11
ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นกับคำที่คุณชายผู้สูงศักดิ์เรียกขาน แบบนี้หมายความว่าคุณชายให้ความเมตตาแก่เราใช่หรือเปล่า.....โอยยยยบัวบูชาทำไมหล่อนถึงได้โชคดีมีวาสนาแบบนี้นะ.........หญิงสาวยิ้มปลื้มการที่ได้เข้ามาอาศัยใบบุญที่นี่ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดขอเพียงได้รับความเมตตาจากผู้เป็นใหญ่โดยเฉพาะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ก็นับเป็นวาสนาอย่างที่สุดแล้ว ......แต่ดูเหมือนวาสนาของหล่อนจะส่งไปไม่สุดเมื่อเปิดประตูลงมาพบกับเจ้าจัมโบ้ที่ยืนแยกเขี้ยวรออยู่แล้ว
“ว้าย !.....ตาเถรตกใต้ถุน.....” หญิงสาวอุทานลั่นตื่นจากฝันกลางวัน ใส่เกียร์ถอยหลังกลับมานั่งตัวสั่นงันงกอยู่ในรถ ขณะที่ผู้เป็นเจ้าของลงไปทักทายมันอย่างคุ้นเคย
“ลงมาหนูบัว.....”
“มะ....ไม่ค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าหวือก่อนจะหันไปตะกายพนักพิงแล้วเกาะกอดเอาไว้ราวกับตุ๊กแกกลัวเขาจะแงะตัวหล่อนออกไปเผชิญหน้ากับจัมโบ้สุดหล่อตอนนี้ หล่อนยังไม่พร้อมจริง ๆ
“ฉันบอกให้ลงมา” เสียงเข้มขึ้นอีกหลายระดับตามอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น ในเมื่อเขายืนอยู่ตรงนี้แม่ตัวดียังไม่ไว้วางใจกันเลยหรือไรเรื่องแค่นี้คิดว่าเขาปกป้องเจ้าหล่อนไม่ได้ใช่ไหม......
“กระผมพาเจ้าจัมโบ้ไปเก็บก่อนก็ได้ขอรับคุณชาย” นายมิ่งที่วิ่ง ตามมาทีหลังรีบเอ่ยปากบอก เขาจำได้ดีว่าคุณบัวบูชากลัวหมาขนาดไหน ต้นไม้ทั้งสูงทั้งใหญ่ก็ปีนขึ้นไปให้เห็นแล้ว คงไม่ได้กลัวเล่น ๆ แน่
“ไม่ต้อง ถ้าไม่ลงมาก็ให้เขานั่งอยู่บนนั้นแหละ” คุณชายหนุ่ม บอกเสียงเรียบก่อนจะเดินขึ้นตึกไปเหมือนไม่สนใจ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจจะคิดว่า หล่อนกำลังเสแสร้งแกล้งเรียกร้องความสนใจ แต่ผู้หญิงคนนี้คิดอย่างไรก็ แสดงออกมาอย่างที่คิด เพราะฉะนั้นหล่อนจะต้องปรับตัวอยู่ร่วมบ้านกับ เจ้าจัมโบ้ให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าติดตามว่าคนอย่างบัวบูชาจะแก้ปัญหานี้ แบบไหน..... หากหมาตัวเดียวยังจัดการไม่ได้ต่อไปจะปกครองวังนี้ได้ อย่างไร.........คุณชายปฐวีถึงกับชะงักในความคิดของตัวเองที่คิดไปไกล...
“คุณบัวลงมาเถอะขอรับ ไอ้จัมโบ้มันไม่กัดหรอก แค่อยากมาทักทายเท่านั้นเองขอรับ” นายมิ่งพยายามไกล่เกลี่ยนายสาว เพราะหม่อมเนื้อทองแจ้งให้บ่าวทุกคนได้รับรู้ทั่วกันว่าคุณบัวบูชาอยู่ในฐานะเมียของคุณชาย ถึงขนาดออกหน้ารับรองเองแบบนี้ก็ไม่มีเหตุผลให้ใครกล้ากระด้างกระเดื่อง
“ไม่ค่ะ ......ฝากลุงบอกมันด้วยว่าหนูสบายดี ให้มันกลับกรงไปได้แล้ว” หญิงสาวตะโกนบอกหวังว่าเจ้าหมาหน้ามึนที่นั่งหอบแห่ก ๆ คงจะเข้าใจ
“น้ามิ่งก็พาไอ้จัมโบ้ไปเก็บเสียก็สิ้นเรื่อง” โมกมายืนรอเพื่อจะเอารถไปเก็บตามหน้าที่ช่วยคิดหาวิธีจบปัญหานี้เพื่อที่เขาจะได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้จบเหมือนกัน
“จะดีหรือวะ.....มิเท่ากับขัดคำสั่งคุณชายหรือวะไอ้โมก” นายมิ่งลังเล
นมผ่องได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวทางหน้าตึก จึงเดินออกมาดูถึงได้รู้ว่าคุณชายทิ้งเมียให้ติดอยู่บนรถ น่าตีจริง ๆ เชียวคุณชายหนอคุณชาย...ผู้สูงวัยอ่อนอกอ่อนใจ
“คุณบัว ทำไมไม่ลงมาล่ะคะ”
“คุณนมขา หมาค่ะ หมา” หญิงสาวบอกเสียงสั่น น้ำตาคลอ
“ค่ะรู้แล้วว่าหมา ลงมาเถอะค่ะ” นมผ่องเดินเข้าไปหาพร้อมกับยื่นมือที่เริ่มเหี่ยวไปให้ยิ่งรู้สึกสงสารจับใจเมื่อได้สัมผัสกับมือบางที่เย็นเฉียบของอีกฝ่าย จึงบุ้ยใบ้ให้นายมิ่งพาเจ้าจัมโบ้ไปเก็บ อีกฝ่ายเห็นว่าเป็นคำสั่งของคุณนม ที่แม้แต่คุณชายก็เกรงใจจึงยอมทำตามแต่โดยดี
“คุณนมขา หนูจะทำอย่างไรดีคะ คุณชายโกรธหนูด้วยค่ะ” หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่พากันมานั่งพัก
“โกรธเรื่องอะไรกันคะ”
“ก็เรื่องที่หนู...เอ่อ...หนูเข้ากับเจ้าจัมโบ้ไม่ได้”
“แหมนึกว่าเรื่องใหญ่”
“ใหญ่สิคะ ใหญ่มากด้วย”
“เอาเถอะค่ะ เอาไว้ค่อยไปผูกมิตร เอาขนูกขนมไปให้มัน
กิน ขี้คร้านจะติดแจ เจ้าจัมโบ้น่ะมันชอบกินเป็นที่หนึ่ง แต่ต้องให้นายมิ่งอยู่ด้วยนะคะ” นมผ่องแนะนำอย่างเอ็นดู
“นั่นสิคะ หนูต้องผูกมิตรกับมันให้ได้ค่ะ” ความจริงมันไม่ใช่แค่กลัวธรรมดา แต่มันเป็นความกลัวฝังใจตั้งแต่วัยเด็กซึ่งเรื่องนี้หล่อนจะต้องแก้ไขด้วยตัวเอง
“แล้วทีนี้จะทำยังไงคุณชายถึงจะหายโกรธนะ” หล่อนรำพึงกับตัวเองมากกว่า ...... ที่ทุกข์ใจอยู่ตอนนี้ก็เพราะมีทั้งเรื่องขับรถ เรื่องหนังสือที่รอ ขอความเมตตา นอกจากหาวิธีเอาใจไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้คุณชายโกรธ เอาอีกเหมือนสวรรค์ลอยมาตรงหน้าแต่ก็คว้าไว้ไม่ได้.....คิดแล้วก็หนักใจจนเผลอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ไม่เห็นจะยากกระไรเลย เอียงหูมาค่ะนมจะบอกวิธีให้” นมผ่องได้ยินเต็มสองหูนึกเอ็นดูเด็กสาวก็แบบนี้แหละยังไม่รู้จักใช้จริตจะก้าน
บัวบูชาเอียงเข้าหาคุณนมอย่างกระตือรือร้น คุณนมเองก็ขยับเข้าหาพลางกระซิบบอกทั้งที่อยู่กันแค่สองคน.....ยิ่งพูดสาวเจ้าก็ยิ่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกแต่ก็พยักหน้าอย่างเอียงอายเมื่ออีกฝ่ายถามย้ำว่าทำได้ไหม.........
