บท
ตั้งค่า

3 จริงจังแล้วนะ

ได้ยินคำว่าเราเป็นเพื่อนกันที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา คนฟังก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างทอดถอนใจเท่านั้น

เฮ้อ เอาใจขนาดนี้แล้วยังคิดแค่เพื่อนอยู่อีก

เกาอ้ายซินพึมพำกับตัวเองในใจอย่างอ่อนใจ

หลังจากแกล้งเป็นแฟนกับคนตรงหน้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ความรู้สึกของเขาถลำลึกลงไปมากเกินกว่าเจ้านายลูกน้องและผองเพื่อน พอรู้ตัวอีกทีความรักมันก็ล้นปรี่ออกมานอกอกแล้ว จนต้องขอร้องคนเป็นพ่อให้ช่วยสร้างกระแสคู่จิ้นในเว็บบอร์ดสาววายให้อีกฝ่ายได้หวั่นไหวไปกับตัวเองด้วย เพราะพ่อของเขามีแฟนคลับที่เป็นสาววายเยอะแยะ เนื่องจากว่าท่านเป็นนักเขียนนิยายชายรักชายนั่นเอง

ทว่าการทำอย่างนี้กลับเป็นการสร้างเรื่องให้คนตรงหน้าอึดอัดแทนไปเสียอย่างนั้น

ช่างผิดแผนจริงๆ

คนอ่อนใจครุ่นคิดอย่างทอดถอนใจ ที่ไม่อาจทำให้หนุ่มหน้าหวานหวั่นไหวไปกับตัวเองได้

และเมื่อถือแก้วน้ำกลับมา คนอดอยากก็เงยหน้าขึ้นมาจากกล่องอาหารพอดี

“เฮ้อ... โคตรอิ่มเลย” เจียซื่อถอนหายใจเสียงดังออกมาด้วยความพึงพอใจ หลังจากกลืนซี่โครงตุ๋นคำสุดท้ายลงคอไปแล้ว ก่อนจะหยิบน้ำที่คนเป็นเจ้านายนำมาวางไว้ให้ตรงหน้าขึ้นดื่ม

ดื่มน้ำเสร็จก็เอ่ยลาทันทีอย่างไม่อยากจะอยู่นาน ให้พวกพนักงานหน้าห้องจับจ้องมากไปกว่านี้ ด้วยว่าหน้าห้องนี้ มีกลุ่มสาววายนั่งทำงานกันอยู่หลายคน “ฉันไปก่อนนะ ว่างๆ ก็ทำกับข้าวส่งไปให้ฉันด้วยล่ะ”

คนเอ่ยลาบอกอย่างกลัวอด เนื่องจากหัวเรือใหญ่ของที่นี่เป็นรักร่วมเพศ ดังนั้นพนักงานทุกคนจึงมีความแตกต่างหลากหลายและไม่มีใครดูถูกเหยียดหยามกันเพราะเรื่องนี้เลยสักคน

“ตกลงใครเป็นเจ้านาย เป็นลูกน้องกันแน่เนี่ย” เกาอ้ายซินว่าให้คนสั่งอย่างหมั่นไส้และมันเขี้ยวยิ่งกว่าเดิม

“นายเป็นเจ้านาย ฉันเป็นลูกน้องและก็ยังเป็นแฟนปลอมๆ ของนายด้วย อย่าลืมสิที่รัก” คนถูกว่าตอบกลับ ทั้งกะพริบตาปริบๆ ไปให้ด้วยอย่างกวนๆ

“ให้ตายสิ ไว้เลื่อนเป็นแฟนจริงๆ เมื่อไหร่จะทำไปให้ก็แล้วกัน” คนเป็นแฟนปลอมๆ บอกอย่างหมั่นไส้หนักมากกว่าเดิม นั่นจึงทำให้เขาถูกหนุ่มหน้าหวานเบะปากยักคิ้วยักไหล่ให้ด้วยท่าทียียวน แล้วหมุนตัวหันหน้าเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี

หลังอีกฝ่ายจากไปแล้ว เกาอ้ายซินก็ถอนหายใจออกมา

“เฮ้อ…ใจแข็งชะมัด” คนถอนหายใจพึมพำอย่างอ่อนใจ เพราะได้พยายามทำทุกวิถีทางแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมรับกันสักที พร้อมกับกดรีโมตเปิดมู่ลี่ขึ้นมองคนเดินจากไปและคิดวิเคราะห์ไปด้วย

“หรือเจียซื่อจะคิดว่าเราล้อเล่นวะ” คนคิดวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกต

ทว่าเมื่อเอ่ยออกมาแล้วก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ จึงพึมพำคัดค้านออกมา “แต่พูดบ่อยขนาดนี้แล้ว จะไม่ฉุกคิดสักนิดเลยเหรอ”

คนคัดค้านงึมงำอย่างไม่เข้าใจ เพราะต่อให้คิดว่าล้อเล่นยังไง แต่เมื่อคนรอบข้างพูดเชียร์บ่อยๆ และตัวเขาก็พูดเองออกมาหลายหน อีกฝ่ายน่าจะตั้งข้อสังเกตได้แล้ว อีกทั้งเขายังเอาใจมากขนาดนี้ อยากกินอะไรก็ทำมาให้ ทั้งๆ ที่วันหนึ่งๆ เขาทำงานจนแทบไม่ได้หยุดพักพอๆ กับเจ้าตัว แต่ก็ยังอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาเข้าครัว ทำของอร่อยๆ มาให้กินอย่างไม่อิดออดเลย แล้วอย่างนี้ จะคิดว่าล้อเล่นก็คงไม่ใช่แล้ว

“หรือว่าเป็นเพราะเราอยู่ใกล้จนเหมือนของตายไปแล้ววะ” คนไม่เข้าใจตั้งข้อสังเกตอีกหน เพราะไม่เคยห่างกันเลยสักครั้งตั้งแต่เล็กยันโต ดังนั้นอีกฝ่ายจึงอาจจะคิดว่าเขาเป็นของตายสำหรับเจ้าตัวไปแล้วก็ได้

ซึ่งเมื่อเอ่ยออกมาแล้ว เกาอ้ายซินก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ จึงเอ่ยออกมาอีกครา “ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะใช้โอกาสนี้ตีตัวออกห่างนายเช่นกัน ดูซิ...ว่านายจะรู้ใจจะหวั่นไหวไหม”

คนตั้งข้อสังเกตเอ่ยออกมาอย่างมุ่งมั่นและมีแผนการเพื่อให้หนุ่มหน้าหวานเห็นว่าเขาไม่ใช่ของตายสำหรับเจ้าตัวอีกต่อไปแล้ว จึงหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้ามากดโทรออกไปหาน้องชายทันที

รอสายไม่นานอีกฝ่ายก็รับสายกัน

(มีอะไรเหรอ) น้ำเสียงราบเรียบเข้มขรึมของคนเป็นน้องชายส่งออกมาถามด้วยความสงสัย

“มีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวคืนนี้จะแวะไปหาที่คลับนะ”

(ได้) ปลายสายตอบรับอย่างไม่มีปัญหา

“แล้วก็...ช่วยหาหนุ่มๆ หน้าสวยๆ หวานๆ ดูนุ่มนิ่มๆ เรียบร้อยๆ ไว้ให้สักคนด้วยนะ” คนเป็นพี่สั่งด้วยรอยยิ้มกริ่ม

(เอาไปทำไม? ) คนถูกสั่งถามด้วยความสงสัยหนัก ด้วยพี่ชายของตัวเองนั้นมีแต่คนเข้าหา ทว่าเวลานี้กลับให้หาคนไว้ให้จึงอดประหลาดใจไม่ได้

“เปิดตัวไง” เกาอ้ายซินบอกอย่างอารมณ์ดี นี่ยิ่งทำให้อีกคนสงสัยยิ่งกว่าเดิม

(เปิดตัวอะไร)

“เออน่ะ เดี๋ยวเล่าให้ฟังจัดการตามนั้นก็แล้วกัน” เกาอ้ายซินเอ่ยอย่างไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้

(อืม ได้ แค่นี้ใช่ไหม)

“อือ แค่นี้แหละ ขอบใจมาก” คนเป็นพี่ตอบกลับ พูดจบอีกฝ่ายก็วางสายไปทันที

“ดูซิ คราวนี้นายจะหวั่นไหวจะเปิดใจให้ฉันไหม” เกาอ้ายซินพึมพำกับหน้าจอมือถือ ที่มีรูปชายหน้าหวานกอดคอตัวเองยิ้มกว้างตรงหน้า ด้วยท่าทางจริงจัง

เนื่องจากว่าตอนนี้เขาอยากจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว หลังเห็นน้องชายฝาแฝดกำลังสร้างครอบครัวกับคนรักอย่างหวานชื่นจนน่าอิจฉา อีกทั้งเขาไม่อยากมีลูกไม่ทันใช้เหมือนคนเป็นป๊าด้วย ที่กว่าจะมีเขากับน้องชายได้อายุก็ปาไปสามสิบเจ็ดแล้ว

และเมื่อนึกถึงคนเป็นป๊าขึ้นมาแล้ว เกาอ้ายซินก็พลอยนึกถึงป๊าของหนุ่มหน้าหวานที่เป็นมือขวาป๊าของตัวเองขึ้นมาไม่ได้ด้วย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะว่าอย่างไรบ้าง หากว่าเขาจะใช้เล่ห์เหลี่ยมกับลูกชายของเจ้าตัว

ดังนั้นเกาอ้ายซินจึงกดมือถือออกไปหาผู้สูงวัยด้วยอีกคน

รอสายไม่นานน้ำเสียงเข้มขรึมทว่าอ่อนทุ้มของมือขวาคนเป็นป๊าก็ดังออกมาให้ได้ยิน

(สวัสดีครับคุณชายใหญ่)

“สวัสดีครับอากัว ป๊ากับพ่อผมอยู่ด้วยไหมครับ”

(อยู่ครับ พวกเราทั้งสี่กำลังนั่งจิบชากันอยู่น่ะครับ) กัวหวาฉีตอบตามตรง ด้วยว่าทั้งสองครอบครัวอาศัยอยู่ในบริเวณรั้วเดียวกัน ดังนั้นในทุกวันพวกเขาก็จะมานั่งจิบชาพูดคุยกันอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนกลางสวนอย่างนี้ประจำ

(ทำไม มีอะไรที่ป๊ารู้ด้วยไม่ได้เหรอ หืม...) เกาเจี้ยนหานกระเซ้าลูกชายเสียงทุ้ม หลังได้ยินคำถามพาดพิงมาถึงตัวเอง

นี่เลยทำให้คนเป็นลูกต้องรีบแก้ตัวออกมา “ไม่ใช่รู้ไม่ได้หรอกครับ แค่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเจียซื่อ ผมเลยกลัวว่า ถ้าป๊าอยู่ด้วยอากัวอาจจะกดดันเอาได้น่ะครับ”

(อ้อ ถ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ป๊าให้อิสระอากัวเขาตัดสินใจได้เต็มที่เลย ป๊าไม่ยุ่งอย่างแน่นอน) เกาเจี้ยนหานบอกเสียงเข้มขรึมจริงจัง ให้ลูกชายได้วางใจ ว่าตัวเองไม่เข้าไปก้าวก่ายแน่นอน

“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมเริ่มเล่าเลยนะครับ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้...” เกาอ้ายซินตอบรับอย่างวางใจ แล้วเริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่ลูกชายของอีกฝ่ายอึดอัดกับการถูกจับจ้องให้ฟัง และยังเล่าถึงแผนการของตัวเองออกมาด้วย เพื่อขออนุญาตใช้เล่ห์เหลี่ยมนี้กับลูกชายของเจ้าตัว

เมื่อเล่าจบเกาอ้ายซินก็ถามออกมา “อากัวอนุญาตไหมครับ”

(เอ่อ...อาว่าคุณชายถอดใจดีไหมครับ อย่างนี้จะได้ไม่อึดอัดใจกันทั้งสองฝ่าย บอกตามตรงว่าอาดีใจที่คุณชายรักลูกชายของอา จริงๆ แต่ว่าเรื่องอย่างนี้ถ้าอีกฝั่งเขาไม่ได้คิดอะไรด้วย ฝืนไปมันก็ไม่ดีนะครับ จะมองหน้ากันไม่ติดเปล่าๆ ) กัวหวาฉีบอกออกมาอย่างกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายไปจนทำให้ทั้งสองคนมองหน้ากันไม่ติดขึ้นมา

“โธ่...อาครับ ขอร้องล่ะครับ ถ้าครั้งนี้ไม่ได้ผลจริงๆ ผมจะยอมตัดใจไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกตลอดชีวิตเลยได้ไหมครับ” เกาอ้ายซิน ขอร้องเสียงอ่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel