บทที่ 6 ลงเรือลำเดียวกัน
"อ้าว เถียนชีนี่เจ้าจะไปที่ใดเล่า" เถียนหยาเพิ่งกลับมาถึงเห็นว่าเถียนชีเร่งร้อนเดินดุ่ม ๆ ออกจากหอฝึกปราณจึงเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง
"มาก็ดี เจ้าเอาคุณหนูลี่เหยาเหยาคนนั้นไปส่งไว้ที่ใดกันเล่า"
"ข้าก็ส่งนางไว้ที่เดิมนั่นแหละ เจ้าจะโวยวายเพื่อสิ่งใด"
"นายท่านเผลอไปทำพันธผูกจิตกับนางตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ยามนี้นางคงได้รับบาดเจ็บ รีบออกไปตามหานางเร็วเข้า!"
"ห้ะ!! มิน่าเล่า ปกติข้าไม่เคยเห็นนายท่านสัมผัสร่างกายผู้ใดเลย แต่เมื่อสักครู่ข้าเห็น เอ่อ..." เถียนหยากล่าวกระอักกระอ่วน
"เห็นอะไรเล่า ไยมัวอมพะนำ" เถียนชีเอ่ยด้วยความหงุดหงิด
"ก็รอยที่คอของนาง..."
"อย่างนี้นี่เอง แต่โดยปกติหากไม่มีอาคมร่วมด้วย หากเพียงแค่สัมผัสต้นคอเท่านั้นไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน คุณหนูผู้นี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันเล่า"
บุรุษทั้งสองสนทนากันอย่างพะว้าพะวัง พลันหายวับออกจากคฤหาสน์วิหคทองด้วยความเร่งร้อน
.
.
ลี่เหยาเหยาถูกแบกขึ้นบ่า ภาพเบื้องหน้าของนางกลับด้านเสียจนน่าเวียนศีรษะ จากเดิมทีที่หมดสติลงไปแล้วกลับฟื้นขึ้นมาอีกหน ร่างบางถูกโยนลงกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ เรือนกายของนางตอนนี้บอบช้ำไม่เหลือชิ้นดี
บ้าเอ๊ย ขยับไม่ได้
ลี่เหยาเหยากัดฟันกรอด ดวงตาของนางหนักอึ้ง อกด้านซ้ายเต้นดังโครมคราม นี่ตัวนางกำลังจะโดนปู้ยี่ปู้ยำอย่างนั้นหรือ เพียงแค่คิดก็ไม่อาจรับได้ ลี่เหยาเหยายอมตายดีกว่าที่ตนจะต้องแปดเปื้อน
"พวกเจ้าเร่งมือหน่อยเล่า ประเดี๋ยวข้าจะไปดูต้นทาง"
"เออน่า สตรีก็ตัวเท่านี้ เจ้าจะเกรงกลัวไปไย อีกอย่าง จอมมารก็ไม่เคยใส่ใจพวกนางอยู่แล้ว เร่งร้อนไปจะไม่สนุกเอาได้"
พ่อจ๋าแม่จ๋า เสี่ยวผิง ช่วยเหยาเหยาด้วย
"พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด!"
เสียงเข้มตวาดลั่น บุรุษทั้งหมดต่างแตกตื่นถอยกรูดวิ่งไปคนละทิศละทาง
"ใครใช้พวกเจ้ามา!"
"มือขวามือซ้ายของจอมมารมา หลบเร็ว"
ชายฉกรรจ์เหล่านั้นไม่คิดประมือกับพวกเขาทั้งสอง ทว่าเถียนชีหาได้ปล่อยโอกาสให้พวกมารชั่วช้าหนีโดยง่ายดาย ฝ่ามือกว้างซัดลมปราณออกไปขุมหนึ่ง ชายทั้งห้าล้มระเนระนาด บ้างกระอักโลหิตออกมาจนแทบหมดตัว บ้างล้มลุกคลุกคลานหนีให้จ้าละหวั่น
"จะหนีไปที่ใด บอกข้ามาว่าผู้ใดส่งเจ้ามากันแน่!" เถียนชีกัดฟันกรอด ฝ่ามือเปี่ยมพละกำลังส่งกระแสเพลิงสายหนึ่งยกร่างของชายฉกรรจ์ที่ไม่อาจหนีรอดลอยเคว้งกลางอากาศ
"เป็น...ปะ เป็น..."
ยังไม่ทันที่ชายผู้นั้นได้เอ่ยสิ่งใดออกมา ริมฝีปากพลันกระอักโลหิตหลั่งรินเป็นสาย และสิ้นใจลงในที่สุด
"บัดซบ!"
เถียนชีซัดปลายนิ้วไปฝั่งต้นไม้ใหญ่ ร่างกำยำลอยพุ่งกระแทกเข้ากับลำต้นอย่างจัง เสียงกระดูกแตกละเอียดดังสนั่นหวั่นไหวอย่างน่าสยดสยอง ฝูงนกบนลำต้นบินแตกฮือ ไปคนละทิศละทาง
เถียนชีเหลียวมองไปที่เถียนหยา เขากำลังปลุกหญิงสาวให้ฟื้นขึ้นมา ทว่าดูเหมือนนางจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกินไป เถียนหยาถอดผ้าคลุมไหล่ของตนออก พลันห่อหุ้มกายของลี่เหยาเหยาเอาไว้ เนื่องจากอาภรณ์ของนางขาดรุ่งริ่งเสียจนผิวกายผุดโผล่
"ดูเหมือนนางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส มิน่านายท่านกระอักโลหิตออกมาเสียใหญ่โต"
เถียนหยากัดฟันกรอด "พวกเลวบัดซบนี่เองหรือ ที่ทำให้นายท่านดูแย่"
เถียนชี "ไป! รีบพานางไปก่อน เรื่องอื่นไว้ปรึกษานายท่านคราวหลัง"
.
.
"นางกลับมาได้อย่างไร" อวี่หนานกล่าวลอดไรฟัน นัยน์ตาคู่งามลอบมองร่างบางที่อยู่บนอ้อมแขนของเถียนหยา จิตใจเต็มไปด้วยเพลิงริษยาซึ่งกำลังแผดเผา
เถียนหยาอุ้มลี่เหยาเหยาหายลับเข้าไปยังด้านในหอฝึกปราณแล้ว ยิ่งเป็นเช่นนั้นกลับยิ่งทำให้อวี่หนานโกรธแค้น และไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"วางนางไว้ตรงนี้"
"ขอรับ"
ฮวาเทียนจิ้ง เดินย่างกรายเข้าใกล้ร่างซึ่งหมดสติของลี่เหยาเหยา นัยน์ตาคมสำรวจเรือนกายของสตรีที่เต็มไปด้วยร่องรอยฟกช้ำตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า "นางทำได้อย่างไร"
"เอ่อ..." ทั้งเถียนหยา และเถียนชี ต่างมองหน้ากันหลุกหลิก พวกเขาทั้งสองไม่ทราบต้นสายปลายเหตุเช่นเดียวกัน คราแรกที่รับตัวนางเข้ามาก็ไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติเลยแม้แต่น้อย
"ช่างเถิด พวกเจ้าออกไปก่อน"
"ขอรับ"
ทั้งสองจึงกระวีกระวาดออกจากห้องตามความประสงค์ผู้เป็นนาย ปล่อยให้ฮวาเทียนจิ้งอยู่กับลี่เหยาเหยาเพียงลำพัง ดูเหมือนว่าจอมมารวิหคทองกำลังพบกับความลำบากเพราะสตรีเพียงผู้เดียวเข้าเสียแล้ว
ฮวาเทียนจิ้งเอื้อมฝ่ามือไปเบื้องหน้า ริมฝีปากร่ายพลังเวทขมุบขมิบ ดวงตาคมเพ่งมองอีกฝ่ายเขม็ง
"เจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงสามารถทำพันธผูกจิตได้"
ลี่เหยาเหยายังคงนอนหลับดวงตาพริ้ม ดูเหมือนว่านางจะได้รับบาดเจ็บมากเสียจนผู้แข็งแกร่งเช่นฮวาเทียนจิ้งยังรู้สึกถึงเพียงนี้ หญิงสาวตัวเล็ก ๆ ต้องพบเจอสิ่งใดบ้างกันเล่า ฝ่ามือหยาบระคายยังคงพยายามถ่ายปราณวิเศษเข้าไปในกายของอีกฝ่าย บาดแผลภายนอกหายวับจากไปแล้ว ทว่าบาดแผลภายในนั้นยังคงอยู่
ฮวาเทียนจิ้งพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน "เถียนชี"
"ขอรับ"
"ไปตามหมอมา"
.
.
"ตกลงแล้วท่านให้สิ่งใดแก่ข้ากันแน่ เหตุใดไม่นานมานี้ข้าเห็นท่านพี่นำตัวผู้หญิงคนนั้นกลับมากันเล่า" เสียงสตรีแผดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
ท่ามกลางกำแพงกางกั้นเขตแดนระหว่างเผ่ามารทั้งสอง สตรีร่างบางยืนสนทนากับบุรุษร่างสูง ทั้งสองล้วนปกปิดใบหน้าและร่างกายแทบไม่พบว่ามีสิ่งใดโผล่พ้นออกมาจากใยผ้าแม้แต่น้อย
"คุณหนู ท่านใจร้อนด้วยสิ่งใดกันเล่า การช่วยพี่ชายของท่าน ล้วนต้องมีเงื่อนไขกันบ้าง"
"ท่านกล่าวอย่างนี้หมายความว่าเช่นไร" ริมฝีปากบางขบเม้มคิดหนัก พลางกัดฟันกรอด
"เอาอย่างนี้ท่านทำตามที่ข้าบอก หลังจากนั้น จอมมารวิหคทองล้วนไม่ต้องพึ่งเครื่องบรรณาการพวกนั้นอีกตลอดกาล" เสียงทุ้มกล่าวด้วยท่าทีเรียบเรื่อย
"ทำอย่างไร!?"
"ท่านนำตัวสตรีนางนั้นมาให้ข้า ส่วนท่านก็รอดูผลลัพธ์เฉย ๆ ไม่ต้องทำสิ่งใดเลย"
"ตอนนี้นางอยู่ในความดูแลของท่านพี่ ข้าจะก้าวก่ายได้อย่างไร"
"นั่นล้วนเป็นปัญหาของท่าน หากต้องการช่วยเหลือเขา ท่านต้องส่งหญิงสาวผู้นั้นมา"
"เหอะ! ข้าไม่น่าไว้ใจมารต่างเผ่าเช่นท่าน ช่างกล่าววาจาสับปลับโดยแท้" นางยิ้มเยาะ น้ำเสียงดูไม่เป็นมิตรแฝงความดูแคลนอยู่หลายส่วน
"คุณหนู เราทั้งสองล้วนลงเรือลำเดียวกัน ท่านถอนตัวตอนนี้ดูท่าคงไม่ทันเสียแล้วล่ะ"
