ตอนที่ 7 ใจเต้น
อากาศตอนหกโมงเช้าไม่ถึงสิบองศาทำให้ของขวัญนอนต่อไม่ไหว เธอจึงออกจากเต็นท์มาชงกาแฟที่ซื้อมาเมื่อวานเพื่อคลายหนาว
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ธามที่ได้ยินเสียงกุกกักนอกเต็นท์จึงออกมาดูก็พบว่าของขวัญกำลังทำอาหารอยู่
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ รับกาแฟไหมคะ” เธอหันไปยิ้มให้เขา
“ผมขออเมริกาโนร้อนแก้วหนึ่งครับ”
“นั่งรอสักครู่นะคะคุณลูกค้า” เสียงหวานบอกอย่างอารมณ์ดี
ธามเดินไปนั่งชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ตอนนี้พวกเขาอยู่บนภูเขาสูงจึงทำให้มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างขวางเกือบทั้งเมือง บรรดาต้นไม้ที่ผลัดใบไปตามฤดูกาลนับร้อยนับพันต้นแต่งแต้มสีสันอันสดใสไปทั่วหุบเขา และยังมีหมอกลอยอยู่จาง ๆ จนเกิดเป็นทัศนียภาพที่น่าหลงใหลและงดงามเกินคำบรรยาย
ไม่นานของขวัญที่รินน้ำร้อนใส่แก้วกาแฟทั้งสองเสร็จก็เดินไปหาธาม
“ขอบคุณครับ” ธามกล่าวขอบคุณขณะรับมาหนึ่งแก้ว
“สวยมากเลยนะคะ” ของขวัญพูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ เขา
“ครับ ผมไม่มีเวลานั่งมองธรรมชาติแบบนี้มานานแล้ว ได้มาเที่ยวแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
“เหมือนกันเลยค่ะ ขวัญเองก็ไม่ค่อยมีเวลามาพักผ่อนแบบนี้เหมือนกัน”
“คุณขวัญอยากให้ปรับลดตารางงานลงไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ วงขวัญทำบริษัทเจ๊งมาหลายปี ตอนนี้ใช้งานพวกเราให้หนัก ๆ ได้เลย” ของขวัญพูดทีเล่นทีจริงทำให้คนฟังอมยิ้ม
“ถามเพื่อนก่อนดีไหมครับ” ธามเอ่ยแซว
“นั่นสิ” ณัฐธิดาที่เดินมาหาคนทั้งคู่ก็ได้ยินบทสนทนานั้นเข้า
“อ้าว พี่ไนน์กับคุณธีร์ตื่นแล้วเหรอคะ เรามากินข้าวเช้ากันเถอะ” ของขวัญลุกไปยังโต๊ะกินข้าวหน้าเต็นท์แล้วเตรียมยากิโซบะสำเร็จรูปเป็นอาหารเช้าให้กับทุกคน
ช่วงสาย ๆ ทุกคนก็เก็บเต็นท์ไปคืนที่พักแล้วเดินลงไปยังหมู่บ้านโบราณที่ตีนเขา แน่นอนว่าณัฐธิดาเดินจับมือกับธีร์ไปตลอดทาง ทำให้ของขวัญต้องเดินไปกับธามเหมือนตอนขึ้นเขา เมื่อถึงหมู่บ้านเธอก็ชวนธามเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ไม่หยุด ราวกับเด็ก ๆ ที่ตาโตกับร้านของเล่นมากมาย
“คุณธามว่าหมวกใบไหนเหมาะกับขวัญคะ เป็นงานแฮนด์เมดทั้งคู่ด้วย” ของขวัญสวมหมวกสี่ห้าใบสลับกันไปมาอยู่หน้ากระจก
“สีดำครับ เหมาะกับสีผมด้วย”
“งั้นขวัญเอาสีดำค่ะ” เธอพูดอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินไปจ่ายตังค์ โชคดีที่ธามทำงานค่ายเพลงและสนใจด้านแฟชั่นมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงสามารถเชื่อเซ็นส์ของเขาได้ ถ้าเขาเป็นเพื่อนสาวเธอคงชวนไปช็อปปิงทุกวันแน่
“น้ำในคลองใสมาก ดูสิคะ มีปลาด้วย” เมื่อเดินออกจากร้านของขวัญก็ชี้นิ้วไปยังคลองเล็ก ๆ ข้างหน้า ก่อนจะวิ่งไปดูปลาในน้ำ
“ระวังครับ เดี๋ยวตกลงไป” ธามพูดขึ้นเมื่อหญิงสาวโน้มตัวลงไปจะจับปลา
“คุณธามไม่ปล่อยให้ขวัญร่วงลงไปหรอกค่ะ” เธอพูดยิ้ม ๆ เพราะรู้สึกได้ถึงแรงมือที่ดึงกระเป๋าเป้ของเธออยู่ข้างหลัง
“ใช่ครับ เพราะคุณยังต้องทำงานใช้หนี้บริษัทอีกเยอะ” ธามสวนกลับ ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มสนิทจนสามารถหยอกล้อกันได้
“เชอะ” ของขวัญทำปากยื่นอย่างงอน ๆ
เมื่อเดินเที่ยวกันจนหนำใจทั้งหมดก็ออกเดินทางไปยังฟาร์มสเตย์ที่ได้จองไว้ เมื่อมาถึงคุณยายเจ้าของบ้านก็ชวนทำอาหารเย็นด้วยกัน แม้บางคนจะไม่ถนัดกับการเข้าครัว แต่การช่วยเหลือกันและกันก็ทำให้บรรยากาศในบ้านหลังเล็ก ๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นแม้ในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ
รุ่งเช้าทั้งหมดก็ไปขุดมันหวานในสวนหน้าบ้านตามโปรแกรมของฟาร์มสเตย์ ธีร์รับหน้าที่กวาดใบไม้มากองกันแล้วจุดไฟเผา ส่วนคนที่เหลือนำมันที่ล้างสะอาดแล้วห่อด้วยฟอยล์ ก่อนจะใส่ลงไปในกองไฟ
“น่าจะสุกแล้วนะ” ธีร์พูดขึ้นเมื่อผ่านมาหนึ่งชั่วโมงจนไฟมอดดับไปหมดแล้ว
ของขวัญจึงคีบมันหวานจากใต้ขี้เถ้าออกมาก่อนจะแกะฟอยล์ออก
“อ๊ะ ร้อน” เธอสะดุ้งทันทีเมื่อมือสัมผัสกับมันโดยตรง
“เดี๋ยวผมแกะให้” ธามแกะฟอยล์ออกแล้วนำมาเป่าสักพัก ก่อนจะยื่นไปตรงหน้าของขวัญ
“เอ่อ” ของขวัญลังเล เธอไม่อยากให้เขาป้อนแต่ก็ไม่กล้าจับเองเพราะกลัวร้อน เธอหันมองซ้ายมองขวาก็เห็นว่าณัฐธิดากับธีร์กำลังนั่งกินมันเผาอย่างเอร็ดอร่อยอีกมุมหนึ่งโดยไม่สนใจเธอเลยสักนิด ของขวัญจึงอ้าปากงับไปคำหนึ่ง
“อร่อยไหมครับ” ธามถามขึ้น
“อร่อยค่ะ หวานมากเลย”
เขายืนป้อนเธออีกหลายคำจนเห็นว่ามันหายร้อนแล้วจึงส่งให้เธอถือเอง
“ทางนั้นสวีตกว่าพวกเราที่เป็นแฟนกันอีกนะ” ธีร์พูดขึ้นอย่างหมั่นไส้
ที่จริงเขามองสายตาของพี่ชายเพียงปราดเดียวก็ดูออกว่าธามคิดยังไงกับของขวัญ แต่ด้วยความที่อยากให้พี่ชายสมหวังเขาจึงแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นและพาแฟนสาวเดินออกห่างบ่อย ๆ
“พี่ธามชอบขวัญเหรอคะ เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเองนะ” ณัฐธิดาถามด้วยความงุนงง
“คิดว่านะ แต่ช่างเถอะ ไนน์ป้อนพี่บ้างสิ” ธีร์อ้าปากรอ
“งั้นไนน์ขอไว้อาลัยให้พี่ธามก่อนเลยเพราะขวัญมีคนที่ชอบแล้ว” ณัฐธิดาป้อนมันให้แฟนหนุ่ม
ความจริงเธอเคยบังเอิญได้ยินความสัมพันธ์ลับ ๆ ระหว่างของขวัญกับภาคินทร์มาก่อน และพอจะรู้ว่ารุ่นน้องสาวชอบอีกฝ่ายมากแค่ไหน
ช่วงบ่ายทุกคนก็เดินตามคุณยายเจ้าของบ้านไปเก็บลูกพลับจากหลังบ้านเพื่อมาทำลูกพลับตากแห้ง แต่แล้วธามที่ไม่เคยปอกผลไม้ก็พลาดจนทำมีดบาดนิ้วตัวเอง
“ขวัญมีปลาสเตอร์อยู่ในกระเป๋าค่ะ” ของขวัญลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปยังห้องนอนของเธอกับณัฐธิดา
“รีบตามไปสิ” ธีร์บอกพี่ชายที่นั่งนิ่งอยู่ที่เดิม
“ไปทำไม” ธามหันไปถามงง ๆ
“เออ ช่างมันเถอะ” ธีร์ส่ายหน้าแล้วนั่งปอกผลไม้ต่อ
“คุณธามไปล้างมือก่อนค่ะ” ของขวัญบอกเมื่อเดินกลับมา
จากนั้นเธอก็เดินตามเขาไปยังอ่างล้างมือแล้วใช้ทิชชูซับน้ำบริเวณแผลให้แห้ง ก่อนจะปิดปลาสเตอร์ลายเจ้าหญิงดิสนีย์ให้
“ขวัญซื้อมาสามกล่อง ยกให้คุณธามหมดเลยค่ะ” เธอพูดพลางยื่นกล่องที่มีลายเจ้าหญิงหวานแหววทั้งสามกล่องให้เขา
“ขอบคุณครับ” ธามรับมาอย่างไม่เรื่องมาก ไม่ว่าเธอจะให้อะไรเขาก็ดีใจหมด
หลังอาหารเย็นคุณยายเจ้าของบ้านพาทุกคนทำพวงกุญแจจากหนังหมู ซึ่งธีร์กับณัฐธิดาเลือกทำพวงกุญแจคู่กัน ธามทำกุญแจรูปดอกซากุระ ส่วนของขวัญทำตัวโน้ตดนตรีแบบเดียวกับสร้อยที่เธอใส่อยู่ เมื่อทำเสร็จแล้วทุกคนจึงแยกย้ายกันไปเข้านอน
“ไปเก็บแอปเปิลกัน” ธีร์เดินจูงมือแฟนสาวเดินนำเข้าไปในสวนก่อน
วันนี้โปรแกรมของฟาร์มคือเก็บลูกแอปเปิลกับมะเขือเทศซึ่งเป็นผลไม้ตามฤดูกาล หลังจากคุณยายเจ้าของฟาร์มอธิบายวิธีเลือกแอปเปิลกับมะเขือเทศที่พร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยวแล้วทุกคนก็หยิบตะกร้าแล้วเดินไปตามทางเดินเล็ก ๆ ในสวน
“อื้ม หวานมากค่ะ” ของขวัญพูดพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกายหลังจากที่เด็ดมะเขือเทศลูกเล็ก ๆ สีแดงออกจากต้นมากิน
“คุณธามลองชิมดูค่ะ” เธอเด็ดอีกลูกแล้วยื่นใส่ปากของธามที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันที
“หึ” ธีร์ที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับแค่นหัวเราะในลำคอเบา ๆ เพราะเขารู้ว่าพี่ชายไม่ชอบกินผัก โดยเฉพาะมะเขือเทศ ขนาดซอสมะเขือเทศธามยังไม่แตะเลยด้วยซ้ำ
“อร่อยดีครับ” ธามเคี้ยวมะเขือเทศลูกเล็กไม่กี่ครั้งแล้วรีบกลืนลงคอทันที แม้รสชาติจะไม่ได้แย่อย่างที่คิด แต่กลิ่นเหม็นเขียวก็ยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเขาจนต้องแอบขมวดคิ้ว
“ผมป้อนไหมครับ” ธีร์ถามพี่ชายยิ้ม ๆ
“ไม่เป็นไร เราไปตรงนู้นกันเถอะครับ” ธามคว้าข้อมือของของขวัญให้เดินไปที่อื่นแทนเพราะเขากลัวโดนน้องชายแกล้ง
“อร่อย” ของขวัญพูดไปก็เคี้ยวไปด้วย ระหว่างเก็บมะเขือเทศเธอก็เด็ดเข้าปากตัวเองไปหลายครั้ง
“เปื้อนหมดแล้ว” ไวกว่าความคิด ธามยื่นมือไปเช็ดน้ำมะเขือเทศที่เลอะมุมปากให้หญิงสาว
ทั้งคู่สบตากันนิ่ง นิ้วของธามค่อย ๆ ไล้ไปตามริมฝีปากรูปกระจับของหญิงสาว
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ” สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากทำเอาเธอรู้สึกแปลก ๆ อีกครั้ง ของขวัญจึงใช้หลังมือของตัวเองเช็ดแทน
ธามที่รู้ตัวว่าเมื่อกี้เผลอตัวไปหน่อยจึงรีบชักมือกลับ
“ตะกร้าขวัญเต็มแล้ว งั้นเราออกไปไหมคะ” เธออยากออกจากสถานการณ์แบบนี้จึงพยายามหาข้ออ้าง
“ครับ” เขาเดินตามของขวัญออกไปเงียบ ๆ
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จทั้งสี่คนก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป คราวนี้ธีร์เป็นคนขับรถโดยมีณัฐธิดานั่งข้าง ๆ ส่วนเบาะหลังทั้งธามและของขวัญต่างก็นั่งหันหน้ามองหน้าต่างไปคนละทิศละทางเพราะยังทำตัวไม่ถูก ทั้งคู่จึงนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองเงียบ ๆ
“ไปขึ้นกระเช้ากัน” ธีร์พูดขึ้นเมื่อขับมาจอดยังจุดที่ให้ขึ้นไปชมยอดเขา
ของขวัญไม่ลืมหยิบกล้องมาเก็บภาพบรรยากาศสวยงามระหว่างอยู่บนกระเช้าที่ทั้งภูเขาย้อมถูกด้วยสีส้มจากใบของต้นเมเปิล
“อ๊ะ” แรงสั่นของกระเช้าทำให้เธอเซถอยหลังไปชนร่างสูง
“จับราวสิครับ” ธามดุเล็กน้อยที่เธอมัวแต่ถ่ายคลิปจนไม่ระวังตัว
“ขอโทษค่ะ” ของขวัญจับราวมือหนึ่ง อีกมือก็ถือกล้องไปด้วย โดยไม่รู้เลยว่าธามที่ยืนอยู่ข้างหลังช่วยยืนกันคนอื่น ๆ ไม่ให้เข้ามาเบียดเธอ เพราะกระเช้าแต่ละรอบจะเปิดให้คนขึ้นไปพร้อมกันสิบกว่าคน พื้นที่เล็ก ๆ นี้จึงค่อนข้างเบียดเสียดกัน
ใช้เวลาไม่นานทุกคนก็ขึ้นมาถึงยอดเขา ทั้งสี่คนจึงเดินเล่นชมวิวกันไปเรื่อย ๆ แต่ยิ่งขึ้นไปสูงลมก็ยิ่งแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ถึงจุดสูงสุดแล้ว เราไปถ่ายรูปกันเถอะ” ณัฐธิดาเอ่ยชวน
“ขวัญหัวยุ่งเหมือนสิงโตเลย” ของขวัญบ่นอุบเมื่อเห็นรูปที่ถ่ายไป
“ไม่เป็นไร น่ารักดีออก เรากลับกันเถอะ” ณัฐธิดาวิ่งจูงมือแฟนหนุ่มลงไปอย่างร่าเริง ทิ้งให้สองคนที่เหลือมองหน้ากันอย่างทำตัวไม่ถูกที่จู่ ๆ ก็ได้อยู่กันตามลำพังอีกครั้ง
“เราก็ลงไปกันไหมคะ” ของขวัญถาม
“เดี๋ยวก่อนครับ” ธามเอื้อมมือไปสางผมให้เธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ ตรงนี้ลมแรง อีกเดี๋ยวผมก็ฟูอีก” ของขวัญผลักมือเขาออกแล้วเดินตามอีกสองคนลงไปโดยไม่รอธาม
วันนี้การกระทำของเขาแต่ละอย่างทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะหลายครั้ง เธอจึงอยากเว้นระยะห่างเล็กน้อย
จุดหมายปลายทางสุดท้ายของวันคือเรียวกังที่มีออนเซ็นธรรมชาติ ทั้งสี่คนเอากระเป๋าไปเก็บแล้วจึงชวนกันไปแช่บ่อน้ำร้อน
“งั้นแยกกันตรงนี้นะคะ” ณัฐธิดาบอกกับทั้งสองหนุ่มหน้าทางแยกที่มีรูปชายหญิงติดอยู่คนละฝั่งระหว่างทางที่กำลังจะไปออนเซ็น
“ครับ อีกสามสิบนาทีเจอกัน” ธีร์รับคำแล้วเดินเข้าฝั่งผู้ชายไป โดยมีธามตามไปติด ๆ
สองสาวเข้าไปอาบน้ำใต้ฝักบัว เมื่ออาบเสร็จก็ใช้ผ้าขนหนูพันกายแล้วเดินไปยังบ่อน้ำร้อนที่อยู่ลึกเข้าไปข้างใน
“อาหารเย็นเราจะกินกันที่นี่หรือออกไปข้างนอกคะพี่ไนน์” ของขวัญชวนรุ่นพี่สาวคุยระหว่างเดิน
“กินที่นี่ดีกว่า พี่จองไว้แล้ว”
“มีอะไรน่ากินบ้าง...ว้าย” พูดยังไม่ทันขาดคำของขวัญก็ต้องรีบใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าอกเพราะเดินมาเจอธามกับธีร์กำลังแช่น้ำกันอยู่
“อ้าว นี่บ่อรวมหรอกเหรอ” ธีร์ที่หันไปตามเสียงก็เห็นแฟนสาวกับของขวัญยืนอยู่
“สงสัยเป็นบ่อรวมจริง ๆ ขวัญโอเคไหม” ณัฐธิดาหันไปถามรุ่นน้อง
“เดี๋ยวพวกเราออกไปเอง” ธีร์รีบพูดเพื่อให้ของขวัญสบายใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ ขวัญโอเค” ของขวัญรีบเบรกเพราะความเกรงใจ
“งั้นพวกเราหันหน้าไปทางอื่นละกัน” พูดจบธีร์ก็หันหลังให้ทันที
“ตะ ต้องถอดเหรอคะ” ของขวัญหันไปถามณัฐธิดาแล้วหันไปมองธามที่หันหน้าหนีไปทางอื่นก่อนธีร์ด้วยซ้ำ
“ใช่ ในออนเซ็นใส่ผ้าเช็ดตัวลงน้ำไม่ได้” พูดจบณัฐธิดาก็ถอดผ้าเช็ดตัวของตัวเองทิ้งแล้วค่อย ๆ ลงไปหาแฟนหนุ่ม
ของขวัญยืนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้กำลังใจตัวเองก่อนจะทำตาม เธอหย่อนตัวลงจนน้ำเกือบถึงคาง แล้วใช้มือปิดหน้าอกระหว่างเดินไปที่มุมหนึ่งของบ่อ โชคดีที่ไม่มีคนอื่นเลย ไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาช่วยปกปิดสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้เป็นอย่างดี แถมบ่อก็กว้างมาก ณัฐธิดากับธีร์จึงว่ายไปอีกมุม ส่วนธามก็อยู่อีกมุมคนเดียว
เธอมองแผ่นหลังของเขาที่อยู่ห่างออกไปกว่าสามเมตร แต่พอคิดได้ว่าเขาเองก็คงเปลือยเหมือนกันของขวัญจึงรีบเบนสายตาไปทางอื่น
ผ่านไปสิบนาทีจู่ ๆ ธามก็หันตัวมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ของขวัญที่กำลังนั่งเอนตัวดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบด้านจึงรีบยกแขนขึ้นมากอดอกอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวผมขอขึ้นไปก่อนนะครับ” ธามบอกกับทุกคนแล้วค่อย ๆ ว่ายขึ้นฝั่ง
ซึ่งทางที่เขาต้องผ่านมีของขวัญนั่งอยู่ หญิงสาวทำตัวไม่ถูกจึงได้แต่ก้มหน้าลง หัวใจของเธอเต้นรัวเมื่อได้ยินเสียงเขาลุกขึ้นยืน บ่อนี้สูงประมาณเอวของเธอ ถ้าเขายืนระดับน้ำคงต่ำกว่าเอวของเขาเล็กน้อย...
เมื่อคิดได้ดังนั้นของขวัญจึงหลับตาปี๋เพราะรู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมของน้ำว่าเขาเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งห่างกันเพียงหนึ่งเมตรหญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะแอบมองเรือนร่างของเธอหรือเปล่า แต่เพียงไม่นานเขาก็เดินผ่านไป ปล่อยให้เธอคิดมากไปเองคนเดียว
“เฮ้อ” เมื่อเขาไปได้สักพักเธอจึงลืมตาขึ้น แขนที่ยังกอดอกแน่นรับรู้ได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นโครมคราม
