บท
ตั้งค่า

3

“ทำไมจะต้องแกล้งหลอกคนอื่นด้วย....ฉันเกลียดนักคนชอบโกหก” ชายหนุ่มแกล้งถามเสียงเครียด เพิ่มความดุดัน เผื่อว่าเจ้าหล่อนจะเปลี่ยนใจร้องตามหม่อมแม่กลับบ้าน ถ้าเป็นแบบนั้นจะได้เลิกวุ่นวายเสียที แค่ที่หล่อนเหยียบย่างเข้ามาไม่ทันไรก็ดูจะวุ่นวายกันไปทั้งวัง

“คือหนู....” โอย...ทำไมดุยิ่งกว่าหมาอีกวะ บัวบูชาทำอะไรไม่ถูกทั้งกลัวทั้งประหม่า

“คนขี้นินทา ฉันก็ไม่ชอบ” ร่างสูงก้มลงวางมือทั้งสองข้างคร่อมเรือนร่างเล็กจ้อยเมื่อเทียบกับคนตัวโตอย่างเขา หล่อนยังนั่งงงอยู่บนตั่งเตี้ยและดูเหมือนจะเริ่มมีอาการสั่นน้อย ๆ เมื่อเจอกับท่าทีคุกคาม มิหนำซ้ำเขายังแกล้งใช้ปลายจมูกปัดป่ายเฉียดแก้มอิ่มไปมา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาเสียเวลาแกล้งเด็กซนคนนี้ทำไมแต่ก็ช่วยให้อารมณ์รื่นเริงขึ้นไม่น้อย

“หนูไม่ได้นินทาใครนะคะ” บัวบูชาเบนหน้าย่นคอหนี ปลายจมูกเชิดงอนกับริมฝีปากอวบอิ่มเม้มแน่นอย่างโกรธเคือง ไอ้ที่ผิดจริงก็ยินดียอมรับแต่ไม่ผิดอย่ามายัดเยียดกันง่าย ๆ เป็นคุณชายแล้วยังไงคิดจะปรักปรำกันง่าย ๆ อย่างนี้ก็ได้เหรอ

“อุ้ย ! หายแล้วใช่ไหม งั้นแม่ลงไปข้างล่างก่อน....ตามสบายนะคุณชาย” หม่อมเนื้อทองหมุนตัวจะกลับไปทางเดิม แต่คนตัวเล็กก็วิ่งแล่นมาเกาะราวกับลูกลิงหาที่พึ่งพิง

“อะไรกันเด็กคนนี้ กลับไป ๆ ” ผู้สูงวัยรีบโบกมือไล่เด็กสาวกลับไปหาลูกชายที่ร้ายไม่เบา...เชอะ ! ใครมันนินทาลูกชายหม่อมเนื้อทองว่าเป็นพวกลักเพศ อยากให้มาเห็นจริงจริ๊ง……หม่อมเนื้อทองยิ้มแก้มปริ

“หม่อมแม่ก็มานั่งพักเถอะค่ะ อย่าเดินให้วุ่นวายไปเลยเดี๋ยวจะวิงเวียนเสียเปล่า ๆ” คุณชายปฐวีรู้ว่าทำให้ผู้สูงวัยเข้าใจผิดเสียแล้ง หมดทางที่จะบ่ายเบี่ยงได้อีกคงจะต้องรับยัยเด็กแสบนี่ไว้จริง ๆ

หม่อมเนื้อทองเดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้ไม้สักหนาหนักโดยมีบัวบูชาลงไปนั่งลงกับพื้นใกล้ ๆ

“ขึ้นมานั่งเสียข้างบนนี่เถอะหนูบัว เราน่ะไม่ใช่บ่าวนะฉันบอกแล้วไงว่าจะให้มาปรนนิบัติคุณชายในฐานะเมีย” หม่อมเนื้อทองเอ็นดูบัวบูชาเป็นพิเศษ เพราะหล่อนเป็นลูกสาวของข้าเก่าเต่าเลี้ยงที่แยกย้ายกันไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ตกยากเลยพาลูกสาวคนเดียวมาฝากให้ทำงานด้วยอยู่ด้วยกันมาเป็นปี หล่อนเห็นว่าเป็นเด็กดีจึงได้ขอกับคนเป็นพ่อแม่ให้มารับใช้คุณชายปฐวีซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นเมียก้นครัวนั่นแหละ แค่นี้สองคนนั่นก็ดีใจจนเนื้อเต้นแล้วที่ลูกสาวได้ดิบได้ดีถึงแม้จะไม่ได้เป็นเมียแต่งก็เถอะ

“เธอเต็มใจอย่างนั้นรึ” คุณชายถามคนที่ก้มหน้างุดแทบจะซุกตัวเข้าไปหลบข้างหลังหม่อมเนื้อทอง หากเจ้าหล่อนโดนบังคับมาเขาจะรีบปฏิเสธทันที

“พะ...เพคะ”

“พูดธรรมดา ฉันไม่ใช่เจ้า”

“เอ่อ...ค่ะ” บัวบูชารู้แต่ว่า เป็นเพราะความเมตตาของหม่อมเนื้อทองที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจุนเจือให้ทุนรอนแก่ครอบครัวเอาไปค้าขายน้อง ๆ ของหล่อนถึงได้อยู่ดีกินดีอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นอะไรที่จะทดแทนพระคุณได้ บัวบูชาไม่ลังเลเลยสักนิด...คงไม่ถึงตายหรอกน่า......

“แหม...คุณชายก็....ถามอย่างนี้น้องก็อายแย่น่ะสิ เอาเป็นว่าแม่จะให้เด็ก ๆ ไปขนของ ของหนูบัวไปไว้ที่ห้องคุณชายเลยก็แล้วกัน” หม่อมเนื้อทองแย้มยิ้มอิ่มใจยิ่งนัก....โถ ลูกชายแม่ก็คงจะอาย ดูสิ...ทำเป็นวางมาดเคร่งขรึม...

“ผมเกรงว่าบัวบูชาจะอึดอัด อยู่คนละห้องก็ได้ค่ะหม่อมแม่”

“ได้ยังไงล่ะลูก ยุ่งตายเลย เมียน่ะจะต้องดูแลสามีตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงหลับนอน จะแยกกันอยู่ให้ยุ่งยากทำไมกัน เอาตามนี้แหละเดี๋ยวแม่จะต้องไปธุระอีก”

“หม่อมไม่อยู่ก่อนหรือคะ” พอได้ยินว่าจะถูกทิ้งไว้ตามลำพังกับคนดุหล่อนก็ผวา

“วุ้ย ! แม่คนนี้ยังจะกลัวอะไร รุ่นเดียวกันเขามีลูกเป็นโขยงแล้ว เกือบจะยี่สิบแล้วนะเราน่ะ” หม่อมเนื้อทองว่าอย่างเอ็นดู

บทที่ 2

บัวบูชาถูกพามาส่งให้คุณนมผ่องซึ่งทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณชายปฐวีมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เพราะสมัยนั้นหม่อมเนื้อทองเป็นเมียที่หม่อมเจ้ารพีพัฒน์มักจะพาออกงานสังคมที่ต้องพบปะนักธุรกิจบ่อย ๆ ถึงแม้ไม่ใช่เมียเอก แต่เพราะความที่เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัวเจียงกับอดีตคุณข้าหลวงทองมา เจ้าของธุรกิจมากมายในเมืองหลวงทำให้หม่อมเนื้อทองพลอยเป็นที่รู้จักไปด้วย

“คุณบัวบูชาผลัดผ้าเลยค่ะ” หญิงสูงวัยร่างท้วมใบหน้าอิ่ม ท่าทางใจดียื่นผ้าถุงส่งให้ หลังจากพาหล่อนมาที่ลานหญ้าหลังวัง

“จะทำอะไรเหรอคะคุณนม” หญิงสาวหน้าตาเหยเก เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว

“ขัดผิวสิคะ...เร็ว ๆ เข้าเถอะค่ะ” นมผ่องเร่ง เพราะตอนนี้เป็นเวลาบ่ายมากแล้ว ก่อนกลับหม่อมเนื้อทองกำชับนักหนาว่าต้องจัดการให้เรียบร้อย ซึ่งนางเองก็อยากให้คุณชายเป็นฝั่งเป็นฝาเหมือนกันและคุณบัวบูชาคนนี้ก็น่าเอ็นดูท่าทางอย่างกับพวกลูกสาวผู้ลากมากดี แต่หม่อมเนื้อทองบอกว่าไม่ใช่ ถึงยังไงก็ขอให้เป็นคนดีก็แล้วกัน อย่าให้เหมือนคนเก่าเลยไม่ไหวจริง ๆ

“คุณนมขา ไม่ต้องขัดไม่ได้หรือคะ หนูอาบน้ำถูขี้ไคลทู๊ก.......วันอยู่แล้วนะคะ คงไม่มีอะไรให้ขัดแล้วค่ะ มีหวังหนังถลอกแหง ๆ เลย...” บัวบูชาอิดออดพลางบ่นกะปอดกะแปดแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจความต้องการของหล่อน คนที่นี่ช่างเหมือนหุ่นยนต์เก็บปากเก็บคำเหมือนเจ้าของวังไม่มีผิด แต่ละคนตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตัวเอง บ้างก็กางกระโจม บางคนกำลังผสม สมุนไพรเหลือง ๆ นัยว่ามีทั้งขมิ้นสด ไพลมะขามเปียกแล้วก็อะไรอีกก็ไม่รู้แล้วเพราะกลิ่นมันทำให้หล่อนมึนไปหมด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel