บทที่6
สีหน้าของหญิงสาวยังคงความเศร้าหมอง แม้จะผ่านไปแล้วครึ่งค่อนวัน พิงค์ไวท์ยังคงนั่งอยู่บนม้าหินอ่อนภายในสวนดอกไม้ สายลมพัดผ่านโอบล้อมเอาความหนาวเย็นมาให้ แสดงแดงรำไรไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกร้อนเพราะมีต้นไม้ช่วยแผ่กิ่งก้านใบบดบังให้เธอได้คลายร้อน
"คุณหนูคะ"โทนเสียงคุ้นเคยขึ้นดังมาจากทางด้านหลังทำให้พิงค์ไวท์รู้สึกตัวในขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยลอยแตะเข้าจมูกโด่งของหญิงสาวเมื่อป้าบัวเดินถือถาดอาหารเข้ามาใกล้
"ป้ารู้ว่าคุณหนูยังไม่หิว แต่ช่วยทานอะไรสักหน่อยเถอะนะคะ ถือว่าป้าขอ"อาหารจานเดียวฉบับเรียบง่ายถูกวางลงบนโต๊ะหินอ่อนตรงหน้าของพลอยชมพู
ดวงตาสั่นเครือมองจานอาหารตรงหน้า หวนให้นึกถึงมารดาที่เสียไป
"ผัดกะเพราไม่เผ็ดมากกับไข่ดาวแบบที่คุณหนูชอบ"ริมฝีปากของป้าบัวเผยรอยยิ้มออกมาในขณะที่พูดถึงเมนูอาหาร
"แม่เคยทำให้พิงค์ทาน"
"ใช่ค่ะ มีแค่คุณหนูที่ทานเผ็ดมากไม่ได้ ส่วนคุณใหญ่กับคุณหนูรอง"
"พี่ ๆ ทั้งสองของพิงค์ชอบทานเผ็ดมาก"ริมฝีปากสวยเป็นธรรมชาติคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนหญิงสาวจะยื่นมือไปคว้าช้อนตักอาหารขึ้นมาทาน
"รสชาติเหมือนที่แม่ทำเลยค่ะป้าบัว"หญิงสาวเอ่ยชมถึงรสชาติที่เคยได้ลองชิมจากฝีมือของมารดา
"เมื่อก่อนตอนที่คุณหญิงยังมีชีวิตอยู่ เวลาว่างท่านก็จะใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในครัวเพื่อสอนสูตรอาหารที่คุณหนูทั้งสามชอบให้ป้าได้เรียนรู้"คำพูดของป้าบัวทำให้หญิงสาวจำต้องเงยหน้ามอง
"คุณหญิงท่านไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ก่อนจะพบรักกับคุณท่าน คุณหญิงเป็นเพียงแค่แม่ค้าขายอาหารตามสั่งอยู่ในชุมชน"ในขณะที่ป้าบัวพูดแววตาและสีหน้าบ่งบอกถึงความชื่นชมต่อผู้ล่วงลับ
"คุณหญิงเธอเป็นผู้หญิงแกร่ง หนักเอาเบาสู้มาตั้งแต่เกิด เธอไม่เคยคิดจะแบบมือขอเงินคุณท่านเลยสักครั้ง คุณหญิงเคยเล่าให้ป้าฟังว่าที่เธอยอมแต่งงานกับคุณท่านมันไม่ได้เป็นเพราะว่าคุณท่านรวยหรือมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่"
'ทำไมคุณแม่ถึงแต่งงานกับป๊าล่ะคะ'เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบเอ่ยถามมารดาในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยอยู่ในห้องนั่งเล่น
'หืม เมื่อกี้ลูกถามแม่ว่าอะไรนะ'
'หนูถามคุณแม่ว่า ทำไมคุณแม่ถึงแต่งงานกับป๊าล่ะคะ'
