัดสินความผิดร้ายแรงบทลงโทษของพวกเขาคือการประหารทั้งตระกูล แต่ที่น่าแปลกใจสำหรับทุกคนก็คืออนุและบุตรสาวคนที่สามของเสนาบดีหลี่กลับไม่ได้รับโทษด้วย

“เฟินเยว่…” เสียงเรียกหลานสาวของหญิงชราถูกเอ่ยขึ้นเสียงเบา

“เจ้าคะท่านย่า”

“เจ้ายังมีโอกาสมีชีวิตรอดนะเฟินเยว่ ย่าจะจัดการทุกอย่างให้เองพระองค์จะต้องยอมช่วยเจ้าเป็นแน่”

นางกับไทเฮานั้นเป็นสหายกันตั้งแต่ยังไม่ถึงวัยปักปิ่น หญิงชราเชื่อว่าพระองค์จะต้องช่วยเฟินเยว่แน่ๆหากนางขอร้อง

“มันไม่มีทางออกแล้วเจ้าค่ะ เป้าหมายในครั้งนี้ก็คือตัวข้าเองที่พวกเขาต้องการจะกำจัด”

“ใครกันที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ ! ”

เสนาบดีหลี่กระแทกกำปั้นกับกรงขังเสียงดัง เขาตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถมาทั้งชีวิตแล้วทำไมมันถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ แค่ท่านอ๋องคนเดียวจะจัดการใส่ร้ายเขาจนถึงขั้นได้รับโทษประหารได้เลยหรือไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด

“…”

หลี่เฟินเยว่รู้ดีว่าใครกันที่ทำให้นางและครอบครัวต้องมาพบเจอกับเรื่องราวเหล่านี้ เขาต้องเกลียดนางถึงขนาดไหนกันถึงได้หยิบยื่นความตายให้อย่างโหดร้ายเช่นนี้ แค่เพราะนางรักเขามากงั้นหรือ

หลี่เฟินเยว่พึ่งจะรู้ตัวได้ไม่นานว่าที่ผ่านมานางโดนน้องสาวหลอกใช้มาตลอด จากเด็กสาวสดใสกลายเป็นสตรีที่เดินไปที่ไหนผู้คนก็ต่างหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้เพราะกลัวว่านางจะไปทำร้ายร่างกายคนเหล่านั้น

ไม่ว่าสตรีหน้าไหนที่มาเข้าใกล้ท่านอ๋องหลี่เฟินเยว่ก็จะตามไปเอาคืนกับคนเหล่านั้นอย่างสาสม ยิ่งมีน้องสาวอย่างฟางเซียนที่คอยยุยงด้วยแล้วยิ่งทำให้เฟินเยว่กลายเป็นสตรีที่คนทั้งเมืองต้องเข็ดขยาด

เสียงกลุ่มคนเดินเข้ามาใกล้เรียกความสนใจของเฟินเยว่ให้หันไปมอง พวกเขาเข้ามาเปิดประตูและพาทุกคนออกไปที่ลานประหาร ทั้งชาวบ้านและเหล่าขุนนางมายืนรอดูกันแน่นบริเวณ พวกเขาต่างส่งเสียงก่นด่าดังระงม

‘ลูกชายของข้าต้องตายก็เพราะพวกเจ้า ! ’

‘หลี่เฟยหลงเจ้ากล้าทำได้อย่างไร’

‘พวกสารเลว’

‘คนอย่างพวกเจ้าไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่’

“หลี่เฟินเยว่ ! ”

เสียงก่นด่ามากมายไม่อาจทำให้หลี่เฟินเยว่สนใจได้มีเพียงเสียงของสตรีผู้หนึ่งที่ตะโกนเรียกที่ทำให้นางต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง

“ซินหยาน…” หลี่เฟินเยว่พึมพำชื่อของสตรีนางนั้นเสียงเบา

ซินหยานคือคนที่เฟินเยว่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งด้วยบ่อยครั้ง ทั้งคู่รักท่านอ๋องเหมือนกันทำให้มีเรื่องบาดหมางกันบ่อย บางครั้งก็ลามไปถึงการทำร้ายร่างกาย

ด้วยยศของบิดาของเฟินเยว่แล้วทำให้นางได้เปรียบตลอด เฟินเยว่เคยถึงขั้นทุบตีซินหยานจนนางมีบาดแผลที่ใบหน้าไม่กล้าออกจากบ้านไปหลายเดือน

บรรยากาศรอบตัวพลันสงบลง พวกเขาเงียบปากเพื่อจะฟังว่าทั้งคู่จะพูดอะไรกัน

“เจ้าคงคิดสินะว่าที่สิ่งที่เจ้าเจอช่างเป็นเรื่องโชคร้ายเสียเหลือเกิน” ซินหยานกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทันทีที่นางเริ่มเอ่ยปาก

เมื่อเฟินเยว่ไม่ตอบโต้ซินหยานก็ตัดสินใจพูดต่อไป

“แต่ข้าจะบอกให้ว่าเจ้าสมควรพบกับจุดจบเช่นนี้แล้ว”

ไม่ได้มีแค่ซินหยานที่หลี่เฟินเยว่ทำเรื่องเลวร้ายด้วย ยังมีสตรีอีกมากมายที่ต้องเจ็บตัวและเจ็บใจก็เพราะนาง บางคนถึงขั้นครอบครัวล่มจมเพียงเพราะแค่พวกนางเข้าใกล้ท่านอ๋องเท่านั้น

“ข้าขอโทษ”

ในวาระสุดท้ายของชีวิต หลี่เฟินเยว่ก็ตระหนักได้ว่าที่ผ่านมานางโง่งมเพียงใด นางทำให้คนอื่นต้องทุกข์ขนาดไหน

ถึงจะรู้สึกผิดขนาดไหนแต่นางก็ไม่ได้อยากให้ครอบครัวต้องมารับบทลงโทษด้วยพวกเขาไม่ได้ผิดอะไร ถ้าจะผิดพวกเขาก็ผิดเพราะรักนางเท่านั้น

“เพื่อบรรเทาความโกรธเคืองของชาวบ้านจากความผิดของหลี่เฟยหลง ก่อนการประหารฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ชาวบ้านทุกคนสามารถลงโทษพวกเขาก่อนได้”

ข้อหาลักลอบขายอาวุธให้ศัตรูเป็นเรื่องร้ายแรงและสร้างความโกรธแค้นให้คนทั้งเมือง หลังจากที่ขันทีผู้นั้นกล่าวจบเขาก็เดินหันหลังจากไป ชาวบ้านเหล่านั้นเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น

ทั้งเศษอาหารและของเน่าเปื่อยถูกโยนใส่คนสกุลหลี่ พวกเขาไม่เหลือเกียรติและศักดิ์ศรีใดๆอีกแล้ว

“ท่านแม่ ! ” หลี่เฟินเยว่พยายามดิ้นทุรนทุรายเพื่อจะเอาร่างกายของนางไปรับแรงกระแทกของท่อนไม้ที่โยนเข้ามาหามารดาของนาง

“โอ๊ย ! ” ท่อนไม้ขนาดยาวประมาณท่อนแขนถูกปาเข้ามาโดนที่ศีรษะของหลี่ฮูหยินเต็มๆ

“อย่านะ ! อย่าทำแม่ข้านะ ถ้าพวกเจ้าโกรธแค้นก็ให้มาลงที่ข้า”

หลี่เฟินเยว่ขอร้องพวกเขาเสียงสั่น น้ำตาที่กลั้นไว้ตลอดหลายชั่วยามไหลทะลักลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ดวงหน้างามแดงก่ำด้วยความโกรธที่ไม่สามารถปกป้องคนที่รักได้

เมื่อชาวบ้านลงโทษคนสกุลหลี่จนพอใจก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องได้รับโทษแล้ว ขันทีคนเดิมสาดน้ำใส่คนสกุลหลี่เพื่อทำความสะอาดร่างกาย แต่มันกลับสร้างความเจ็บแสบให้พวกเขามากกว่าเดิม

ครอบครัวนางโดนดูถูกเหยียดหยามเหมือนไม่ใช่คนถึงเพียงนี้ยังไม่พออีกหรือไงกัน โอกาสได้แก้ตัวหรืออธิบายก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ กระบวนการโดยทั่วไปก็ต้องมีการสืบสวนก่อนสิ

“จับมือพ่อไว้” หลี่เฟยหลงยื่นมือให้ภรรยาและบุตรสาวของเขากำไว้

เหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาต่างเดินเข้าไปประจำที่ของตน ในส่วนนี้จะมีเพียงคนแค่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่จะเข้ามาได้

“ท่านอ๋อง…” หลี่เฟินเยว่ไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาในพิธีประหารด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่เคยให้ความสนใจนางเลย เกลียดกันถึงขนาดอยากเห็นนางตายต่อหน้าต่อตาเลยสินะ

“หลี่เฟยหลงเจ้าทำความผิดร้ายแรง โทษของเจ้าคือการประหารทั้งตระกูล !” เสียงก้องกังวานเกี่ยวกับบทลงโทษคนสกุลหลี่ดังจนทุกคนได้ยินชัดเจน

“ฝ่าบาท ทรงให้กระหม่อมได้อธิบายเถอะพ่ะย่ะค่ะ” หลี่เฟยหลงคุกเข่าอยู่กับพื้นแขนและลำตัวของเขาถูกมัดติดกับท่อนไม้ไว้

“ประหาร ! ” ในเมื่อผู้ที่มีฐานะสูงส่งที่สุดไม่อยากจะฟังคนใต้บัญชาก็ต้องทำตาม

หลี่เฟินเยว่ไม่ได้สนใจว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น นางมองเข้าไปในดวงตาคมของบุรุษอันเป็นที่รัก นางแค่อยากเห็นว่าเขาจะมีความลังเลหรือเมตตาสักนิด แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับมีแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น

“ลาก่อนเพคะ” นางขยับปากบอกเขาเสียงเบา แต่มันก็ส่งไปไม่ถึงเจ้าตัวสักนิด ก่อนหน้าเฟินเยว่ได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่าถ้านางไม่เข้าไปยุ่งกับบุรุษผู้นั้นตั้งแต่แรกครอบครัวของนางก็คงจะไม่พบเจอกับจุดจบเช่นนี้ใช่หรือไม่

นี่คงเป็นจุดจบของนางแล้วสินะ ทุ่มเทเพื่อเขามากมายแต่สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมากลับทำให้นางและครอบครัวต้องมาตายเช่นนี้ หากชาติหน้ามีจริงเฟินเยว่ก็ขอแค่อย่าให้ต้องมาพบเจอท่านอ๋องและน้องสาวสารเลวนั่นอีกเลย

ฉึบ !

พิธีประหารจบลงอย่างท่ามกลางความสะใจและความเสียใจของใครหลายคน เลือดสีแดงฉานอาบย้อมไปกับสีแดงของชุดแต่งงานที่หลี่เฟินเยว่สวมอยู่อย่างกลมกลืน ศพของพวกเขาถูกนำไปทิ้งอย่างไม่ใยดีแม้กระทั่งตายไปแล้วก็ยังโดนเหยียดหยามจนถึงวาระสุดท้าย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel