บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 สัญญาสองตระกูล

ตอนที่ ๓

สัญญาของสองตระกูล

"เหม่ยเหม่ย วันนี้ทำไมเจ้าถึงออกมาเดินเล่นที่ตลาดได้ล่ะ" จางลู่ซื่อเพื่อนสนิทของเหยาเหม่ยเหม่ยเอ่ยขึ้น เมื่อเห็เหยาเหม่ยเหม่ยเดินเตะฝุ่นไปมาอย่างคนที่ไม่รู้จะไปที่ไหน

"ข้าหนีท่านพ่อกับท่านแม่มานะสิ เจ้ารู้ไหม ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้ายังไม่ล้มเลิกการจับคู่ดูตัวให้ข้าเลย นี่เอาสัญญาที่ให้ไว้กับตระกูลโจ่วมาบังคับให้ข้าไปดูตัวกับคุณชายบ้านนั้น" เหยาเหม่ยเม่ยบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะแวะดูปิ่นปักผมที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ

"คุณชายบ้านตระกูลโจ่วงั้นหรอ ข้าได้ยินมาว่าคุณชายตระกูลโจ่วรูปงาม แถมยังฉลาดปราดเปรื่องด้วยนะ"

"เฮอะ ถ้ารูปงามจริงคงแต่งงานมีคู่ไปนานแล้วล่ะ คงไม่เสียเวลามานัดพิธีดูตัวเช่นนี้หรอก ข้าว่าคุณชายตระกูลโจ่วคงอ้วน เตี้ย ดำ หน้าตาดูไม่ได้ ส่วนเรื่องฉลาดหลักแหลมก็คงจะจริงอย่างที่เขาลือกันนั่นแหละ ไม่เช่นนั้นคงไม่ทำศึกชนะจนนับไม่ถ้วนแบบนี้หรอก" มือบางยังคงเลือกปิ่นปักผม โดยไม่สนใจชายร่างสูงที่ยืนเคียงข้างในเวลานี้ ไม่แปลกนักหากนางจะไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของเขา โดยส่วนใหญ่เขาจะอยู่ในราชวัง สนามซ้อมรบ แล้วก็สนามรบ นอกจากนั้นเขาจะหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน หากแต่พรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดท่านแม่ของเขา เขาจึงคิดว่าจะออกมาหาของขวัญให้ท่านแม่สักชิ้น 

"เจ้าเป็นคนตัดสินคนตั้งแต่ภายนอกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" จางลู่ซื่อเอ่ยถาม เหยาเหม่ยเหม่ยคนนี้นอกจากเป็นคนชาญฉลาดแล้วยังเป็นคนจิตใจดีอีกด้วย

"ก็ตั้งแต่ที่พ่อบังคับข้าให้ไปดูตัวกับคุณชายตระกูลโจ่วนั่นล่ะ เจ้าลองคิดดูนะว่าหากคุณชายตระกูลโจ่วเป็นอย่างที่ข้าพูดจริงๆ เท่ากับว่าข้าต้องแต่งงานกับหมูเหมยซานเลยนะ " หยิงสาวทำหน้ายู่ จนเพื่อนอดหัวเราะตามมิได้

"เจ้าก็สรรหาคำเปรียบเทียบ ทำไมเจ้าไม่ลองไปตามที่ท่านพ่อของเจ้าบอกล่ะ บางทีคุณชายตระกูลโจ่วอาจจะหล่อเหลาจนเจ้าตกหลุมรักก็ได้นะ"

"ไม่มีทางที่ข้าจะตกหลุมรักคุณชายตระกูลโจ่วหรอก ถ้าตัดเรื่องหน้าตาที่จะเหมือนหมูเหมยซานออก ข้าว่าชายที่ต้องให้พ่อแม่หาคู่ให้ คงเป็นคนพูดจาไม่น่าฟัง อารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราดแน่ๆ อยู่ด้วยกันข้าคงได้เป็นบ้าแน่นอน"

"ว่าแต่ท่านพ่อของเจ้าไปสัญญาอะไรไว้กับตระกูลโจ่วหรอเหม่ยเหม่ย"

"สัญญาวัยเด็ก  ก่อนที่ท่านโจ่วเซี่ยเฉิ่งจะสอบติดเป็นขุนนางในวัง ส่วนพ่อข้าก็ยังเป็นพ่อค้าเช่นทุกวันนี้ เพื่อนรักเพื่อนตาย หากมีลูกสาวลูกชายจะให้แต่งงานกัน คิดเองกันทั้งนั้น ไม่คิดบ้างหรือไงว่าจะทำให้ข้าลำบากใจภายหลัง นี่ถ้าข้าต้องแต่งงานกับหมูเหมยซานจริงๆข้าจะต้องทำยังไงล่ะลู่ซื่อ"

"เจ้าก็ช่างหาข้อกล่าวหามาตินัก แล้วเจ้าเลือกได้หรือยัง ข้าใกล้ได้เวลากลับจวนแล้วนะ "จางลู่วื่อเตือนสติเหยาเหม่ยเหม่ยที่หยิบปิ่นปักผมมาดูแล้วก็วางนับสิบอันแล้ว

"เอาอันนั้นก็ได้ เขาว่ากันว่าสีแดงเป็นสีมงคล"มือบางที่กำลังจะยื่นไปหยิบปิ่นปักผมที่ประดับด้วยอัญมณีสีแดง แต่กลับช้ากว่ามือหนาที่คว้าได้ก่อน

"นี่ท่าน ข้าเห็นก่อนนะ" เสียงแหวของเหยาเหม่ยเหม่ยดังลั่นทั่วละแวกนั้น นางเป็นคนยอมคนเสียที่ไหนกันล่ะ สายตาเขียวปั๊ดที่จ้องชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง 

หน้าตาก็ดี ทำไมมารยาทถึงทรามนักนะ เหยาเหม่ยเหม่ยสำรวจชายร่างสูงตรงหน้า ขนาดนางสูงกว่าหญิงทั่วไปแล้ว แต่ก็ยังสูงเพียงไหล่ของเขาเท่านั้น คิ้วหนาคมเข้มเป็นสัน รับกับจมูกโด่งเชิดสมส่วนกับใบหน้าได้เป็นอย่างดี ปากหนาหยักเข้ารูปทรงสวย ผิวขาวละเมียดประหนึ่งหญิงสาว ติดเสียดูดำแดดเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชายตรงหน้าดูดีลดน้อยลง กลับยิ่งดูน่ามองมากขึ้นไปอีก มันจะงดงามเกินไปแล้ว

"แต่ข้าหยิบได้ก่อน" เถียนเจี้ยนซื่อเอ่ยเสียงเรียบ 

นี่นะหรอคุณหนูสี่ เหยาเหม่ยเหม่ยที่ท่านแม่พูดถึง ถ้าตัดวาจาร้ายๆที่พ่นกล่าวหาเขาเมื่อครู่ นางเป็นคนที่สวยจนหาตัวจับยากมากทีเดียว นัยย์ตาสวยราวกับกวางป่า รับกับคิ้วทรงคันธนูได้รูป ใครเป็นคนกันคิ้วให้นางกันนะ ช่างฝีอดีเสียจริง จมูกบางที่เชิ่ดๆรั้นๆบ่งบอกนิสัยดื้นของหญิงสาวได้อย่างดี บางบางกระจับสีเสมือนผลเชอรี่สุกช่างงดงามเกินกว่าจะพ่นวาจาน่าชังอย่างที่เขาได้ยิน

"แต่ท่านเป็นผู้ชาย ท่านจะซื้อปิ่นปักผมไปใยเล่า" น้ำเสียงช่างเปลี่ยนไปไวนัก เมื่อครู่ยังตวาดเขาเสียงเขียวอยู่เลย สายตาเหมือนนางจิ้งจอกที่ยนางกำลังทำนั่นหมายความว่าอะไรนะ

"ทำไมข้าถึงซื้อปิ่นปักผมอันนี้ไม่ได้ ในเมื่อข้าชอบมันและข้าหยิบได้ก่อน" เถียนเจี้ยนซื่อเถียงเหยาเหม่ยเหม่ยทันที หากเป็นทุกครั้งเขาคงยอมเสียสละตามวิสัยสุภาพบุรุษได้ไม่ยาก แต่กลับแม่นางเหยาเหม่ยเหม่ย เขาอยากจะสั่งสอนนางเสียหน่อย

"ข้าก็บอกท่านอยู่ว่าท่านเป็นผู้ชาย และข้าเป็นผู้หญิง ปิ่นปักผมอันนั้นเหมาะกับข้ามากกว่าท่าน ยกเว้นเสียแต่..." เหยาเหม่ยเหม่ยจงใจทิ้งคำพูดให้ชวนคิดไว้เพียงแค่นนั้น

"ยกเว้นแต่อะไร" เถียนเจี้ยนซื่อรู้ว่านางหมายถึงอะไร แต่เขาไม่อยากใส่ความนางเพียงเพราะนางพูดไม่กระจ่าง

"ท่านจะรักสวยรักงามเช่นหญิงเหมือนข้า" นั่นปะไร คิดไว้ไม่มีผิด

"ข้าคงห้ามความคิดอันโสมมของเจ้าไม่ได้หรอก หากเจ้าสบายใจจะคิดเช่นนั้นก็ตามแต่ความต้องการของเจ้าเถิด พ่อค้า ข้ารับปิ่นอันนี้" เขายื่นปิ่นปักผมในมือให้พ่อค้า ก่อนจะจ่ายเงินและเดินหนี ทิ้งให้เหยาเหม่ยเหม่ยยืนหน้าชาที่โดนชายหนุ่มต่อว่า

"ปากร้ายชะมัด" จางลู่ซื่อที่ตั้งสติได้ก่อน อุทานด้วยความเหลือเชื่อ นางยอมรับว่าบุรุษตรงหน้าเมื่อครู่หล่อเหลาจนใจสั่นละลายได้ไม่ยาก แต่พ่นคำพูดมาแต่ละคำช่างน่าสยดสยองมาก ขนาดนางไม่ใช่คนโดนว่านางยังหน้าขนาดนี้ แล้วเหยาเหม่ยเหม่ยล่ะจะรู้สึกขนาดไหน

"ข้าละอยากจะเลาะฟันในปากเขานัก" เหยาเหม่ยยเหม่ยยืนกำหมัดหน้าแดงด้วยความโกรธ ถึงนางจะปะทะฝีปากกับพี่น้องด้วยวาจาที่รุนแรงมานักต่อนัก แต่ก็ไม่เคยโดนต่อว่าขนาดนี้มาก่อนเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel