7
“เสร็จแล้วค่ะ” หญิงสาวยิ้มแฉ่ง ใบหน้าแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในผลงานของตัวเอง หล่อนเบี่ยงตัวให้คุณชายได้ส่องกระจกชัด ๆ ทั้งที่ความจริงหล่อนก็ไม่ได้บังเขาอยู่แล้ว
“อืม...ใช้ได้” ชายหนุ่มพอใจในความหัวไวใฝ่รู้ของเด็กสาว
“แค่ใช้ได้เองเหรอ....... หนูโดนหักคะแนนตรงไหนคะ” หญิงสาวหน้ามุ่ย ไม่พอใจที่ได้คะแนนแค่พอใช้ หล่อนคิดว่าทำได้ดีเชียวล่ะขนาดไม่เคยจับมันมาก่อนด้วยซ้ำ
“คิดว่าดีแล้วจริง ๆ หรือ” คุณชายถามกลับแทนที่จะตอบคำถามของเจ้าหล่อน
บัวบูชากวาดตามองและพิจารณาอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ ในที่สุดหล่อนก็เห็นสาบเสื้อเชิ้ตด้านหลังเนคไทยังไม่เรียบกริบ หล่อนจึงจัดการเสียใหม่ก่อนจะถอยหลังมาเอียงคอมองชื่นชมผลงานของตัวเอง
“ยอดเยี่ยม !” หญิงสาวให้คะแนนตัวเองเสร็จสรรพ
“แค่ดีก็พอมั้ง”
“ชิ !....หวงคะแนน” หญิงสาวเผลอย่นจมูกใส่ เหมือนกับตอนที่เถียงกับน้อง ๆ หล่อนหลงลืมไปว่านี่คือคุณชายผู้สูงศักดิ์
“บ้าคะแนน”
“หนูไม่ได้บ้านะคะ.......แค่เรียกร้องความยุติธรรม” ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หล่อนถึงกล้าต่อปากต่อคำกับเขา ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานกลัวเขาแทบตาย
“งานต้องแก้เนี่ยนะ จะเอาคะแนนยอดเยี่ยม”
“ก็จริง.......งั้นเอาแค่ดีก่อนก็ได้ค่ะ” หญิงสาวคิดตาม ก็เห็นว่ามีเหตุผลยอมรับได้
“แล้วเรื่องเมื่อคืน....”
“เดี๋ยวค่ะคุณชาย อย่าเพิ่งพูด รีบไปทำงานใช่ไหมคะ รีบ ๆ แต่งตัวเถอะค่ะเดี๋ยวไม่ทัน” บัวบูชายกมือห้าม ก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบเสื้อตัวนอกมากางรอให้เขาใส่ จากนั้นก็หยิบกระเป๋าเอกสารที่คุณนมชี้ให้ดูตั้งแต่เมื่อวานว่าคุณชายจะต้องหิ้วไปทำงานทุกวันมาเตรียมพร้อม......หล่อนดูลุกลี้ลุกลนวุ่นวายไปหมดเพราะกลัวว่าเขาจะพูดถึงเรื่องที่หล่อนกอดก่ายเขาทั้งคืน ก่อนจะรุนหลังคนตัวโตให้รีบออกจากห้อง
“หึหึ....เป็นอะไร” ราชนิกูลหนุ่มเลิกคิ้วเข้ม เพ่งมองระคนขบขัน
“ปะ...เปล่าค่ะ” แก้มสาวแดงปลั่งเมื่อเห็นสายตาที่มองมาเหมือนเขาจะรู้เท่าทันความคิดของหล่อน .....ช่างปะไรอย่าพูดออกมาเป็นพอ
บทที่ 3
บัวบูชาถูกนมผ่องเคี่ยวเข็ญให้มานั่งรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับคุณชายปฐวีที่นั่งหลังตั้งตรงราวกับปูนปั้น โชคดีที่หม่อมเนื้อทองได้อบรมสั่งสอนและฝึกซ้อมมารยาทบนโต๊ะอาหารรวมถึงการเข้าสังคมมาพอสมควร ไม่ใช่เพื่อเตรียมส่งหล่อนมาให้คุณชาย แต่เพราะท่านคิดจะปั้นดินให้เป็นดาวส่งเด็กสาวแก่นแก้วเข้าประกวดนางสาวสยาม แต่ดวงของหล่อนคงไม่เป็นไปในเส้นทางนั้นเพราะช่วงนี้เหตุบ้านการเมืองยุ่ง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำนัยว่าเกิดการรัฐประหารซึ่งหล่อนก็ไม่เข้าใจนักมันเป็นเรื่องไกลตัวเหลือเกิน แต่เหตุการณ์ที่ว่าก็ทำให้มีการยกเลิกการประกวดไปโดยปริยาย ยังความโล่งใจให้กับบัวบูชา เพราะหล่อนไม่ปรารถนาขึ้นไปเดิน ทำท่ากระบิดกระบวนโชว์ให้ใครต่อใครเห็น....จั๊กจี้จะตาย......สุดท้ายจึงต้องกลายมาเป็นเมียก้นครัวของคุณชายผู้สูงศักดิ์.....ไม่รู้ว่าดีกว่าหรือแย่กว่ากันแน่ แต่ที่ผ่านมาหนึ่งคืนก็นับว่าไม่แย่จนเกินไป หรือไม่คุณชายก็อาจจะเป็นอย่างที่หล่อนแอบได้ยินหม่อมเนื้อทองคุยกับท่านเจ้าสัวเจียงที่ว่าเขาชอบเพศเดียวกัน ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะดี.....
“บัวบูชา ! ใครสอนให้นั่งเหม่อบนโต๊ะอาหาร”
“ขะ....คะ?” หญิงสาวสะดุ้งหลุดปากถามอะไรไม่เข้าท่าออกไปอีกแล้ว หล่อนทันได้เห็นคุณชายตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจและกำลังจะลุกออกจากเก้าอี้ จึงรีบกุลีกุจอหยิบกระเป๋าเดินตามคุณชายปูนปั้นไปติด ๆ ตามที่คุณนมกำชับมาว่าต้องไปส่งสามีขึ้นรถไปทำงานทุกวัน......ไม่อย่างนั้นคงไปไม่ถูก...ข้อความหลังนั้นหล่อนต่อเองในใจ ขืนพูดออกไปมีหวังโดนบิดพุงขาด.....
ที่เชิงบันไดหน้าตึก นายโมกมายืนรอรับอย่างรู้หน้าที่หลังจากขับเจ้าคาดิลแลค รถสปอร์ตเปิดประทุนคันโก้มาจอดรอเตรียมพร้อม บัวบูชายืนถือกระเป๋าฉีกยิ้มให้กับคนที่ได้ชื่อว่าสามี ก่อนที่สายตาจะจับจ้องอยู่ที่รถยนต์คันยาวดวงตาทอประกายพึงใจ หล่อนเคยเห็นรถแบบนี้ที่บ้านเจ้าสัวว่าชอบแล้ว แต่คันนี้สวยกว่าสีแดงเจิดจ้าน่าหลงใหล ถ้าได้นั่งเล่นออกไปนอกเมืองคงจะเป็นบุญก้นของนังบัวไม่น้อย.....
“หล่อมากเลยค่ะคุณชาย เขาชื่ออะไรหรือคะ”
“หืม.....เธอหมายถึง......?” คุณชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น กุลสตรีที่ไหนเอ่ยชมผู้ชายโต้ง ๆ แบบนี้
“เอ่อ...ชื่อโมก..... ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบอย่างขัดเขินที่หญิงสาวเอ่ยถาม
“ชื่อโมกหรือคะ ไม่ใช่สีเขียวสักหน่อย คาดิลแลคสีแดงแบบนี้น่าจะชื่อ...ชื่ออะไรดีน๊า......” บัวบูชาพยายามนึกถึงชื่อเหมาะ ๆ แต่ก็นึกไม่ออก
“พอ ๆ ๆ ใครเขาตั้งชื่อรถกัน” คุณชายปฐวีเพิ่งจะถึงบางอ้อ ว่าแม่ตัวดีถามชื่อรถจึงค่อยคลายความรู้สึกไม่ชอบใจลงได้บ้าง ส่วนนายโมกยิ่งเก้อเขินหนัก โดยที่คนถามไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าทำใครหน้าแตกบ้าง
“รถแบบนี้มีไม่กี่คนที่ได้ครอบครองนี่คะ เขาอาจจะตั้งชื่อแต่เราไม่รู้ก็ได้ค่ะ” คนช่างเจรจาสรรหาคำมาโต้แย้งจนลืมนึกไปว่าอาจจะทำให้เขาไปทำงานสาย
“ว่าแต่ ทำไมเธอถึงรู้จักรถยนต์ยี่ห้อนี้” คุณชายถามอย่างแปลกใจ ปกติพวกผู้หญิงมักจะสนใจเรื่องแฟชั่นมากกว่าไม่ใช่เหรอ
“ที่บ้านเจ้าสัวก็มีนี่คะ ไม่รู้สิคะคนมันชอบบอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่คันนี้สวยถูกใจมากกกกก......อืม...เข้าขั้นหลงใหลเลยล่ะค่ะ”
หญิงสาวบอกพลางทำหน้าทำตาปลื้มปริ่มกับสิ่งตรงหน้าจนทำให้ใครบางคนนึกอิจฉารถขึ้นมาตงิด ๆ
