
บทย่อ
ศีลข้อห้าเขาห้ามกินเหล้า แล้วศีลข้อไผนเล่าเขาห้ามกินนักมวย
บทที่1
ปักกิ่ง ประเทศจีน
บรรยากาศอันแสนร่มรื่นมีกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่แผ่ปกคลุมแสงแดดให้กับผู้คนที่เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ สีหน้าของเด็กน้อยแก้มแดงดูดีมีรอยยิ้มสดใสเหมือนกับมารดาของเธอที่กำลังนั่งยิ้มให้อยู่ข้างกาย
"แม่ขา เมื่อไหร่แม่จะพาพิงค์กลับไปเที่ยวเมืองไทยอีกคะ พิงค์อยากไปเที่ยวทะเลอยากไปเล่นน้ำตกที่นั่น อยากทานอาหารที่แม่ทำ"เสียงหวานของเด็กน้อยในวัยสิบขวบดังเจื้อยแจ้วจนมารดาต้องยิ้มออกมากับคำถามและความน่ารักของเด็กน้อย
ฝ่ามือเรียวบางค่อย ๆ ยื่นไปสัมผัสแก้มขาวอมชมพูอย่างแผ่วเบา'พราวนารา'บรรจงเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของลูกสาวด้วยความอ้อยอิ่ง แววตาอ่อนโยนของหญิงสาวชาวไทยแท้มองหน้าบุตรสาวคนสุดท้องด้วยความรัก
"ช่วงนี้ป๊าทำงานหนัก เอาไว้ใกล้จะปีใหม่แม่จะลองพูดกับป๊าให้ ดีไหมจ๊ะ"
"แต่หนูอยากไปเดี๋ยวนี้ แม่ช่วยพูดกับป๊าให้พาพวกเราไปเที่ยวที่เมืองไทยไม่ได้เหรอคะ พิงค์เชื่อว่าเฮียแบล็กกับเจ้เรสก็ต้องอยากไปเหมือนกับพิงค์"เด็กสาวทำปากยื่นจนคนเป็นแม่รู้สึกเห็นใจ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถทำตามความต้องการของลูกน้อยได้
"ตั้งแต่พิงค์เกิดมาจนถึงตอนนี้ พิงค์แทบจะนับครั้งได้ที่เราทั้งห้าคนได้ออกไปเที่ยวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา"คำพูดจากปากของลูกสาวตัวน้อยเปรียบเสมือนหอกแหลมทิ่มแทงใจของมารดา
พราวนาราพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เธอได้แต่นึกโทษตัวเองที่ไม่สามารถทำตามความต้องการของลูกทั้งสามได้
'อันตราย'มันได้รายล้อมรอบกาย ไม่ว่าครอบครัวของเธอจะขยับไปไหนก็ตกอยู่ในสายตาของผู้คนที่คิดจะปองร้าย แม้การออกมาพักผ่อนตามคำขอร้องของลูกสาวในครั้งนี้เธอก็รู้ดีว่ามันไม่ปลอดภัย จึงต้องมีบอดี้การ์ดร่างใหญ่ของสามีคอยคุ้มกันไม่ให้เกินอันตรายต่อเธอกับลูกน้อย
"แม่ขา พิงค์อยากไปเที่ยวเมืองไทย แม่ไปขอป๊าให้พาพวกเราสามคนไปเที่ยวเมืองไทยอีกได้ไหมคะ"เด็กน้อยแก้มแดงเงยหน้าขึ้นมาออดอ้อนมารดาจนพราวนาราแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว เธอรู้สึกเห็นใจลูก ๆ ทั้งสามเกิดมาทั้งทีก็ไม่ได้มีอิสระเหมือนกับเด็กคนอื่นในรุ่นราวคราวเดียวกัน
"นะคะแม่ พิงค์อยากพาเฮียกับเจ้ไปเที่ยวเมืองไทย แม่ช่วยขอป๊าให้หน่อยได้ไหมคะ"
"แม่จะพยายามขอป๊าให้นะลูก"
"เย้ พิงค์รักแม่ที่สุดในโลกเลย เฮียแบล็กกับเจ้เรสต้องดีใจแน่ ๆ"เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ รอยยิ้มอันแสนสดใสบนใบหน้าของลูกสาวคนสุดท้องเรียกรอยยิ้มจากปากของมารดา
"ไปเที่ยว ไปเที่ยว เมืองไทย เมืองไทย"
ปัง ปัง ปัง
บรรยากาศรอบกายเงียบสงัดโดยฉับพลัน แม้แต่เสียงกรีดร้องด้วยความดีใจของเด็กน้อยนั้นก็เงียบหายพร้อมกับร่างอ่อนแรงของมารดาที่ค่อย ๆ ทรุดล้มลงกับพื้นหญ้า ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่บอดีการ์ดของตระกูลต่างวิ่งกันเข้ามารักษาความปลอดภัยให้กับผู้เป็นนาย
ปัง ปัง ปัง
"แม่ขา"
"นายหญิง คุ้มกันคุณหนู"บอดีการ์ดหน้าซีดเมื่อเห็นร่างสวยของนายหญิงของตระกูลเปียกชุ่มไปด้วยเลือดนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นของสนามหญ้า ม่านดวงตาที่ใกล้จะปิดลงมองไปยังร่างน้อยของลูกสาวที่ตกอยู่ในอ้อมแขนของบอดีการ์ดร่างสูงใหญ่ของสามี
"กรี๊ด แม่ขา"เสื้อผ้าราคาแพงของเด็กน้อยมีหยาดเลือดของมารดากระเซ็นใส่ เสียงกรีดร้องเมื่อเห็นมารดานอนอยู่บนกองหญ้าเด็กน้อยพยายามยื่นฝ่ามือมาหามารดาแต่ก็คว้าได้เพียงความว่างเปล่า
"นายหญิง ทำใจดี ๆ ไว้นะครับ"
"พะ...พาพิงค์หนีไปไม่ต้องเป็นห่วงฉัน"
"แม่ขา ปล่อยพิงค์นะ พิงค์จะไปหาแม่"เสียงกรีดร้องของเด็กน้อยเริ่มห่างออกไปไกล ภาพสุดท้ายก่อนทุกอย่างจะหลงเหลือไว้ความทรงจำให้พราวนาราได้จดจำไว้ นั้นก็คือภาพที่ลูกน้อยถูกบอดีการ์ดของตระกูลพาขึ้นรถคันหรูก่อนจะถูกขับออกไป
"พิงค์ ระ...เรส แบล็ก แม่รักพวกหนูทั้งสามคนนะลูก"ขอแค่ลูกทั้งสามคนของเธอปลอดภัย พราวนาราก็สามารถตายได้อย่างตาหลับ
สหรัฐอเมริกา
เฮือก
ตึก ตึก ตึก
เสียงหัวใจที่เต้นสนั่นราวกับมีคนเข้าไปตีกลองอยู่ในนั้นทันทีเมื่อหญิงสาวนัยน์ตาสวยตื่นขึ้นมากลางดึกที่เงียบสงัด ตามกรอบโครงหน้าราวกับฟ้าประทานนั้นเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูหวานเม้มเข้าหา สาวสวยสัมผัสได้ถึงความแห้งเหือดภายในลำคอ
คลิก
แสงไฟภายในห้องนอนสุดหรูถูกเปิดให้สว่าง ก่อนที่ร่างบอบบางในชุดนอนเซ็กซี่ก้าวขาลงมาจากเตียงนอนขนาดคิงไซซ์
ใบหน้าอ่อนเยาว์ราวกับเด็กมัธยมยังคงทำให้ผู้คนรอบกายนึกคิดว่าเธออายุยังไม่ถึงยี่สิบสองปี ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอก็คงต้องขอบคุณคนในตระกูลที่ทำให้เธอเกิดมากลายเป็นหญิงสาวผู้ที่มีหน้าตาและบุคลิกที่ดีตามพี่สาวและพี่ชายอีกสองคน
"แม่คะ"เสียงหวานเอื้อนเอ่ยเรียกชื่อของมารดาเมื่อเธอเปิดประตูเดินก้าวขาออกมายืนอยู่ตรงริมระเบียงของเพนท์เฮาส์
"พิงค์คิดถึงแม่"สายลมโอบล้อมทำให้หญิงสาวต้องยกแขนเรียวสวยขึ้นมาโอบกอดตัวเองเอาไว้ ใบหน้าสวยสะดุดตาราวกับตุ๊กตาเคลือบแก้วใสเงยขึ้นมองท้องฟ้าในค่ำคืนนี้
"นานหลายปีแล้วนะคะ ที่พิงค์ไม่ได้กอดแม่เลย"
"..."
"แม่อยู่บนนั้นสบายดีไหมคะ"ดวงตาคู่สวยแดงก่ำด้วยความคิดถึงมารดาที่ด่วนจากไปในเหตุการณ์วันนั้น มันเป็นวัน เป็นภาพที่ยังคอยตามหลอกหลอนเธอตลอดมา
"พิงค์คิดถึงแม่นะคะ"
"..."
"ตอนนี้พิงค์เรียนจบแล้วนะคะแม่ ถ้าแม่มองพิงค์อยู่ ลูกสาวของแม่คนนี้เรียนจบแล้วนะคะ"น้ำตาแห่งความคิดถึงไหลออกมาก่อนหญิงสาวจะก้าวเขาเดินกลับเข้าไปในห้องพักของตัวเองเพื่อนอนพักผ่อนเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านเกิดในวันพรุ่งนี้