'หึ แก่แดดจังเลยนะเรา อายุแค่นี้ใครสอนให้ถามเรื่องแบบนี้กัน'พราวนารายิ้มออกมากับความคิดและคำถามที่ดูเหมือนว่าจะเกินอายุของลูกสาว
'ที่แม่แต่งงานกับป๊าก็เป็นเพราะว่า แม่รักป๊าของหนูยังไงล่ะคะ'
'รักเหรอคะ ความรักมันเป็นหน้าตาแบบไหนคะ'เด็กน้อยในวัยเจ็ดขวบยังคงถามต่อด้วยความสงสัยแต่คำถามของเด็กน้อยในตอนนั้นมันยากที่ผู้เป็นแม่จะอธิบายได้
'ไว้หนูโตขึ้นแล้วหนูก็จะรู้เองค่ะ ว่าความรักมันหน้าตาแบบไหน ไปค่ะ ไปทานอาหารมื้อเที่ยงกันดีกว่า เดี๋ยวแม่จะทำอาหารไทยที่หนูชอบให้ทาน'
'เย้'
"ที่แม่ยอมแต่งงานกับป๊ามันเป็นเพราะความรักใช่ไหมคะ"ป้าบัวพยักหน้า หญิงวัยชรานั่งลงบนเก้าอี้ข้างกายของหญิงสาว
"ความรักมันคือสิ่งสวยงามนะคะคุณหนู"
"สิ่งที่สวยงามเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ ความรักคือสิ่งที่สวยงาม เหมือนกับความรักที่คุณท่านพ่อของคุณหนูมีให้แต่กับคุณหญิง"จริงสินะ ความรักของบิดามารดามันคือสิ่งสวยงามในสายตาของบรรดาลูก ๆ ทั้งสาม
แม้บิดาของเธอจะมีทรัพย์สินมากมาย รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาดูดีเพียบพร้อมมีผู้หญิงมากมายรายล้อม แต่ท่านก็ไม่คิดจะมองหญิงอื่นใด ในสายตาของท่านมีเพียงแค่มารดาของเธอ แม้ทั้งสองจะไม่ได้ครองคู่ด้วยกันไปจนถึงยามแก่เฒ่า แต่บิดาของเธอก็ไม่คิดจะพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาแทนที่ของมารดา
"ทานข้าวเถอะค่ะคุณหนู เดี๋ยวจะเย็นชืดหมดเสียก่อน"
"ได้ค่ะ แต่ ป้าบัวคะ พรุ่งนี้ตอนเช้าให้คนเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหารพวกนี้ให้พิงค์หน่อยนะคะ"
"คุณหนูจะทำอาหารเหรอคะ"
"ค่ะ"ม่านดวงตาของป้าบัวเริ่มขยายใหญ่
"พิงค์อยากทำกล่องอาหาร ไว้ให้ทุกคนเอาไปทานที่ทำงาน รบกวนป้าบัวเตรียมของให้พิงค์ด้วยนะคะ"
"ได้ค่ะคุณหนู"รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาวปรากฏขึ้นก่อนเธอจะลงมือทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยโดยมีสายตาของป้าบัวคอยลอบมองมา
'คุณหนูเล็กเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคะคุณหญิง'
ปึก ปึก ปึก ปึก
ตุบ
"มีแรงแค่นี้เองเหรอวะไอ้ทิศ"
"โธ่ ไอ้เวร กูพึ่งไปวิ่งกลับมาถึงค่าย มึงก็ลากกูมาซ้อมต่อไม่คิดจะให้กูพักสักนิดเหรอวะ"
"ไม่ว่ะ แกล้งมึงสนุกดี"
"ไอ้เวร"เข็มทิศหยุดกายลุกขึ้นหลังจากถูกฝ่าเท่าของกันต์ถีบเข้ากลางอกจนเสียหลักล้มตัวนอนคุดคู้กับเวทีมวย
"มึงช่วยออมแรงให้กูหน่อยได้ไหมวะ ไอ้ห่าเตะทีกูกระเด็นเลย"ว่าแล้วก็ยกมือตั้งการ์ดสอบเท้าเดินเข้าไป
พึ่บ
หมัดแรกพลาดเพราะกันต์หลบได้ เข็มทิศหมายจะใช้ขาฟาดเข้าข้างลำตัวแต่นักมวยคนเก่งก็ยังจับทางได้ใช้ท่อนแขนล็อกขาเอาไว้จนทิศเหนือเซล้มลงบนเวทีอีกครั้ง
ตุ๊บ
"อั๊ก ไอ้เวร"
"พอ ๆ มึงไปพักก่อนไป เดี๋ยวกูไปหาพี่ยอดก่อน"
"มันควรจะเป็นอย่างนี้ตั้งนานแล้วไอ้สันขวาน"กันต์กระตุกยิ้มถอดนวมวางไว้ก่อนจะเดินลงไปจากเวทีเพื่อไปหาอาจารย์ฝึกมวยให้กับตนที่ยืนกวักมือเรียก
"มีอะไรพี่ยอด"
"ไม่เรียกกูว่าอาจารย์แล้วนะมึง"
"ไม่ล่ะ อาจารย์มันแก่เกินไป"กันต์ยกไหล่คว้าขวดน้ำขึ้นมาเปิดดื่มเพื่อดับกระหาย
"เอ้อ เดี๋ยวซ้อมเสร็จมึงชวนไอ้ทิศกับไอ้กองไปเอาข้าวที่บ้านป้าสายใจด้วยนะ กูโทรไปสั่งแล้ว ส่วนพวกเครื่องดื่มที่จะเอามาเลี้ยงฉลองกัน เดี๋ยวคนของคุณอัศวินจะเอามาส่ง"
"ได้ครับพี่"
"ไฟล์ที่แล้วมึงทำได้ดีมากเลยนะไอ้กันต์ กูหวังว่าไฟล์ต่อไปมึงจะทำได้ดีแบบนี้อีกนะ"
"ผมจะไม่ทำให้พี่ยอดผิดหวังแน่นอนครับ"
"รักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้ตลอดไปล่ะ อย่าให้ใครสอยลงมาซะก่อน"อาจารย์ผู้ผ่านประสบการณ์มานานเอ่ยสอนลูกศิษย์ของตัวเองด้วยความหวังดีซึ่งคำสอนนี้เป็นสิ่งที่อาจารย์ยอดสอนนักมวยในค่ายมาหลายต่อหลายคน
"ไป ๆ ไปซ้อมต่อได้ เดี๋ยวอีกสักพักมึงค่อยชวนสองตัวนั่นไปเอาข้าว"
"ครับพี่ยอด"
พรึ่บ
"ไอ้นี่ ได้ทีละเอาใหญ่"กันต์หลบฝ่าเท่าของอาจารย์ยอดได้อย่างเฉียดฉิวก่อนเจ้าตัวจะเดินไปยังเครื่องออกกำลังกายแบบลู่วิ่งที่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าของค่าย
บรืน
แต่ยังไม่ทันที่กันต์จะได้ก้าวเท้าขึ้นไป รถเบนซ์คันหรูสีขาวได้เคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังที่ประจำของใครบางคน ซึ่งคนคนนั้นเป็นคนสำคัญของค่ายนี้เหมือนเช่นเดียวกัน
"กันต์"เสียงหวานที่ดังขึ้นทันทีเมื่อเจ้าตัวก้าวขาลงมาจากรถคันนั้นดึงดูดสายตาของนักมวยในค่ายให้มองมายังทั้งคู่
"หมอปิ่น"
"ปิ่นมาแสดงความยินดีที่กันต์สามารถรักษาแชมป์เอาไว้ได้"สาวสวยผิวขาวยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มตรงหน้า ผู้ชายที่เธอแอบชอบมานาน แต่ทว่า
"ขอบคุณนะครับ ผมขอตัวไปซ้อมก่อนนะเดี๋ยวจะต้องออกไปทำธุระให้อาจารย์ยอดต่อ"
"เอ่อ ค่ะ"หญิงสาวไม่รู้ว่าตัวเองในตอนนี้ควรจะแสดงสีหน้ายังไงดีกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ
แม้เธอจะแสนดีและแสดงออกว่ารู้สึกกับอีกฝ่ายยังไง แต่ดูเหมือนว่าความรู้สึกของเธอกับอีกฝ่ายมันจะตรงกันข้ามกัน
