บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 พันธผูกจิต

"เป็นเช่นไรเล่าเถียนชี นางอยู่ที่นี่นานกว่าสองชั่วยาม เจ้าแพ้แล้ว" เถียนหยาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเดิมพันกับเถียนชีแล้วเป็นฝ่ายชนะ คาดไม่ถึงว่าสตรีนางนี้สามารถอยู่กับจอมมารฮวาเทียนจิ้งนานกว่าสตรีนางอื่น เดิมทีหากเจ้าสาวบรรณาการใดถูกส่งเข้ามา แทบไม่ถึงหนึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ พวกนางก็ถูกส่งตัวกลับ เถียนหยาเกรงว่าคุณหนูลี่เหยาเหยาผู้นี้คงมีสิ่งน่าสนใจไม่มากก็น้อยเป็นแน่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นว่าผู้เป็นนายเก็บสตรีนางใดไว้ข้างกายสักราย

"แพ้ก็แพ้สิ เอาไปผลึกแก้วห้วงเวลาสามชิ้น"

เถียนหยาเอื้อมมือเข้ารับของวิเศษจากสหายด้วยท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง "ขอบใจ"

เถียนชี "นายท่านให้เจ้าเป็นฝ่ายส่งนาง อีกเดี๋ยวข้าจะตามนายท่านไปยังหอฝึกปราณ นางฟื้นแล้วก็เร่งพานางออกไปเล่า"

เถียนหยา "ข้ารู้แล้วนา เดี๋ยวนี้เจ้าช่างขี้บ่นอย่างกับมารดาของข้า"

"ชิ เจ้ามารปากดี" เถียนชีจึงหมุนกายพลันหายวับออกจากหอนอนชั่วพริบตา

"อื้อ...ปวดหัวจัง" เสียงเล็กเอ่ยกระท่อนกระแท่นดังเบาหวิว

เถียนหยาที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้ามานานจึงสาวเท้าเข้ามาด้านใน "คุณหนูฟื้นแล้วหรือขอรับ"

ลี่เหยาเหยาพยายามปรับรูม่านตาของตนให้เป็นปกติ พลางกะพริบถี่ ๆ เพื่อขับไล่ม่านหมอกให้สามารถมองชัดยิ่งขึ้น "เจ้าเป็นใครอีกเล่า"

"ข้าคือองครักษ์มือซ้ายของท่านจอมมาร หากท่านฟื้นแล้วนายท่านให้ส่งคุณหนูกลับโดยเร็ว"

"เขาล่ะ"

"หมายถึงนายท่านหรือขอรับ"

"อืม..." ลี่เหยาเหยาพยักหน้าหงึกหงัก นางพยายามพยุงร่างของตนขึ้นอย่างทุลักทุเล

"นายท่านมีราชกิจล้นพ้น ไม่สะดวกส่งคุณหนูขอรับ"

"แล้วใครอยากให้เขาไปส่งกันเล่า คนเผด็จการ โอ๊ะ!" ลี่เหยาเหยาก่นด่าสาปแช่งด้วยสีหน้าหม่นทะมึน ทว่าบริเวณลำคอของนางกลับเกิดอาการเจ็บหน่วงขึ้นมาเสียอย่างนั้น ฝ่ามือนุ่มจึงเอื้อมสัมผัสช่วงลำคอที่ยังทิ้งร่องรอยเขี้ยวแหลมคมเอาไว้

เถียนหยามองการกระทำของลี่เหยาเหยาตาปริบ ๆ เขาสังเกตเห็นรอยแดงบนต้นคอเด่นชัด และพบว่าร่างของสตรีสวมเพียงอาภรณ์ผืนบางปกปิดเอาไว้เท่านั้น ใบหน้าชายหนุ่มจึงรู้สึกร้อนซ่านขึ้นทันควัน เมื่อฉุกนึกได้เช่นนั้นเถียนหยาจึงเร่งหันหลังให้กับหญิงสาวเป็นพัลวัน

"อะ...แฮ่ม คุณหนูหากท่านแต่งกายเรียบร้อยแล้วก็ตามข้าออกมานะขอรับ ข้าจะไปส่ง"

ลี่เหยาเหยามองท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของบุรุษเบื้องหน้าด้วยความฉงน ใบหน้างามเหยเกจากอาการเจ็บแปลบ

"เข้าใจแล้ว ขอบคุณนะ"

เถียนหยาจึงสาวเท้าเดินออกไปเบื้องหน้า คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยอย่างงุนงง ร่องรอยบนลำคอเช่นนั้น ไม่คิดว่านายของเขาจะกล้าลงมือด้วยตนเองจริง ๆ เดิมทีจอมมารแทบไม่แตะต้องเรือนร่างของสตรีนางใดด้วยซ้ำ 

"เรียบร้อยแล้ว"

ลี่เหยาเหยามาหยุดยืนเบื้องหลังของเถียนหยาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ พลางค้อมศีรษะให้อีกฝ่ายเล็กน้อย แม้จะเรียกว่าสตรีที่เข้ามาคือเจ้าสาวบรรณาการ หากแต่การเป็นเจ้าสาวจึงต้องนับว่าไม่ต่างจากการแต่งงานและร่วมเป็นภรรยาของท่านจอมมาร เพียงแต่สตรีทุกนางยังไม่เคยถูกแตะต้อง เว้นเพียงการกรีดโลหิตของตนเพื่อส่งมอบให้แก่ฮวาเทียนจิ้งก็เพียงเท่านั้น หลังจากเรียบร้อยแล้ว จอมมารจะให้เถียนหยา หรือไม่ก็เถียนชี เป็นฝ่ายส่งพวกนางเหล่านั้นกลับไปยังถิ่นที่ตนจากมา

ทว่าหลายปีมานี้เถียนหยาได้ยินเรื่องราวหนาหู แต่เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ใส่ใจความเป็นมาของสตรีเหล่านั้น นัก จึงไม่รู้ความกระจ่างชัดว่าแท้จริงแล้วพวกนางไปถึงบ้านของตนหรือไม่ ทุกคนล้วนร่ำลือว่านายของเขาช่างมีจิตอำมหิต หญิงสาวทุกรายที่ถูกส่งเข้ามายังหุบเขาลึกลับของจอมมารวิหคทองล้วนถูกฆ่าตายทั้งหมด ทั้งที่ตนและเถียนชีมาส่งหญิงสาวออกไปทุกครา ที่น่าแปลกกว่านั้น ฮวาเทียนจิ้งกลับไม่เคยเดือดเนื้อร้อนใจต่อคำครหา เพียงปล่อยให้ข่าวโคมลอยดังกระฉ่อนไปทั่วโดยไม่คิดแยแสหรือแก้ต่างแต่อย่างใด

เถียนหยาส่งลี่เหยาเหยาไว้บริเวณท้ายหุบเขาเช่นที่เคยทำ แล้วจึงกล่าวลา หนทางข้างนอกล้วนต้องเป็นนางที่บากบั่นไปด้วยตนเองแล้ว เขาไม่สะดวกย่างกรายออกจากหุบเขาลึกลับ เพราะอาจเผลอข้ามแดนไปรบกวนจอมมารวิหคเงินเอาได้ พวกเขาทั้งสองเผ่าล้วนไม่มีความบาดหมางให้ต้องรบรากันมาเนิ่นนานแล้วหากไม่มีฝ่ายใดล้ำเส้น ซ้ำยังร่วมทำพันธสัญญาสงบสงครามนับหลายพันปี

"เดี๋ยว!" ลี่เหยาเหยาร้องทัดทานขึ้น เมื่อเห็นว่าเถียนหยาตั้งท่าจากตนไป

"คุณหนูมีสิ่งใดหรือขอรับ" เถียนหยาหมุนกายกลับ พลันเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง

ปกติแล้วหากเขามาส่งสตรีเหล่านั้น ล้วนวิ่งหนีตนให้จ้าละหวั่น รีบถอยห่างจากเขาเสียจนหัวซุกหัวซุน สตรีนางนี้แปลกโดยแท้ นอกจากจะไม่หวั่นเกรง ยังกล้าเอ่ยรั้งตนเอาไว้เสียด้วย

"คือว่า...ฉัน เอ่อ...ข้าไม่มีบ้านให้กลับ"

"ไม่มีบ้านให้กลับหรือ" เถียนหยาเลิกคิ้ว

"อือ อือ" ลี่เหยาเหยาพยักหน้าหงึกหงัก

หลังจากนางได้ออกมาจากคฤหาสน์จอมมาร นั่นจึงทำให้ลี่เหยาเหยานั้นเข้าใจถึงสถานการณ์อย่างแจ่มชัด เธอได้หลุดเข้ามายังโลกอีกใบโดยไม่ทันรู้ตัว ร่างที่เธอเข้ามาอยู่ก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร หรืออาจเป็นสตรีนางใดที่ตายไปแล้วยังโลกใบนี้หรือไม่ ลี่เหยาเหยาทราบเพียงยามนี้ความกลัวเริ่มกัดกร่อนจิตใจของนางแล้ว มองไปทางใดก็พบแต่ผืนป่า อย่างน้อย ๆ ชายผู้นี้ควรไปส่งตนให้ถึงหมู่บ้าน หรือพื้นที่ที่มีผู้คนสักแห่งหรือไม่

"คุณหนูข้าต้องขออภัย ข้าส่งท่านได้เพียงเท่านี้ เส้นทางข้างหน้าต้องลำบากท่านแล้ว เช่นนั้นเห็นแก่ท่านช่างดูแตกต่างและน่าเวทนายิ่ง ท่านรับสิ่งนี้ไปเถิด"

เถียนหยายื่นของประหลาดบางสิ่งให้แก่นาง ลี่เหยาเหยาเพ่งมองของสิ่งนั้นด้วยความฉงน "นี่คืออะไรหรือ"

"นี่คือปีกวิหคทอง หากท่านพบเจอกับอันตรายก็ใช้สิ่งนี้ขับไล่เสีย ข้าคงช่วยท่านได้เพียงเท่านี้จริง ๆ"

กล่าวจบเถียนหยาจึงหายวับจากไปโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายเอ่ยถามสิ่งใดอีก

"อะ...อ้าว ไปแล้วเหรอ" ลี่เหยาเหยาเศร้าสลดลง พลางเหลียวมองซ้ายขวา

"ที่นี่มีแต่ป่า แล้วจะออกไปยังไง น่ากลัวชะมัด ฮวาเทียนจิ้งคนใจแคบ" ลี่เหยาเหยาต่อว่าอีกฝ่ายกระปอดกระแปด แล้วจึงตัดสินใจมุ่งหน้าเดินไปทางทิศตะวันออก ถึงอย่างไรการเดินป่าที่ดีที่สุดก็ควรเดินไปในทางทิศนี้ เพื่อป้องกันการหลงทาง

เดินมาได้สักระยะลี่เหยาเหยารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง ในป่าช่างเงียบสงัดและน่าหวาดหวั่น

"ฮือ จะใช่ผีป่าหรือเปล่าเนี่ย"

ลี่เหยาเหยาพยายามรวบรวมสติ ภายในมือกำปีกวิหคทองของเถียนหยาเอาไว้แน่น เมื่อนางรู้สึกคล้ายมีสายตาจับจ้องมาที่ตน แม้ไม่ทราบวิธีใช้งานที่แท้จริงก็ตาม

อยู่ ๆ กลับมีชายฉกรรจ์ราวห้าคนวิ่งกรูเข้ามาปิดล้อมลี่เหยาเหยาเอาไว้ เท้าเรียวชะงักงัน ร่างกายของนางเริ่มสั่นเทา "พวกคุณเป็นใคร"

"นายหญิงบอกว่าให้ฆ่านางซะ" เสียงทุ้มดังขึ้น

ลี่เหยาเหยาเบิกดวงตากว้าง โพล่งออกมาอย่างนึกขลาดกลัว "จะบ้าหรือยังไง ข้ายังไม่เคยมีความบาดหมางใจกับใครที่นี่เลย"

ชายเหล่านั้นไม่ได้สนใจต่อคำพูดของลี่เหยาเหยาแม้แต่น้อย กลับยังคงเอ่ยปรึกษากันอย่างออกรสออกชาติ

"เจ้าดูร่างนุ่มนิ่มนี่สิ หากฆ่านางเลยไม่น่าเสียดายหรอกหรือ เล่นสนุกกับนางก่อนสักสองสามชั่วยามนายหญิงไม่มีทางจับได้อย่างแน่นอน"

"ห้ะ...คิดทำอะไร หยาบช้าที่สุด ถอยออกไปนะ!"

ลี่เหยาเหยาเอ่ยด้วยความตื่นตระหนก เท้าเรียวพยายามถอยหลัง ทว่าด้านหลังก็ถูกล้อมเอาไว้ ด้านหน้าล้วนไม่ต่าง ชายร่างกำยำย่างกรายเข้ามาหานางเชื่องช้า วงล้อมเริ่มแคบลงเรื่อย ๆ

ทำไงดีเหยาเหยา ปีกนกไร้สาระนี่ช่วยอะไรได้บ้างนะ

ลี่เหยาเหยากำสิ่งที่เถียนหยาให้มาอย่างเหนียวแน่น ความหวาดกลัวทำให้แรงในการบีบมากขึ้นเสียจนเลือดซิบ

"คุณหนูคนสวย อย่าได้คิดหนีหรือต่อต้านให้เปลืองแรงเลย หากท่านไม่อยากเจ็บตัวก็อยู่นิ่ง ๆ ให้พวกข้าจับเสียดี ๆ"

"ไร้สาระ!"

"ตัวแค่นี้เก่งเสียจริง"

จู่ ๆ บุรุษสองด้านซ้ายขวาพลันวิ่งกรูเข้ามาจับแขนของลี่เหยาเหยาเอาไว้

"ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ"

เพียะ!

"หุบปาก"

ลี่เหยาเหยาถูกฝ่ามือกว้างฟาดลงมายังใบหน้าขาวผ่องเสียจนโลหิตไหลซึมลงขอบปาก ซ้ำยังถูกชายผู้นั้นบีบบี้ปลายคางด้วยฝ่ามือหยาบกร้าน บังคับให้นางต้องแหงนเงยใบหน้าขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงประดุจผู้วิกลจริต

"เก่งนักหรือ"

ลี่เหยาเหยาถ่มถุยน้ำลายเข้าหน้าอีกฝ่าย

"หน้าตัวเมีย"

หมัดของบุรุษจึงชกเข้ายังบริเวณท้องของเธอด้วยความรุนแรง ลี่เหยาเหยารู้สึกทั้งเจ็บและจุก ไม่มีแล้วหนทางรอดชีวิต หากต้องแบกรับความอัปยศ ลี่เหยาเหยาขอตายอีกครั้งแล้วอย่าได้ล่องลอยไปที่แห่งใดอีกเลย

อึ้ก!

ฮวาเทียนจิ้งกระอักโลหิตออกมา พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าและบริเวณท้องของตน

"นายท่านเกิดสิ่งใดขึ้น!"

เถียนชีตื่นตกใจ วิ่งรี่เข้ามาประคองผู้เป็นนาย ฝ่ามือกว้างยกขึ้นเพื่อปราม ทว่าลำแสงสีแดงสายหนึ่งกลับสาดสะท้อนเข้าดวงตาของเขา

"นะ...นี่มัน พันธผูกจิต"

"หืม..." ฮวาเทียนจิ้ง มองตามสีหน้าตื่นตระหนกของเถียนชี ข้อมือแกร่งมีรอยบากเส้นหนึ่งปรากฏขึ้น

นัยน์ตาสีแดงฉานเบิกกว้าง "สตรีจอมเจ้าเล่ห์ ไปนำตัวนางกลับมา!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel