บทที่ 4 มีวิธีอื่นหรือไม่
สตรีใบหน้าหวานสวมเครื่องแต่งกายของเจ้าสาวแดนมาร กลิ่นกายหอมกรุ่นล่องลอยเข้ามาแตะโพรงจมูกผู้ที่นั่งเคร่งขรึมอยู่มุมห้อง เขาจึงแหงนเงยใบหน้าของตนขึ้นเชื่องช้า เพียงแวบเดียวที่ความรู้สึกภายในใจราวเต้นกระหน่ำ ทว่าครู่ถัดมาอาการเช่นนั้นพลันมลายหายไป ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาเบื้องหน้าเชื่องช้า ดวงตาดุดันเพ่งมองหญิงสาวด้วยความเกรี้ยวกราด
"แต่งกายเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะรับเป็นชายาจริง ๆ ใช่หรือไม่" เสียงทุ้มกล่าวลอดไรฟัน ฝ่ามือกว้างคว้าหมับไปยังลำคอระหง
ลี่เหยาเหยากระอักไอออกมาเสียจนใบหน้าแดงก่ำ ร่างบอบบางถูกอีกฝ่ายยกขึ้นเหนือพื้น หญิงสาวพยายามดีดแข้งดีดขาของตนเพื่อเอาตัวรอด สีหน้าของนางตอนนี้เริ่มไม่สู้ดีนัก ฝ่ามือน้อย ๆ ยกขึ้นตบตี ตะปบแกะให้อีกฝ่ายผ่อนปรนแรงลงราวลูกแมวขาดอากาศหายใจ
"ปะ...ปล่อยนะ"
ประมุขแดนมารเห็นว่าลี่เหยาเหยาเริ่มไม่ไหว เขาจึงเหวี่ยงกายคนตัวเล็กในชุดเจ้าสาวลงบนเตียงนอนอย่างไม่สนใจไยดี พลางจ้องอีกฝ่ายเขม็ง "เจ้ากล้าดีอย่างไร จึงหยิบชุดนี้ขึ้นมาใส่"
"ฉัน...เอ่อ...ข้าเปล่านะ!"
ลี่เหยาเหยาพยายามควบคุมสติและการสนทนาเพื่อให้ชายแปลกหน้าผู้นี้เข้าใจตนมากที่สุด จากที่เธอได้พูดคุยกับคุณหนูอวี่หนานเมื่อสักครู่ นางบอกว่าพี่ชายของนางชอบสตรีนอบน้อม ซ้ำยังชอบผู้ที่กลิ่นกายหอม แต่งตัวงดงาม นางจึงหยิบชุดนี้ให้กับตน คาดไม่ถึงลี่เหยาเหยาเดินเข้ามายังไม่ทันได้ปริปากกล่าวสิ่งใดด้วยซ้ำกลับถูกอีกฝ่ายต่อว่า ทั้งยังทำร้ายร่างกายเสียจนหน้าชา คุณหนูอวี่หนานผู้นี้ไว้ใจไม่ได้เสียจริง
"เปล่าหรือ เจ้าจงใจยั่วยุข้าใช่หรือไม่ ข้าให้เจ้าเดินร่อนไปมาใช่ว่าข้าจะใจดีด้วย ถอดออก!"
"ห้ะ! นายจะบ้าเหรอ" ลี่เหยาเหยาตื่นตกใจเบิกดวงตากว้าง ฝ่ามือทั้งสองยกขึ้นป้องเรือนร่างของตนด้วยความหวาดหวั่น
หมอนี่จะทำมิดีมิร้ายเราอย่างนั้นเหรอ พ่อคะแม่คะช่วยเหยาเหยาด้วย
นัยน์ตาคู่งามสั่นระริก ลี่เหยาเหยาพยายามรวบรวมสติและหาทางออก ทว่าอีกฝ่ายช่างดูน่าเกรงกลัวเสียจนต้องเบือนหน้าหนี ลี่เหยาเหยากลืนน้ำลายลงคอดังอึก อยู่ ๆ ร่างที่นั่งสั่นเทาอยู่บนเตียงนอนพลันลอยหวือเข้าไปในฝ่ามือแกร่ง
"ข้าบอกให้เจ้าถอดออก หรืออยากให้ข้าเป็นฝ่ายถอดให้เจ้า!" ในดวงตาคมเข้มคล้ายมีเปลวไฟลุกโชนบ่งบอกว่าชายหนุ่มเริ่มขุ่นมัวแล้ว
"...อื้อ ถอดค่ะถอด"
ลี่เหยาเหยาพยายามเปล่งเสียงทั้งที่ลำคอของเธอยังคงถูกบีบรัดอยู่เช่นนั้น เมื่อชายหนุ่มได้ยินลี่เหยาเหยาตกปากรับคำ เขาจึงคลายฝ่ามือออกเชื่องช้า ร่างของสตรีทรุดฮวบลงทันใด
คนเผด็จการ ป่าเถื่อน
ช่างเถอะเหยาเหยา ถึงชุดด้านในมันจะบางไปหน่อย แต่ก็คงไม่น่าเกลียดจนเกินไป
ลี่เหยาเหยาพยายามหยัดกายยืนขึ้น คนร่างสูงหาได้ถอยห่างออกไป เขายังจับจ้องทุกอิริยาบถของนางเขม็ง
"นี่นาย!"
"นาย?" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
"เอ่อ...นี่นายท่าน ช่วยหันหลังหน่อยได้ไหม ยืนจ้องแบบนี้ข้าไม่กล้าถอด"
"มากเรื่อง หากเจ้าไม่กล้า ข้าจะถอดให้เจ้าเอง"
ฝ่ามือกว้างยื่นมาเบื้องหน้าอย่างนึกรำคาญ ลี่เหยาเหยาตื่นตกใจ ไม่คิดว่าบุรุษผู้นี้จะเอาจริง เธอจึงรีบควานหาที่ปลดเข็มขัดทองออกจากเอวคอดด้วยท่าทีละล้าละลัง
"ไม่ต้อง ไม่ต้อง ข้าถอดเองก็ได้"
ลี่เหยาเหยาถอดชุดคลุมเนื้อดี สีดำแถบแดงแซมด้วยเครื่องประดับทอง โยนลงไปบนที่นอนเบื้องหลัง ยามนี้บนกายของหญิงสาวมีเพียงอาภรณ์สีขาวบางปกปิดเรือนร่างเอาไว้เท่านั้น
"พอใจหรือยัง!" ลี่เหยาเหยากล่าวหน้าคว่ำ
"..."
ไม่มีเสียงตอบรับจากบุรุษตรงหน้า ทว่านัยน์ตาคมกลับมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พลันขว้างบางอย่างลงบนที่นอน ลี่เหยาเหยาจึงเหลียวหน้ามองตามด้วยความงุนงง
"อะไร"
"..."
ฝ่ามือเรียวเอื้อมคว้าสิ่งนั้นขึ้นมา เมื่อเธอลองดึงด้ามเล็ก ๆ ออกจากฝัก ลี่เหยาเหยาพลันทำตาโตด้วยความหวาดเกรง
"นะ...นี่ท่านจะฆ่าข้าหรือ"
"เหลวไหล แต่หากช้ากว่านี้ ข้าจะฆ่าเจ้าจริง ๆ แน่"
"แล้วที่โยนมาหมายความว่าอย่างไร"
"กรีดโลหิตเจ้าออกมา แล้วจากนั้นก็ไสหัวออกไปซะ"
"ห้ะ...เพื่อ!" ลี่เหยาเหยาทำหน้างุนงง
"กล่าวมากความ จะให้ข้าทำให้หรือเจ้าจะจัดการตัวเอง เพียงกรีดลงบนข้อมือของเจ้าแล้วเค้นโลหิตให้เต็มถ้วยใบนี้เป็นพอ อย่าทำให้ข้าหมดความอดทน"
ลี่เหยาเหยาพยายามควบคุมสติ เหตุใดตนจึงต้องมาทำเรื่องเช่นนี้ การกรีดเลือดออกจากกายนั่นช่างน่ากลัวยิ่งนัก หยาดเหงื่อเม็ดละเอียดผุดพรายขึ้นบนกรอบหน้างาม ฝ่ามือซึ่งถือของมีคมเอาไว้สั่นระริก ลี่เหยาเหยาจรดปลายแหลมคมลงบนท้องแขนเชื่องช้า นางพ่นลมหายใจออกมาเพื่อระงับความหวาดหวั่น
เอาน่าเหยาเหยา แค่นี้ไม่ตายหรอกกรีดเบา ๆ
"เอ่อ...ข้าขอถามท่านก่อนได้หรือไม่"
"เจ้านี่ช่างข้อต่อรองมากมายเสียจริง" ชายหนุ่มกล่าวอย่างนึกรำคาญ
"ท่านมีนามว่าอะไรหรือ" ลี่เหยาเหยาพยายามประวิงเวลา อย่างน้อย ๆ ก็ยืดความเจ็บปวดที่กำลังจะมีถึงได้ชั่วคราว
"รู้ไปเจ้าจะได้ประโยชน์อันใด นามของข้าไม่เคยมีผู้ใดกล่าวถึงมานานมากแล้ว"
"ก็...ข้ามาอยู่กับท่านเกือบหนึ่งวันแล้วนี่นา ขอถามชื่อแซ่ไม่ได้หรืออย่างไร อย่างน้อย ๆ รู้ชื่อกันไว้ก็หาได้เสียหาย"
ชายหนุ่มหรี่ดวงตาลงด้วยความคลางแคลง "เจ้าคงไม่ได้กำลังคิดทำสิ่งใดอยู่กระมัง"
"ข้าเปล่า" ลี่เหยาเหยาส่งยิ้มเหือดแห้ง แต่เมื่อนึกว่าการถามชื่อผู้อื่นโดยไม่บอกชื่อตัวเองก่อนช่างดูเสียมารยาทอยู่ไม่น้อย นางจึงโพล่งออกมาอีกหน "ข้าชื่อลี่เหยาเหยา"
"ข้ารู้แล้ว" ชายหนุ่มตอบหน้าตาย
"อะ...อ้าว รู้ได้ไง เป็นสตอล์กเกอร์เหรอ" ลี่เหยาเหยากะพริบดวงตาถี่
"สะ...สะ อะไรของเจ้า พูดจาไม่รู้ความ น่ารำคาญยิ่งนัก" จอมมารพ่นลมหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เขาไม่เคยสนทนากับเจ้าสาวบรรณาการคนใดมาก่อน นี่ช่างดูเป็นเรื่องแปลกใหม่และน่าหงุดหงิดของตนยิ่งนัก เขาจึงตอบหญิงสาวกลับเพื่อตัดรำคาญ
"ฮวาเทียนจิ้ง"
"อะ...อ้อ นายท่านฮวา ข้าว่า...ท่านพอมีวิธีอื่นหรือไม่คะ...เอ๊ย...เจ้าคะ" ลี่เหยาเหยาส่งยิ้มฝืดเฝื่อน
ภาษาอะไรยากเย็นแสนเข็ญ
"วิธีใด?"
"คือว่า ข้า ข้า กลัวมีด หากกรีดลงไปต้องเจ็บมากแน่ ๆ ว่าแต่ท่านจะเอาเลือดไปทำอะไรเหรอ บริจาคโลหิตทำนองนี้หรือเปล่าเจ้าคะ"
ความอดทนของฮวาเทียนจิ้งขาดผึง เหตุใดสตรีนางนี้จึงกล่าวมากความ วาจาราวหญิงวิปลาส ซ้ำยังดูไม่เกรงกลัวเขาเช่นหญิงอื่น ๆ ที่ถูกส่งเข้ามา ร่างสูงสาวเท้าไปเบื้องหน้า คว้าร่างหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอด
"อ๊ะ...ไร้มารยาท ท่านกำลังทำอะไร"
"วิธีอื่นอย่างไรเล่า การที่เจ้ากล้าต่อว่าสามีไร้มารยาทดูจะขัดแย้งไปเสียหน่อย ถึงข้าไม่อยากยอมรับการเป็นเจ้าสาวบรรณาการของเจ้าก็ตาม"
"แต่..."
ลี่เหยาเหยาแหงนเงยใบหน้ามองคนตัวสูงที่กอดรัดเอวของนางไว้แน่น ทว่ายังไม่ทันจบประโยค เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพลันโน้มลง และฝังเขี้ยวแหลมคมบนลำคอขาวผ่องโดยไม่ทันตั้งตัว
ลี่เหยาเหยาสะดุ้งเฮือก พลางดิ้นรนขลุกขลัก กริชเล่มเล็กในมือร่วงลงสู่พื้น
เคร้ง!!
ดวงตากลมเบิกค้าง ใบหน้างามเหยเกด้วยความเจ็บปวด โลหิตในกายของนางกำลังถูกสูบออกไปเรื่อย ๆ ดั่งสายธารากำลังหลั่งริน
อึ้ก!
"อื้อ...จะเจ็บ"
เนิ่นนานเท่าใดไม่รู้ที่ริมฝีปากอุ่นร้อนและเขี้ยวแหลมคมฝังลงบนลำคอของลี่เหยาเหยา ดวงตากลมเริ่มปริ่มปรือลงเชื่องช้า
ไม่ไหวแล้ว
กายนุ่มนิ่มอ่อนปวกเปียกภายใต้อ้อมแขนแกร่ง ฮวาเทียนจิ้งจึงปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระ ลี่เหยาเหยาทรุดฮวบ ราชามารจึงรวบกายบอบบางนั้นขึ้น พลางสาวเท้าไปเบื้องหน้าหนึ่งก้าว ฮวาเทียนจิ้งวางร่างสตรีลงบนที่นอนหนานุ่มส่ง ๆ ชายหนุ่มยกมือขึ้นปาดบริเวณริมฝีปากของตนโดยไม่แยแส พลันหมุนกายไปทางเบื้องหน้าธรณีทางเข้า
"เถียนหยา หลังจากนางฟื้นแล้ว เจ้าก็พาตัวนางออกไป"
"ขอรับนายท่าน"
