บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ไม่อยากรู้จัก

ตอนที่ ๗

ไม่อยากรู้จัก

"เจ้าสองคนรู้จักกันด้วยหรอ" ถานเหยาแม่ของเถียนเจี้ยนซื่อถามอย่างสงสัย ก่อนจะเอะใจถึงหมูเหมยซาน ลูกชายของนางเพิ่งจะถามนางว่าเขาเหมือนหมูเหมยซานหรือไม่ แสดงว่าคุณหนูตระกูลเหยาสินะที่เป็นคนว่าเขา

"ไม่รู้จักเจ้าค่ะท่านน้า เพียงแต่เมื่อวานข้างเอิญเจอคุณชายโจ่วที่ตลาด ตอนกำลังเลือกซื้อปิ่นปักผม แล้วคุณชายโจ่วยังแย่งปิ่นปักผมค่าไปจ่ายเงินเสียก่อนทั้งๆที่ข้าเป็นคนเห็นก่อนแท้ๆ" ได้ทีเหยาเหม่ยเหม่ยรีบฟ้องถานเหยาทันที ให้นางรู้เสียหน่อยว่าบุตรชายของนางไม่มีความเป็นสุภาพุรุษสักนิด

"ถ้าเจ้าเห็นก่อน เจ้าคงหยิบก่อนแล้วล่ะคุณหนูเหยา แต่นี่ข้าหยิบก่อนแสดงว่าข้าเห็นก่อน" เถียนเจี้ยนซื่อยอกย้อนทันที หากเถียงกันด้วยเรื่องที่ว่าใครเห็นก่อนคงไม่อาจตัดสินได้ แต่ในเมื่อเขาหยิบได้ก่อน ปิ่นปักผมก็ควรต้องเป็นของเขาเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

"ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่ข้าเป็นหญิงทำไมท่านถึงไม่เสียสละให้ข้า อีกอย่างปิ่นปักผมอันนั้นเป็นของสตรี ท่านจะเอาไปทำไม" เหยาเหม่ยเหม่ยยังคงเถียงอย่างเอาแต่ใจ ปล่อยให้ถานเหยาและหย่างจื่อมองหนุ่มสาวโต้เถียงกัน อย่างไม่คิดห้ามปราม แบบนี้แหละดีแล้วหากได้แต่งงานกันคงลูกดกไม่น้อย 

"ที่เจ้าพูดมาล้วนถูกต้องแล้วคุณหนูเหยา ปิ่นปักผมอันนั้นเหมาะสำหรับสตรี แล้วท่านแม่ข้าไม่เป็นสตรีหรือไง แล้วอีกอย่างนะคุณหนูเหยา ข้าไม่เห็นถึงความจำเป้นต้องเสียสละให้กับคนที่ยืนว่าร้ายข้าเลย" เถียนเจี้ยนซื่ออธิบายเสียงเรียบ คุณหนูตระกูลเหยานี่ถอดแบบลูกสาวคนเล็กได้สมบูรณ์แบบเสียจริง นิสัยเอาแต่ใจแบบนี้ พ่อแม่และพี่ชายของคอยตามใจจนเสียนิสัยแน่ๆ

"แต่ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นคุณชายตระกูลโจ่วนี่นา" เหยาเหม่ยเหม่ยยังคงไม่ยอมแพ้ ถ้านางรู้ว่าบุรุษที่ยืนข้างกายนางเป็นคุณชายตระกูลโจ่วนางคงไม่นินทากับจางลู่ซื่อหรอก คิดแล้วโมโหชะมัด โดนคุณชายปากร้ายนี่แย่งปิ่นปักผมไม่พอ ยังโดนด่าว่าความคิดโสมมอีก

"ถ้าเจ้ารู้ว่าข้าคือคุณชายตระกูลโจ่ว เจ้าจะไม่ว่าข้างั้นหรอกรึ แต่ข้าคิดว่าไม่เพราะจากที่ข้าได้ยินที่เจ้าพูดกับสหายก็คงยังเลือกว่าข้าอยู่ดี" เดาเก่งเสียจริง แต่นางจะแก้ตัวอะไรได้ล่ะ ถ้าบอกว่าถ้านางรู้ว่าคนที่ยืนข้างกายนางเป็นคุณชายตระกูลโจ่วนางจะไม่ต่อว่า นั่นเท่ากับว่านางเป็นคนกลับกลอกสินะ แต่ถ้ายอมรับว่าใช่ถึงรู้นางก็ยังคงต่อว่าอยู่ดี แสดงว่านางเป็นคนดื้อด้าน รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังทำ จะทางไหนก็ทำให้นางเป็นคนดูไม่ดีอยู่ดี เหยาเหม่ยเหม่ยเลยเลือกที่จะนิ่งเงียบไว้เป็นการดีที่สุด

"ฝากไว้ก่อนเถอะ" มือบางกำแน่นอย่างพยายามข่มอารมณ์ นางต้องมาพ่ายแพ้ให้กับบุรุษที่ว่านางความคิดโสมมเนี่ยนะ ทั้งที่เคยคิดจะเอาคืน กลับทำอะไรไม้ได้เลย ไม่สมกับเป็นเหยาเหม่ยเหม่ยสักนิด ตั้งแต่ที่โดนเขาว่าตอกหน้า จนถึงตอนนี้นางยังไม่สามารถชนะบุรุษตรงหน้าได้เลย

"เห็นทีเราต้องหาฤกษ์มงคลจัดงานแต่งให้สองคนนี้เสียแล้ว ดูสิไม่ทันไรก้คุยกันถูกคอเชียว"

เดี๋ยวก่อนนะ ท่านน้าถานเหยา ท่านน้าเอาสายตาที่ไหนมองว่าข้ากับเถียนเจี้ยนซื่อคุยกันถูกคอ หากมีดาบวางอยู่ตรงหนน้าข้าคงฆ่าลูกชายท่านไปแล้ว

"ข้าว่าท่านน้าถานเหยาไม่ต้องรีบร้อนก็ได้เจ้าค่ะ ใช่ไหมคุนชายโจ่ว ท่านเห็นด้วยกับข้าหรือไม่เจ้าคะ" พูดไปแล้วก็อยากจะกัดลิ้น โกรธเคืองเขาอยู่แท้ๆกลับต้องขอความเห็นจากเขาเสียได้ เฮ้อ เหยาเหม่ยเหม่ย วันนี้นางก้าวเท้าไหนออกจากจวนนะ ทำไมถึงซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้

"ข้าเห็นด้วยกับท่านแม่นะ  ท่านน้าหย่างจื่อติดขัดตรงไหนหรือไม่" เถียนเจี้ยนซื่อตอบเสียงเรียบ หันไปยิ้มเยาะเหยาเหม่ยเหม่ยทันที ในเมื่อนางไม่อยากแต่ง เขาก็จะแต่ง แต่ถ้านางอยยากแต่งนั่นก็เป้นเรื่องที่ดีเข้าไปอีก

"แต่ข้ากับท่านเพิ่งรู้จักกันนะ มันจะเร็วเกินไปหน่อยไหม" เหยาเหม่ยเหม่ยกัดฟันอธิบาย นี่เขาโง่ แกล้งโง่ หรือจงใจแกล้งนางกันแน่นะ

"เพิ่งรู้จักก็ถือว่าได้รู้จักกันแล้ว"

ไม่อยากรู้จักโว้ย จะมาเพิ่งรู้จัก ถือว่ารู้จักแล้วก็แต่งกันได้เลยหรือยังไง มันต้องไม่ได้สิ คุณชายตระกูลโจ่ว รูปร่างหน้าตาก็ดี สติปัญญาก็ถือว่าใช้ได้ ทำไมไม่คิดจะดูตัวกับสาวอื่นก่อน หรือว่าเขามีความพิการด้านไหนที่ไม่อยากให้ผู้อื่นรับรู้นะ 

"แหม เถียนเจี้ยนซื่อช่างไปชายหนุ่มเลือดร้อนเหลือเกิน ทางข้าก็ไม่ได้ติดอะไรหรอกถานเหยา ออกจะยินดีมากกว่าที่จะได้ลูกเขยเป็นถึงแม่ทัพใหญ่" หย่างจื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ในที่สุดลูกสาวของนางก็ขายออกเสียที

"แต่ท่านแม่.."เหยาเหม่ยเหม่ยพยามยามที่ทักท้วง แต่หย่างจื่อยกมือห้ามไว้เสียก่อน นางจึงจำเป็นต้องหุบปากลงอย่างเสียไม่ได้

"คุณหนูเหยาติดขัดอะไรหรือ" น้ำเสียงนุ่มที่แฝงความยียวนของเถียนเจี้ยนซื่อนั้นยิ่งทำให้เหยาเหม่ยเหม่ยไม่พอใจเข้าไปอีก

"..."

"หรือคุณหนูเหยากลัวที่ต้องแต่งงานกับข้า อย่างนี้ที่ข้าได้ยินชาวบ้านเล่าลือถึงความกล้าหาญของคุณหนูเหยาก็เป็นเรื่องเท็จสินะ" เขาจงใจยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะนางเป็นคนไม่ยอมให้ใครดูถูก หากหย่างจื่อแม่ของนางไม่นั่งอยู่ตรงนี้ นางคงกางกรงเล็บข่วนหน้าเขาแล้วแน่ๆ

"ข้าไม่เคยกลัว แต่งก็แต่งสิ" นั่นไง ผิดจากที่เขาคิดเสียที่ไหน คุณหนูเหยาผู้หยิ่งทะนงหลงกลเขาเสียแล้ว

"ปากนะปาก ทำไมไวกว่าความคิดนะ หลงกลแม่ทัพเถียนจนได้ " เมื่อพูดไปแล้วเหยาเหม่ยเหม่ยก็อยากจะกัดลิ้นเสียให้ขาด คิดแล้วโมโหตัวเองยิ่งนัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel