ตอนที่ 8 หมาจิ้งจอก
หลังจากเห็นสุนัขจิ้งจอกหางสั้นหมดสติไปกู้อวิ๋นเหยาก็ลังเลครู่หนึ่งสุดท้ายนางก็จัดเก็บตระกร้าสมุนไพรให้ดีแล้วใช้มีดตัดชายกระโปรงด้านในมาห่อตัวของสุนัขจิ้งจอกหางสั้นแล้วนำมันวางลงในตะกร้า
หลังจากล้างมือเสร็จกู้อวิ๋นเหยายังต้องไปเก็บลูกมะคำดีควายอีก แต่ดูตะกร้าตอนนี้คงได้ไม่มาก
หญิงสาวลุกขึ้นในตอนที่เธอหมุนกายเพื่อที่จะก้าวเดินทั้งสองขากลับหยุดชะงัก เมื่อตรงหน้ามีชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งยืนนิ่งราวกับรูปปั้นสลักจากหยกชั้นดียืนจ้องมองนางอยู่ไม่ไกลมากนัก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูประหลาดใจเล็กน้อยแต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็กลับมาสงบนิ่งดังเดิม
เส้นผมสีดำขลับของเขาถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบตึงเผยให้เห็นโครงหน้าอันคมคาย ปลายผมรวบไว้กลางกระหม่อมอย่างเป็นระเบียบ และสวมด้วยกวานทองคำ ที่สลักลวดลายเมฆามงคลอย่างวิจิตร ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นยิ่งทอประกายราวกับเทพเซียนที่ก้าวลงมาจากสรวงสวรรค์
คิ้ว ดำเข้มและเรียวยาวดุจกระบี่คมกริบที่พร้อมจะสะบั้นลมหายใจของศัตรู ดวงตาหงส์ของเขาดูล้ำลึกยิ่งกว่าห้วงมหาสมุทรสีดำที่ไม่อาจหยั่งถึง ภายในนั้นฉายแววเย็นชาและเมินเฉยต่อทุกสรรพสิ่ง ขนตาดกดำยาวเป็นแพทิ้งตัวลงเล็กน้อยยามที่เขากะพริบตา เผยให้เห็นนัยน์ตาคู่คมที่ราวกับมองทะลุจิตใจของผู้คนได้อย่างง่ายดาย
จมูก โด่งเป็นสันคมรับกับโครงหน้า ริมฝีปาก ได้รูปและบางเฉียบ ราวกับรอยสลักที่ปราศจากความอบอุ่น หากแต่ยามที่เขาเอ่ยปาก ความเย็นชาจากน้ำเสียงกลับกรีดลึกไปถึงหัวใจ
ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ผ่านมาก็นับว่าพบคนหล่อเหลามาไม่น้อย แต่ชายหนุ่มคนนี้อปป้าเหล่านั้นก็คงหล่อได้เพียงครึ่งหนึ่งของเขาเท่านั้นเอง
ก็ไม่รู้ว่าชายคนนี้มายืนอยู่ด้านหลังนางตั้งแต่ตอนไหน เป็นไปไม่ได้เลยถ้ามีคนเดินมาแล้วนางจะไม่ได้ยิน
กู้อวิ๋นเหยากระพริบตา มองชายหนุ่มผู้หล่อเหลาตรงหน้าอย่างพินิจ
"บังเอิญว่าข้าตามหาสุนัขจิ้งจอกหางสั้น มันได้รับบาดเจ็บแล้วหนีมาทางนี้แม่นางเจ้าเห็นหรือไม่?"
ในตอนที่นางกำลังประเมิณความงดงามราวกับเทพเซียนบนสวรรค์สร้างตรงหน้าอยู่นั้น พลันเสียงทุ้มของเขาก็ดังขึ้น
สุนัขจิ้งจอกหางสั้น?
กู้อวิ๋นเหยาขมวดคิ้ว "ท่านหรือเป็นคนทำร้ายมัน?"
กู้อวิ๋นเหยาขมวดคิ้วเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจทันที
เย่อู๋เฉินยกคิ้วขึ้น "แสดงว่าเจ้าเห็นมัน?"
"จึ๊! ข้าถามท่าน ท่านยังไม่ตอบเลยยังจะมาถามคำถามข้าอีก" กู้อวิ๋นเหยาถลึงตาใส่เขา
กู้อวิ๋นเหยารู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
เพราะดูจากรูปร่างสูงสง่าและออร่าที่ดูหยิ่งยโสแล้วให้ความน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย กู้อวิ๋นเหยายกมือขึ้นมากระชับสายหิ้วของตะกร้าเอาไว้
เงยหน้าขึ้นมองดวงตะวันสีส้มที่กำลังลาลับไปจากขอบฟ้า ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยท่าทีประหม่าแต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความกล้าหาญที่ทำให้เย่อู๋เฉินชะงัก
เย่อู๋เฉินขบเม้มริมฝีปากสองมือของเขาไพล่ไปทางด้านหลัง ในตอนนี้เองอี้สือที่ยืนอยู่ด้านหลังก็เอ่ยอธิบาย
"เอิ่ม..คือพวกเราใช้กับดักสัตว์ในการจับสุนัขจิ้งจอกหางสั้นตัวนี้ ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะติด แต่พอพวกเรามาถึงก็พบว่ามันดิ้นจนหลุดเห็นเพียงขนและรอยเลือด.."
กู้อวิ๋นเหยาหรี่ตา "ข้าไม่เห็นหรอกข้ามาเก็บสมุนไพรตอนนี้กำลังจะกลับแล้วกรุณาหลีกทางด้วย"
อี้สือกระพริบตามองนายของตนแวบหนึ่งจากนั้นก็ก้มหน้าลง นายท่านไม่ขยับเขาที่เป็นเพียงองครักษ์ตัวน้อยๆจะกล้าขยับได้อย่างไร
"เจ้าแน่ใจหรือ?"
ในตอนที่นางกำลังจะก้าวเดินทันใดนั้นเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นพร้อมกับสายลมวูบหนึ่งพาดผ่านไปทางตะกร้าด้านหลังของนาง
กู้อวิ๋นเหยาเบี่ยงตัวหลบตามสัญชาตญาณปัดมือของเขาที่กำลังจะเปิดตะกร้าของนางออกไป
ความเร็วในการเคลื่อนไหวของกู้อวิ๋นเหยาทำให้เย่อู๋เฉินประหลาดใจเป็นอย่างมาก หลังจากโดนนางปัดมืออีกข้างออกเขาก็ยกมืออีกข้างขึ้น ทั้งสองแลกหมัดกันไปมา
หากจะพูดถึงวิชากังฟูแบบเหาะเหินเดินอากาศนางนั้นแน่นอนว่าสู้ไม่ได้ แต่หากเป็นวิถีการชกต่อยและหลบหลีกระยะประชิด ในวงการมวยใต้ดินต่างก็เรียกนางว่า "ยอดฝีมืออันดับหนึ่งกู้อวิ๋นเหยา"
เย่อู๋เฉินไม่ได้ออกแรงมากนักเขาสัมผัสได้ถึงความว่องไวและแม่นยำของกู้อวิ๋นเหยาอย่างชัดเจน
เขารู้ว่าในตะกร้าของนางมีสุนัขจิ้งจอกหางสั้นแต่หากนางสามารถสัมผัสและจับยัดลงตะกร้าได้นั่นก็แสดงว่าสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ได้เลือกนายแล้ว
กู้อวิ๋นเหยาใช้มือหมุนแขนของเขาหมายจะไพล่ไปทางด้านหลังราวกับรู้จังหวะเขาก็พลิกตัวจากคนถูกจับกลายเป็นว่าตวัดมาคว้าข้อมือของนางแทน
ท่าต่อสู้เบสิคเช่นนี้กู้อวิ๋นเหยาคุ้นเคยเป็นอย่างมาก นางกระโดดเบี่ยงตัวหลับและถอยหลังออกไปสองก้าว
เย่อู๋เฉินไม่คิดว่าหญิงสาวที่ดูบอบบางไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้จะมีปฏิกิริยาที่ว่องไวและเฉียบขาดถึงเพียงนี้เขาพยายามคว้ามือของนางแต่ก็ถูกปัดป้องทุกครั้ง
สุดท้ายแล้วเย่อู๋เฉินก็เปลี่ยนเป้าหลายยื่นมือคว้าไปที่หยกสีมรกตเนื้อดีที่เอวของนางแทน
พรึ่บ! พรั่บ!
"นี่!"
เย่อู๋เฉินยกคิ้ว "ในเมื่อเจ้าได้หมาจิ้งจอกหางสั้นนั้นไปแล้วเช่นนั้นหยกนี่ข้าก็ขอแล้วกัน!"
พูดจบไม่รอให้กู้อวิ๋นเหยาได้โต้แย้งร่างสูงของเขาก็ทะยานลอยออกไป
อี้สือที่งุนงงกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้อยู่พลันเห็นนายของตนทะยานออกไปแล้วเขาที่เป็นองครักษ์ แน่นอนว่าจะต้องตามไป
แต่ว่า..ท่านอ๋องท่านเอาหยกของคุณหนูรองกู้ไปทำอะไรหรือ?
"ขะ ข้าขอตัวลา!" อี้สือจากไปอย่างมีมารยาทมาก เขาประสานมือแล้วกระโดดขึ้นฟ้าตามท่านอ๋องของเขาไป
"____"
กู้อวิ๋นเหยาเท้าสะเอวมองแผ่นหลังไวๆบนท้องฟ้าพลันนางก็ขบเม้มริมฝีปากแน่น
"หยกนั่นนางเพิ่งค้นเจอในกล่องของเจ้าของร่างเมื่อเช้านี่เอง ไม่คิดเลยว่าจะถูกคนหน้าด้านคนนั้นแย่งเอาไป
"อย่าให้ข้าเจอนะ!"
เมื่อทำอะไรไม่ได้กู้อวิ๋นเหยาก็เดินบ่นพึมพำลงเขา ก่แนจะลงจากหุบเขานางก็ไม่ลืมที่จะเก็บลูกประคำดีควายลงไปด้วยจำนวนหนึ่งเท่าที่ถุงผ้าสะพายของนางจะใส่ได้
เดินผ่านดอกไม้ป่า ดอกกล้วยไม้ ดอกกุหลาบดิน ดอกท้อ นางก็ไม่ลืมที่จะแวะเก็บกลับไป
เมื่อปีนกำแพงจวนเข้ามาได้ ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว
"คุณหนูข้ากังวลมากกลัวท่านจะเป็นอะไรไป" ทันทีที่เห็นกู้อวิ๋นเหยาเสี่ยวซิ่วก็รับถุงสะพายจากนางมา
นางยื่นมือไปรับตะกร้า กู้อวิ๋นเหยาโบกมือ ทั้งสองเดินมาทางด้านหลังเรือนไผ่ กู้อวิ๋นเหยาวางตะกร้าลง จากนั้นนางก็ถอดชุดคลุมออก นำร่างของสุนัขจิ้งจอกหางสั้นมาห่อเอาไว้
"คุณหนูนี่คือ?.."
"อืม..เกี๋ยวข้าค่อยเล่าให้ฟัง ไปเอาน้ำมาหน่อยข้าจะป้อนน้ำมัน!"
สุนัขจิ้งจอกหางสั้นได้กลิ่นน้ำอยู่ปลายจมูกมันก็ค่อยๆรู้สึกตัวและทำจมูกราวกับอยากจะดื่มสักคำ
กู้อวิ๋นเหยาเห็นเช่นนั้นนางจึงค่อยๆใช้ช้อนตักใส่ปากให้มันทีละคำ
หลังจากได้ดื่มน้ำแล้วสุนัขจิ้งจอกก็ขยับตัวแล้วมันก็หลับไป
กู้อวิ๋นเหยานำสุนัขจิ้งจอกหางสั้นเข้าไปในเรือนค่อยๆวางมันลงจากนั้นตัวเองจึงเข้าไปอาบน้ำ
แต่ก่อนจะไปนางหันมาสั่งเสี่ยวซิ่ว "นำลูกประคำดีควายไปล้างแล้วใส่ถาดผึ่งลม เดี๋ยวข้าออกมา"
"เจ้าค่ะคุณหนู!"
ถัดไปไม่ไกลบนต้นไม้ขนาดสูงใหญ่ เย่อู๋เฉินจ้องมองมายังเรือนไผ่เห็นกู้อวิ๋นเหยานำสุนัขจิ้งจอกเข้าไปในเรือนดวงตาลึกล้ำของเขาก็หลุบลง
"นายท่านคุณหนูรองกู้นางเข้าเรือนแล้ว เช่นนั้นท่าน.."
"กลับจวน!"
...
