บท
ตั้งค่า

บทที่5

"เจ็บมากไหมอาหมวย"ความเงียบคือคำตอบพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา นิลกาฬหลบมองต่ำเขากอบกุมฝ่ามือของน้องสาวเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

"อากงท่านคงไม่ได้ตั้งใจ หมวยอย่าโกรธอากงเลยนะ"

"หมวยไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วเฮีย"คำพูดจากปากของน้องสาวทำเอาชายหนุ่มชะงัก

"เราสามคนหนีไปอยู่ที่อื่นกันดีไหม"

"หมวย อย่าพูดแบบนี้"

"อากงกับป๊าไม่รักหนูเลย"ความอดทนพังทลาย ใบหน้าบวมช้ำซุกลงบนแผงอกของพี่ชาย น้ำตาเม็ดใสหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาราวกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากจนเสื้อเชิ้ตสีขาวพี่ชายเปียกชุ่ม

"หมวย"

"ฮึก"เสียงร้องไห้ดังขึ้นซึ่งเปรียบเหมือนหอกหนามทิ่มแทงใจของคนฟัง หมวยเล็กคือที่รักของทุกคนภายในบ้าน เธอเปรียบเสมือนแสงสว่าง ความสดใสให้กับทุกคน

"หลับไปแล้วเหรอ"

"อืม ร้องไห้จนหลับไป"พี่ชายคนโตเอ่ยบอกน้องสาวคนรองทันทีเมื่อก้าวขาออกมาจากห้องนอนของน้องสาวคนเล็ก

"มีแผลไหม"

"แดงเป็นรอยฝ่ามือ เฮียประคบให้แล้วพรุ่งนี้ก็คงจะดี"

"มีอะไรจะคุยด้วย"อาหมวยคนรองเดินนำพี่ชายไปยังห้องนอนของตัวเอง

บรรยากาศยามเช้าอันแสนสดใสของวันไหมแต่มันช่างแตกต่างกับความรู้สึกภายในใจของพิงค์ไวท์ ร่างสวยในชุดเดรสสีหวานก้าวขาลงบันได ใบหน้าของเธอไร้ซึ่งรอยยิ้มดวงตาหม่นหมองหาความสุขแทบไม่ได้

"คุณหนู"

"ป้าบัว"แม่บ้านวัยชราเดินเข้ามาหา จากสีหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง รอยยิ้มเมื่อครู่ของป้าบัวค่อย ๆ หายไป เมื่อเห็นริ้วรอยฝ่ามือบนใบหน้าคุณหนูของเธอ

"คะ...คุณหนู"

"ไม่เป็นอะไรค่ะป้า พิงค์ไม่เจ็บเลยสักนิด"ริมฝีปากสวยพยายามคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนที่ร่างเล็กของพิงไวท์จะเดินเข้าไปประคองท่าน

บรรยากาศภายในบ้านเงียบสนิทแบบนี้ ทุกคนคงออกไปทำงานกันหมด แต่ก็ดี เพราะตอนนี้เธอไม่พร้อมที่จะเจอหน้าใคร

"เช้านี้มีข้าวต้มทะเลของโปรดคุณหนู จะทานเลยหรือเปล่าคะป้าจะให้เด็กจัดโต๊ะ"ป้าบัวหันมาถาม เธอพยายามไม่หันไปมองรอยแผลบนใบหน้านั่นเพราะมันคือสิ่งสะเทือนจิตใจของคนที่คอยอุ้มชูเลี้ยงดูสาวน้อยมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

"พิงค์ยังไม่หิวค่ะ"

"คุณหนูคะ แต่นี่มันก็เลยเวลาอาหารเช้ามามากแล้ว ถ้าคุณท่านทั้งสองรู้เข้า"

"ป้าบัวก็ไม่ต้องบอกสิคะ"สีหน้าของป้าบัวแสดงถึงความลำบากใจ อีกใจก็นึกเป็นห่วงเด็กสาวกลัวว่าจะปวดท้องเอา

"นะคะ ตอนนี้พิงค์ยังไม่หิว เอาไว้พิงค์หิวเมื่อไหร่เดี๋ยวจะไปหาอะไรในครัวทานเอง"

"คะ...คุณหนู"

"ขอตัวก่อนนะคะ"สาวน้อยของบ้านหมุนตัวเดินออกมา ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของป้าบัวที่คอยลอบมองแผ่นหลังเล็กเดินออกไปไกล

ใบหน้าสวยเรียบนิ่งมองสิ่งสวยงามตรงหน้า กลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด

'ถ้าหมวยไม่อยากเรียนต่อปริญญาโท หมวยก็จะต้องแต่งงานกับหลานชายของเพื่อนสนิทอากง เข้าใจไหม'ทางเลือกสองทางที่เธอไม่เคยต้องการ มันก็ไม่ต่างอะไรจากฝันร้าย ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเธอ ทำไมไม่มีใครรู้ว่าเธอรักหรือต้องการอะไร

หรือในสายตาของทุกคน เธอก็เป็นเพียงตุ๊กตาไร้หัวใจคิดจะหยิบจับไปวางตรงไหนก็ได้ แบบนั้นใช่ไหม

กรี๊ง

ตุบ ตุบ ตุบ

เสียงระฆังที่ดังขึ้นก่อนร่างสูงใหญ่ของทั้งสองพุ่งเข้าหา สีหน้าและแววตาของนักสู้เรียบนิ่งเพื่อมองหาสิ่งที่เรียกว่า'จุดอ่อน'ของอีกฝ่าย

"ไอ้กันต์ต่อยมันเลยสิวะ"

