บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ทำไมถึงเป็นท่าน

ตอนที่ ๖

ทำไมถึงเป็นท่าน

-นัดหมายพิธีดูตัว-

"ท่านแม่เตรียมอะไรเยอะแยะ ทางตระกูลเหยาก็ไม่ได้แร้งแค้นขนาดนั้นเสียหน่อย " เถียนเจี้ยนซื่อเอ่ยถามเมื่อเดินออกจากจวนมาเห็นท่านแม่ของเขาสั่งคนรับใช้จนของขึ้นรถม้าไม่หยุดหย่อนเสียที

"ยิ่งไม่แร้งแค้นยิ่งต้องเตรียมให้เยอะเข้าไว้ จะได้ไม่เป็นการดูหมิ่นเกียรติของตระกูลเหยา และจะได้ไม่ถูกชาวบ้านเอาไปลือว่าตระกูลโจ่วเตรียมของไปพิธีดูตัวไม่สมศักดิ์ศรี เราสองตระกูลล้วนมีชื่อเสียงทั้คู่ ตระกูลเหยาก็เป็นเศรษฐีของเมืองหยางเจา ส่วนพ่อเจ้าก็เป็นถึงขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในวัง ตัวเจ้าเองก็เถอะ ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ใหญ่โต ของแค่นี้ยังถือว่าน้อยไปเสียอีก เอ๊ะ หรือว่าแม่ควรหาอะไรมาเพิ่มอีกดีไหม" ถานเหยากระวีกระวาดในการตรวจสอบของที่ถูกทยอยขึ้นไปวางเรียงรายบนรถม้า นางรู้สึกว่าของเตรียมยังน้อยเกินไป

"อีกสักนิดก็ดีนะท่านแม่ ท่านว่าบ้านตระกูลเหยามีเสาเอกของบ้านหรือยัง เราควรจะถอนเสาเอกบ้านไปฝากเป็นของกำนัลด้วยดีไหม" เถียนเจี้ยนซื่อสัพยอกท่านแม่ของเขา ที่อยู่บนรถม้าก็ไม่น้อย ที่ยังไม่ได้ขนขึ้นไปจัดเรียงอีกก็มากโข ท่านแม่ของเขายังจะมีมาบอกว่ายังน้อยเกินไปอีก

"เจ้าลูกคนนี้นี่ แล้วนี่เจ้าจะแต่งตัวเช่นนี้ไปหรือไงกัน" แม้จะะหมั่นเขี้ยวที่ลูกชายของนางขยันขัดขวางความคิดของนางก็ตาม แต่พอนางสำรวจการแต่งกายขอลูกชายนางแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที ชุดใหม่ที่นางอุตส่าห์ไปเลือกซื้อมาเตรียมไไว้ให้ ทำไมเขาไม่หยิบมาใส่ กลับเลือกใส่ชุดเดิมที่ดูเก่า และสีหม่นไปมากทีเดียว

"เสื้อผ้าเป็นแค่เครื่องแต่งกาย หากคุณหนูตระกูลเหยามองคนแค่เพียงเครื่องแต่งกาย ก็ไม่สมควรมาเป็นภรรยาของข้าหรอกท่านแม่"

"แต่.."

"ข้าคิดว่าเสื้อผ้าที่ข้าใส่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียด ท่านแม่ไม่ต้องกังวลไปนัก บางทีนางอาจจะไม่ได้สนใจเสื้อผ้าที่ข้าใส่เสยด้วยซ้ำ" เถียนเจี้ยนซื่อยังคงพูดเสียงเรียบ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เห็นเสื้อผ้าที่แม่ของเขาเตรียมไว้ให้ เสื้อผ้าถูกวางอย่างประณีตและโดดเด่นเสียขนาดนั้น เขาก็มิใช่คนตาบอด เพียงแต่เขาจงใจใส่เสื้อผ้าชุดเก่านี้เอง ก็ในเมื่อเหยาเหม่ยเหม่ยคิดว่าเขาคงดูทุเรศเหมือนหมูเหมยซาน เขาก็ไม่จำเป็นต้องแต่งกายให้ประณีตถูกไหม

-สถานที่นัดหมาย-

ประตูห้องอาหารที่ถูกจัดแยกเป็นสัดส่วนถูกพนักงานประจำร้านเปิดออก ร่างบางของหย่างจื่อเดินนำบุตรสาวเข้าไปก่อน ด่านในมีถานเหยาและเถียนเจี้ยนซื่อนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองลุกขึ้นต้อนรับการมาของหย่างจื่อและเหยาเหม่ยเหม่ย

"สวัสดีท่านน้า ดีใจที่ได้พบท่านอีกครั้ง " เถียนเจี้ยนซื่อกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง เขาเคยพบหย่างจื่อกับจ่างเหว่ยซื่อเมื่อสมัยยังเป็นเด้ก ก่อนจะถูกส่งเข้าไปเล่าเรียนในราชวัง และได้เป็นแม่ทัพเช่นปัจจุบัน

"สวัสดีๆ เถียนเจี้ยนซื่อหรอเนี่ย โตมาเป็นบุรุษรูปงามเสียจริง" หย่างจื่ออดชื่นชมไม่ได้ หวังว่าเหยาเหม่ยเหม่ยบุตรสาวของนางจะตกหลุมพลางความรูปงามของชายหนุ่มตรงหน้าบ้าง 

"ขอบคุณท่านน้า ท่านน้าเองก็ยังงดงามและยังดูสาวไม่เสื่อมคลายเลยทีเดียว"

"แหม ลูกชายเจ้านี่ปากหวานเสียจริงนะถานเหยา แบบนีสาวๆคงตามเป็นพรวนเป็นแน่" หยางจื่อเอ่ยกระเซ้าถานเหยาด้วยความเอ็นดูบุตรชายของนาง

"ถ้ามีสาวตามเป็นพรวนอย่างที่เจ้าว่าก็คงจะดีไม่น้อย แต่นี่ไม่มีเลย จนข้าล่ะเหนื่อยใจ แล้วเหยาเหม่ยเหหม่ยไปไหนเสียล่ะ" ถานเหยาถามถึงบุตรสาวของหยางจื่อ นางได้ยินชื่อเสียงของการหลบหลีกการเข้าดูตัวของเหยาเหม่ยเหม่ยมาไม่น้อย และนางเองก็หวังว่าคุณหนูตระกูลเหยาคงไม่หนีพิธีดูตัวของนางกับลูกชายนาง

"แล้วกันเจ้าลูกคนนี้ เดินตามกันมาแท้ๆ หายไปตอนไหนเสียได้ เจ้าไปตามคุณหนูหน่อยสิ หนีไปเถลไถลที่ไหนอีกแล้ว"

หย่างจื่อหน้าเสียเล็กน้อยที่หันมาไม่เจอบุตรสาวที่เดินตามกันมา มาหนีหายไปตอนไหนกันนะ จึงสั่งสาวใช้ให้ออกไปตามหาก่อนที่นางจะเตลิดไปไกล

"ข้ามาแล้ว ไม่ต้องไปตามหรอก" เหยาเหม่ยเหม่ยเปปิดประตูเข้ามา นางแค่ไปทำธุระส่วนตัวครู่เดียวเท่านั้น ทำไมท่านแม่ต้องคิดว่าจะเถลไถลไปไหนด้วย ไม่ไว้ใจนางสักนิด ในเมื่อนางบอกว่านางจะมาก็คือนางมา เห็นนางเป็นหญิงแต่นางก็ถือสัจจะเป็นสำคัญเหมือนกันนะ

"ข้าขอโทษท่านน้าถานเหยาด้วยนะเจ้าคะ ที่ปล่อยให้ท่านรอ พอดีเมื่อสักครู่ข้าคงตื่นเต้นไปหน่อยเลยรู้สึกปวดท้อง" เหยาเหม่ยเหม่ยอธิบาย น้ำเสียงหวานชวนฟังทำให้ถานเหยาไม่ถือโทษโกรธเคืองนางสักนิด

"ข้าเข้าใจ สมัยข้ายังสาวตอนที่ท่านพ่อท่านแม่ของข้าพาไปดูตัวกับเซิ่งเฉิ่งข้าก็เป็นเหมือนเจ้านั่นล่ะคุณหนูเหยา" ถานเหยาเอ่ยอย่างเอ็นดู นานมากแล้วที่นางไม่ได้เจอเหยาเหม่ยเหม่ย ตอนนี้หญิงสาวตรงหน้าช่างงดงามจับตายิ่งนัก เหมาะสมแก่การรับข้าเป็นสะใภ้ตระกูลโจ่วเป็นที่สุด

"ท่านน้าถานเหยา เรียกข้าว่าเหม่ยเหม่ยเหมือนที่เคยเรียกก็ได้เจ้าค่ะ ยังไงเสียข้าก็เป็นผู้น้อย" เหยาเหม่ยเหม่ยถ่อมตัว

"อ้อจริงสิ ข้าลืมแนะนำเจ้าไปเลย นี่โจ่วเถียนเจี้ยนซื่อ ลูกชายของข้า พวกเจ้าทั้งสองคงไม่เคยพบกัน ทำความรู้จักกันไว้เสียสิ" เถียนเจี้ยนซื่อเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเหยาเหม่ยเหม่ย เขานึกขันสีหน้านางที่เห็นหน้าเขา

"ท่าน" เหยาเหม่ยเหม่ยยกมือชี้หน้าเถียนเจี้ยนซื่อด้วยความตกใจ  ทำไมถึงเป็นเขาล่ะ แสดงว่าเมื่อวานที่นางนินทาว่าให้คู่หมายที่ต้องมาพิธีดูตัวเขาก็ได้ยินหมดเลยสิ

"สวัสดีคุณหนูเหยาเหม่ยเหม่ย เจ้าตกใจที่เห็นเป็นข้า หรือตกใจที่ข้าไม่เหมือนหมูเหมยซานอย่างที่เจ้ากล่าวหา" ปลายปากหยักยกยิ้มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เหยาเหม่ยเหม่ยรู้สึกหน้าชาไม่น้อย มิน่าล่ะเขาถึงว่านางโสมม

"ข้าก็ไม่คิดว่าจะมีคู่หมายดูตัวเป็นพวกชอบแอบฟังคนอื่นคุยกัน " เหยาเหม่ยเหม่ยเถียงเสียงเขียว

"โดยปกติข้าก็ไม่ได้สนใจเรื่องของผู้อื่นเท่าไหร่นัก แต่เรื่องที่เจ้ากับสหายของเจ้าคุยกันดันเป็นเรื่องของข้านี่สิ ข้าเลยต้องฟังเสียหน่อย  อย่างน้อยข้าก็รู้ว่าเจ้าว่าข้าเป็นหมูเหมยซาน" พูดแล้วเขาก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ เขานี่หน้าตาน่าเกลียดราวกับหมูเหมยซานเลยหรือไงกัน หน้าก็ไม่เคยเห็นยังจะกล้ามาเอาเขาไปเปรียบเทียบกับหมูอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel