๓ ดูแลไม่บกพร่อง (๑)
๓
ดูแลไม่บกพร่อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้คนที่กำลังง่วนกับเอกสารตรงหน้าต้องเงยขึ้นมอง เขาผ่อนลมหายใจพลางวางมือจากงานแล้วบิดกายไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยล้า เพิ่งมองนาฬิกาแล้วพบว่าตอนนี้ใกล้เที่ยงคืนแล้ว ทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำทำเอาเมื่อยไปทั้งตัวและสมอง เริ่มอยากพักผ่อนกระทั่งได้กลิ่นหอมของเครื่องดื่มจึงรู้สึกกระปรี่กระเปร่าขึ้นมาบ้าง
“เข้ามา” อนุญาตให้คนข้างนอกเข้ามา ไม่นานหล่อนก็เปิดประตูอย่างระมัดระวังเพราะถือถาดเครื่องดื่มไว้ในมือ
ผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนไปเกือบสัปดาห์แล้ว เธอยังจดจำทุกสัมผัสเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นได้อยู่เลย การปรนนิบัติเขาไม่ใช่เพียงเรื่องบนเตียง แต่เป็นการใช้ชีวิตประจำวันด้วย อาหารที่เธอเตรียมเพื่อชายหนุ่มโดยเฉพาะ เครื่องดื่มที่อนิลชอบ เสื้อผ้าเรียบกริบกับเตรียมชุดไว้ให้เขาทุกเช้า
เป็นสิ่งที่หล่อนทำด้วยความเต็มใจ แต่ก็รู้ดีว่าสถานะของเราไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย มีเพียงความใกล้ชิดและบรรเทาความปรารถนาให้ร่างสูงเท่านั้น ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะได้คุ้มเสียหรือเปล่า
เมื่อคราวนี้ลงไปเล่นกับไฟทั้งตัวและหัวใจ ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะถูกเผาให้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่านหรือเปล่า แต่เธอก็อยากลองดูสักครั้ง เพราะทุกคราวที่ถูกเขาโอบกอดเอาไว้ ช่างมีความสุขเหลือเกิน เหมือนถูกเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป
“ชาเอิร์ลเกรย์ค่ะ” วางถาดขนาดเล็กลงบนโต๊ะ แล้วเริ่มเสิร์ฟชาร้อนให้เขาในยามค่ำคืน วางแก้วลายครามลงตรงหน้าชายหนุ่ม พร้อมกับเลมอนฝานบางตามที่อีกฝ่ายชอบ
เธอเริ่มเรียนรู้สิ่งที่เขาชอบเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกัน ถึงอนิลจะไม่บอกแต่ก็ดูออกได้ง่าย เขามักจะกินอาหารเดิมซ้ำๆ ถ้าเบื่อก็กินน้อยจึงมักเปลี่ยนเมนูให้ชายหนุ่ม เป็นการสังเกตที่หญิงสาวทำด้วยความเต็มใจ
“ใส่มะนาวให้หน่อย” สั่งเสียงเรียบแล้วมองคนตัวเล็กกว่าที่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขายาว เป็นชุดนอนที่ไร้ซึ่งความเย้ายวนแต่เป็นเขาที่ตื่นตัวเอง
ตั้งแต่วันที่ได้ลิ้มรสหวานของร่างกายงดงาม ก็ทำให้เขาไม่อาจลืมเสียงครางสั่นสะท้านกับแววตาหวานที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของเธอยามจ้องมาได้เลย ใบหน้าเหยเกยามถูกรุกล้ำเข้าไปในกายสาว มือที่ผวากอดเขาเอาไว้ เล็บที่จิกลงบนเนื้อของตนจนแสบ ทุกอย่างหลอมรวมเป็นความต้องการอันไม่มีที่สิ้นสุด
วินาทีที่ราตรีเดินเข้ามาในห้อง ความเป็นชายที่เคยสงบก็กลับมาตั้งตรงอีกครั้ง พยายามข่มใจแล้วมองดูหล่อนทำงานในส่วนของตัวเองจนเกือบเสร็จสิ้น แต่เพราะกลิ่นหอมรัญจวนจากหล่อน ทำให้เขาไม่อาจทนไหวอีกต่อไป
คว้าเอวบางแล้วดึงให้เธอมานั่งบน เริ่มซุกไซ้ที่ซอกคอขาวลืมเรื่องชาไปจนหมดสิ้น สิ่งที่ต้องการไม่ใช่เครื่องดื่มแต่เป็นคนที่ทำให้เขาตื่นต่างหาก บั้นท้ายงามสัมผัสได้ถึงความแข็งขืนก็เบิกตากว้าง ถึงจะอยู่ในห้องทำงานที่มีเพียงเราสองคนแต่เธอก็นึกกระดากอาย
ควรทำบนเตียงไม่ใช่หรือ…หล่อนคิดในใจ
“ค่ะ อ่ะ...ห้อง ห้องทำงานนะคะ” พยายามเตือนเขาเมื่อมือหนาล้วงเข้ามาภายในเสื้อที่เธอสวมชั้นในทับเอาไว้ ปกติยามนอนจะไม่สวมชั้นในแต่เพราะต้องมาเสิร์ฟน้ำชาจึงต้องสวมเอาไว้สักหน่อย
แต่เขากลับใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการปลดมันออก แล้วรีบถอดเสื้อของเธอพ้นจากร่างแบบบางโดยเร็ว เปลี่ยนท่านั่งของหญิงสาวให้คร่อมบนตัก ก่อนก้มลงดูดกลืนดอกบัวคู่งามที่ท้าทายสายตา เคล้นคลึงพลางใช้นิ้วปัดผ่านยอดถันจนมันชูชัน
อนิลยกยิ้มชอบใจที่เห็นเธอแอ่นกายเข้าหาตน ได้ยินเสียงครางออกมาจากลำคอของหญิงสาว แขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้พลางหยัดกายเข้าใกล้มากกว่าเดิมอย่างลืมตัว
คนชั่วโมงบินน้อยเหมือนจะหลงไปกับสัมผัสแสนวาบหวามที่เขาล่อลวงเสียแล้ว ปากอวบอิ่มพรมจูบไปตามหน้าผากแกร่ง ไม่ใช่แค่เขาที่ต้องการเธอ รราตรีเองก็อยากสัมผัสคนตรงหน้าเหมือนกัน เมื่อมีโอกาสก็คว้าเอาไว้
ไม่มีใครเสียสักหน่อย มีแต่ได้ทั้งนั้น…
“ไม่มีคนเข้ามาหรอกน่า” เห็นเธอเหลือบมองไปทางประตูเพื่อตรวจทานว่าล็อคหรือเปล่า แต่พบว่ามันไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้จึงค่อนข้างกังวล เขาเห็นดังนั้นจึงพูดปลอบ
ทว่าร่างบางยังไม่วางใจ อนิลถึงได้อุ้มเธอโดยใช้มือสองข้างประคองบั้นท้ายงาม แล้วพาเดินไปล็อคประตูโดยที่ริมฝีปากของคนทั้งสองยังคงเชื่อมกันไม่ห่าง
“อื้อ” เสียงจูบดังอยู่ในหู ถึงเธอจะยังเป็นแค่เด็กนักเรียนที่ไม่ประสา ต้องให้คนชั้นครูคอยสอนแต่ก็ถือเป็นเด็กหัวกะทิเรียนรู้เร็ว ไม่นานก็ทำทุกอย่างเป็นจนเขาต้องเอ่ยชม
ห้องทำงานแปรเปลี่ยนเป็นสนามอารมณ์แห่งความปรารถนา ที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้อีกต่อไป พวกเขาต่างหลงในความหฤหรรษ์ที่แสนเย้ายวน ปล่อยกายใจอย่างเต็มที่โดยไม่มีชนชั้นหรือฐานะเข้ามาเกี่ยวข้อง
เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่มีความต้องการ…เท่านั้นเอง
นั่นไม่ใช่ครั้งเดียวที่พวกเราสองคนใช้ห้องทำงานเป็นสถานที่เริงรัก มีหลายครั้งที่หญิงสาวเข้าไปช่วยงานแต่ทำไปได้ไม่นานก็ถูกจับเปลือยกายเพื่อสนองความต้องการของเขา เรียกว่าเช้าจรดค่ำแทบไม่ได้ออกไปไหน ตัวติดอยู่กับอนิลอย่างเดียว
บางครั้งก็ถูกเรียกขึ้นไปรับใช้บนห้อง ซึ่งไม่มีใครสามารถเข้าห้องของคุณผู้ชายได้นอกจากราตรี ยิ่งเป็นจุดที่แม่บ้านคนอื่นมักจะเอามาค่อนแคะเธอเสมอ ต่างรู้กันดีถึงจะไม่ได้เห็นภาพกับตาก็ตาม แต่เสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาและการที่หล่อนกลายเป็นคนโปรด บ่งบอกหมดทุกอย่างแล้ว
นอกจากสถานะของเจ้านายกับลูกน้องแล้ว ทั้งสองยังเป็นคู่ขากันอีกต่างหาก สายตาของคนในครัวที่ใช้มองหล่อนจึงเต็มไปด้วยความรังเกียจโดยไม่ปิดบัง พูดกันซึ่งหน้าเพราะรู้นิสัยของราตรีดีกว่าคงไม่ตอบโต้
“ช่วงนี้คุณผู้ชายเรียกหาบ่อยนะ” ประโยคแรกเริ่มขึ้นตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามาในห้องครัว หญิงสาวเริ่มกังวลว่าคนอื่นจะรู้ จึงตอบตามที่เตตรียมเอาไว้
“แปลเอกสารน่ะค่ะ” ถึงภาษายังไม่แข็งแรงและยังคงเรียนกับเจ้าของภาษาแต่ก็มีความสามารถในการแปลมากพอสมควร จึงถูกเรียกใช้บ่อยครั้ง แล้วตามมาด้วยการร่วมรักปิดท้าย
ไม่สิ…มันคือเซ็กส์ต่างหาก
สำหรับเขาแล้วไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แค่ความต้องการของร่างกายเท่านั้น ต่างจากหล่อนที่เอาใจลงไปเล่นด้วย หวังให้อนิลใจอ่อนแล้วยอมรับเธอบ้าง
ยามค่ำคืนเขาเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มผู้อ่อนโยนนุ่มนวล วาจาที่ใช้ก็นุ่มทุ้มและสุภาพ หากเขาเป็นเช่นนี้ตลอดไปก็คงจะดี