"ไอ้เข้ม มึงอย่าไปยอมมันนะ เตะมันเลย"เสียงตะโกนเรียกชื่อของทั้งสองดังกึกก้องตามด้วยเสียงโห่ร้องเชียร์รอบสังเวียนเดือนสำหรับนักมวยคู่ชกในยามค่ำคืนนี้

"รักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้นะโว้ยไอ้กันต์ มึงอย่าไปยอมมันนะโว้ย"เสียงอาจารย์ยอดครูมวยตะโกนเชียร์ลูกศิษย์คนเก่งในค่ายให้เดินหน้าปล่อยหมัดใส่อีกฝ่าย

แรงเชียร์ช่วยทำให้ผู้รักษาแชมป์อย่างกันต์ไร้พ่ายเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้อีกครั้ง

ตึง

"หมดยก"

"เย้"เสียงโห่ร้องดังก้องstadiumด้วยความดีใจเมื่อแชมป์เก่าสามารถรักษาเข็มขัดในการต่อสู้ครั้งนี้เอาไว้ได้ เข็มขัดนักมวยอันใหญ่ถูกมอบให้กับฝ่ายผู้ชนะท่ามกลางความดีใจของคนในค่ายและผู้ที่รักษาแชมป์เอาไว้ได้อีกครั้ง

'อัศวินผู้ไร้พ่าย'ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยทุกสิ่งอย่างล้วนมาจากความขยันอดทน การไม่ยอมแพ้ และการยืนหยัดอยู่กับสิ่งที่ตัวเองรัก

"ยินดีกับมึงด้วยนะไอ้กันต์"

"เออ ขอบใจโว้ยไอ้กอง"

"กองทัพ กรุณาเรียกชื่อเต็มกูด้วยครับไอ้เหี้ย"เจ้าของแชมป์กระตุกยิ้มด้วยความชอบใจ ก่อนจะหันไปเก็บของใส่ลงกระเป๋าหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ

"เออ แล้วนี่มึงจะกลับค่ายเลยหรือเปล่า"กองทัพนักมวยในค่ายแต่ต่อยคนละรุ่นกับเขาเอ่ยถาม

"ก็ว่าจะกลับเลย อยากนอนพักสักหน่อยวะ รู้สึกเหนื่อย ๆ "ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ ดวงตาคมกริบกวางมองห้องเตรียมตัวสำหรับนักมวยของแต่ละค่ายที่เข้ามาใช้stadiumแห่งนี้

"แล้วนี่ไอ้ทิศมันหายหัวไปไหน"กันต์ นักมวยในวัยยี่สิบหกปีผู้ที่ได้รับฉายา'อัศวินไร่พ่าย'เอ่ยถามถึงเพื่อนสนิทอีกคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้หายไปอยู่ที่ไหน

"กูก็ไม่รู้เหมือนกันวะ มันคงจะอยู่แถวนี้ล่ะมั้ง กลับกันเถอะ"

"เออ"ชายหนุ่มทั้งสองเดินคล้องคอก้าวขากันออกมา

ปัง ปัง ปัง

เสียงพลุกระดาษที่ดังขึ้นทำเอาสองหนุ่มถึงกับสะดุ้งเมื่อก้าวขาผ่านพ้นประตูห้องพักไว้สำหรับการเตรียมตัวของนักมวย

"ยินดีด้วยนะครับแชมป์สองสมัย"ริมฝีปากของชายหนุ่มเจ้าของแชมป์ยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ภาพพี่น้องนักมวยในค่ายรวมไปถึงเจ้าค่ายมวย ครูผู้ฝึกสอนต่างพากันมาแสดงความยินดีให้กับเขา

"ยินดีด้วยนะกันต์ กูบอกมึงแล้วว่าคนอย่างมึงต้องทำได้"

"ขอบคุณครับพี่ยอด"ผู้รักษาแชมป์กล่าวขอบคุณครูมวยที่ช่วยฝึกตั้งแต่ที่เขาเริ่มเข้าวงการต่อยมวยใหม่ ๆ

"พวกเราทุกคนเชื่อฝีมือของพี่อยู่แล้วพี่กันต์ว่าพี่ต้องทำได้ ใช่ไหมพวกเรา"

"ใช่"เหล่าพี่น้องและผองเพื่อนในค่ายต่างเชื่อมั่นในตัวของชายหนุ่ม

ค่ายมวย'อัศวิน มวยไทยยิม'ครอบครัวนักมวยที่อยู่แบบครอบครัวพี่น้อง และนั่นคือครอบครัวของ'กันต์'ผู้ชายคนนี้

"ยินดีกับการประสบความสำเร็จของนายด้วยนะกันต์"อัศวิน เจ้าของค่ายมวยเดินเข้ามาก่อนจะยื่นซองสีขาวให้ซึ่งใครต่อใครก็รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในซองนั้นมันคืออะไร

ค่าตอบแทนสำหรับคนที่มีความขยันและมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมมาอย่างยาวนาน

"ขอบคุณครับ คุณอัศวิน"

"พรุ่งนี้เราจะมีปาร์ตี้ฉลองกันที่ค่าย เต็มที่ได้เลยนะทุกคน"

"เย้"เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของนักมวยภายในค่าย'อัศวิน'ดังขึ้น ก่อนเจ้าของค่ายจะปลีกตัวเดินออกไป ปล่อยให้ทุกคนได้เข้ามาแสดงความยินดีกับแชมป์ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้

สีหน้าของแชมป์สองสมัยเต็มไปด้วยรอยยิ้มท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของคนในค่ายเมื่อเข็มขัดนักมวยคู่ใจยังคงอยู่กับชายหนุ่มอีกครั้ง

"ไปโว้ยไอ้กันต์ ไปฉลองกัน"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel