ตอนที่ 4 ธาม
ของขวัญตื่นแต่เช้าเหมือนทุกวันแล้วเดินกลับมาอาบน้ำที่ห้องตัวเอง วันนี้เธอมีถ่ายรายการตอนเย็น ช่วงเช้าที่ว่าง ๆ จึงถือโอกาสไปซ้อมร้องเพลงที่บริษัท เมื่อแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จเธอก็ลงไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าคอนโด แต่พอมาถึงห้องซ้อมก็พบว่ามีคนใช้ห้องอยู่ก่อนแล้ว
ณัฐธิดาที่กำลังซ้อมเต้นอยู่หน้ากระจกบานใหญ่เห็นของขวัญเปิดประตูเข้ามาก็เดินไปคุยด้วย
“สวัสดีค่ะพี่ไนน์” ของขวัญยิ้มทักทายรุ่นพี่สาว
“สวัสดีจ้า มาซ้อมเหมือนกันเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“งั้นเรามาซ้อมด้วยกันไหม”
“ค่ะ ขวัญมีท่อนที่ชอบเต้นผิดอยู่บ่อย ๆ พี่ไนน์ช่วยดูให้หน่อยนะคะ”
“ได้เลย ไหนลองทำให้พี่ดูหน่อย”
ณัฐธิดาเป็นมีตำแหน่งเป็นนักเต้นหลัก คนอื่น ๆ จึงมักขอให้หัวหน้าวงอย่างเธอช่วยเช็กความถูกต้องของท่าเต้นให้เสมอ ส่วนของขวัญคือน้องเล็กของวงที่มีความสามารถกลาง ๆ ในทุกด้านแต่ก็ไม่โดดเด่นอะไรสักอย่าง จุดขายของเธออยู่ที่ทักษะการออดอ้อนแฟนคลับ เวลาไปออกรายการของขวัญจึงเป็นที่เอ็นดูของผู้ชมเสมอ
ณัฐธิดาช่วยปรับท่าเต้นให้ของขวัญบางช่วงและซ้อมไปด้วยกัน หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงทั้งคู่ก็ไปนั่งพักกันที่โซฟามุมห้อง
“สิบเอ็ดโมงแล้ว เราไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันไหม” ณัฐธิดาเอ่ยชวน
“ที่ไหนคะ”
“พี่ก็ยังไม่รู้เลย พอดีพี่ธีร์ชวนน่ะ ขวัญไปด้วยกันสิ”
ธีร์คือแฟนหนุ่มของณัฐธิดา และยังเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของค่ายเพลงแห่งนี้ด้วย ทั้งคู่แอบคบกันเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่ความลับแตกบริษัทก็ลงโทษด้วยการพักงานณัฐธิดา และมีการยกเลิกกฎห้ามเดตของไอดอลไปแล้ว ตอนนี้บรรดานักร้องและไอดอลในค่ายจึงคบกันได้อย่างเปิดเผย แต่ก็ต้องเสี่ยงว่าแฟนคลับจะสนับสนุนหรือไม่
ต่อให้บางคู่ได้รับการยอมรับ แต่ของขวัญก็มั่นใจว่าความสัมพันธ์แบบคู่นอนระหว่างเธอกับภาคินทร์ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถบอกให้สาธารณชนรับรู้ได้ ตอนนั้นเธอแค่ดีใจที่ได้นอนกอดเขา ได้เป็นของเขา แต่ตอนนี้เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะคงสถานะนี้ได้นานแค่ไหน ไม่รู้ว่าจะปิดบังความรู้สึกได้ถึงเมื่อไหร่ ถ้าวันหนึ่งภาคินทร์รู้ว่าเธอคิดไม่ซื่อเขาคงผิดหวังที่ไว้ใจเธอ
“โอเคค่ะ งั้นขวัญไปด้วยนะคะ”
สองสาวขึ้นไปหาธีร์ที่ห้องผู้บริหาร ณัฐธิดาเคาะประตูห้องสักพักก็เปิดเข้าไป
“อ้าว พี่ธามก็อยู่ด้วยเหรอคะ ไนน์มารบกวนหรือเปล่า” ณัฐธิดาพูดขึ้นเมื่อเปิดเข้าไปแล้วเห็นธาม พี่ชายของแฟนหนุ่มอยู่ด้วย
“เปล่าหรอก พี่ชวนพี่ธามไปกินข้าวด้วยน่ะ ไนน์ไม่ติดอะไรใช่ไหม” ธีร์พูดขึ้นพลางเดินไปหาแฟนสาว
“เปล่าค่ะ ไนน์ก็ว่าจะมาบอกว่าขวัญไปด้วยนะคะ”
“สวัสดีค่ะ” ของขวัญยกมือไหว้คนทั้งคู่อย่างนอบน้อม เธอเคยทำงานร่วมกับธีร์ในช่วงที่วงมีปัญหาเมื่อปีที่แล้วจึงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี แต่ยังไม่เคยคุยกับธามที่เป็นถึงประธานบริษัทมาก่อน แต่การรับมือกับคนแปลกหน้าก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับไอดอลอยู่แล้ว เธอจึงหันไปยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร
“หนูชื่อขวัญนะคะ วงเดียวกับพี่ไนน์”
“ธามครับ” เขาพยักหน้ารับแต่ไม่ได้มองสบตาเธอ ทำเอาของขวัญหน้าเจื่อนเล็กน้อยเพราะคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่พอใจที่เธอไปด้วย
“งั้นผมไปกับไนน์นะ เดี๋ยวให้ขวัญติดรถพี่ไปละกัน” ธีร์หันไปบอกกับพี่ชาย
“....” ธามไม่ได้มีท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธแต่แววตามีความตกใจฉายอยู่เล็ก ๆ
“งั้นไปกันเถอะ” ธีร์โอบไหล่แฟนสาวแล้วผลักประตูออกจากห้องไป
ของขวัญหันไปมองสีหน้าเรียบนิ่งของธามแล้วพยายามยิ้มให้เขา
“เอ่อ เราไปกันเลยไหมคะ”
“ครับ”
ระหว่างที่อยู่บนรถของขวัญก็แอบลอบมองใบหน้าด้านข้างของธาม เขาดูสุภาพ มีความเป็นผู้ใหญ่สมกับหน้าที่การงานจนเธอแอบเกร็งโดยไม่รู้ตัวเมื่อต้องมาอยู่ด้วยกันตามลำพัง แต่อยู่ดี ๆ อีกฝ่ายก็หันหน้ามาหาอย่างกะทันหันทำให้ทั้งคู่สบตากัน ก่อนที่ธามจะหันหน้าไปมองทางอื่น
“เดี๋ยวผมลดแอร์ให้นะครับ” ธามพูดพลางเอื้อมมือไปปรับลดแอร์ให้หญิงสาว
“คะ?”
“ผมเห็นคุณนั่งกอดอกมาตลอดทาง”
“ขอบคุณค่ะ” ของขวัญเองก็เพิ่งสังเกตว่าตัวเองนั่งกอดอกอยู่ แต่เป็นเพราะเธออึดอัดต่างหาก ไม่คิดว่าเขาจะแอบสังเกตเธอเหมือนกัน
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกจนไปถึงร้านอาหาร ของขวัญและธามเดินไปยังโต๊ะที่ณัฐธิดากับธีร์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นทั้งสี่คนก็สั่งอาหารกัน
“อาทิตย์หน้าหยุดห้าวันใช่ไหม” ธีร์หันไปถามแฟนสาวที่นั่งข้าง ๆ
“ใช่ค่ะ ได้พักยาวในรอบหนึ่งปีเลย” ณัฐธิดาตอบอย่างอารมณ์ดี
“งั้นเราไปเที่ยวด้วยกันดีไหม”
“ดีเลย ขวัญไปด้วยกันไหม”
“คะ?” ของขวัญที่กำลังตักข้าวเข้าปากก็ถึงกับชะงักเมื่อณัฐธิดาหันมาชวน
“อาทิตย์ที่ผ่านมาขวัญดูซึม ๆ นะ อาจจะเป็นเพราะล้าจากการทำงาน พี่ว่าลองไปเปิดหูเปิดตากันดูไหม เมมเบอร์คนอื่นมีแพลนเที่ยวกันหมดแล้ว ถ้าขวัญยังไม่รู้จะไปไหน เราไปด้วยกันไหม”
“เอ่อ...” ของขวัญลังเล เธอแค่ซึมเพราะคิดถึงภาคินทร์ต่างหาก ไม่ใช่เพราะเหนื่อยจากงานแบบที่รุ่นพี่เข้าใจ แต่ไม่สามารถบอกความจริงได้
“ไปเถอะ นาน ๆ ทีจะมีโอกาสหยุดยาวขนาดนี้” ณัฐธิดายังคงตื๊อต่อ
“ได้ค่ะ” ของขวัญเองก็ปฏิเสธคนไม่เก่งจึงตอบตกลง
“พี่ธามไปด้วยกันไหมคะ” ณัฐธิดาที่เห็นว่าถ้าไปกันสามคนของขวัญก็อาจจะเหงาจึงเอ่ยชวนธามไปด้วย
“พี่ธามงานยุ่งจะตาย คงไม่ว่างหรอก” ธีร์พูดขึ้นเพราะรู้ว่าพี่ชายตัวเองบ้างานขนาดไหน เขาไม่เอาเวลาทำงานหลายวันไปเที่ยวเล่นแน่นอน
“ว่างนะ” ธามตอบ
“ฮะ?” ธีร์ถึงกับเบิกตาโตอย่างไม่เชื่อหู
“ได้พักบ้างก็ดีเหมือนกัน” ธามพูดต่อพลางยักไหล่
“งั้นดีเลยค่ะ ไปกันสี่คนเนอะ” ณัฐธิดาพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
หลังจากกินข้าวเที่ยงกันเสร็จทั้งหมดก็กลับมายังบริษัท ของขวัญแยกตัวออกมานั่งในห้องซ้อมคนเดียวเพราะณัฐธิดาขึ้นไปห้องทำงานของแฟนหนุ่ม เธอเลื่อนดูโซเชียลมีเดียไปเรื่อย ๆ ก็ถึงกับยิ้มกว้าง รู้สึกหัวใจพองโตเมื่อเห็นภาคินทร์โพสต์ภาพที่เขาวาดเองเป็นรูปโน้ตดนตรีแบบเดียวกับสร้อยที่เขาให้เธอเป็นของขวัญ
หญิงสาวกดถูกใจให้ภาพนั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะยกมือมาลูบสร้อยที่เธอใส่อยู่อย่างตื่นเต้น ของขวัญสั่นศีรษะเบา ๆ แล้วคิดว่าเขาอาจจะแค่ชอบโน้ตดนตรีเฉย ๆ ก็ได้ เธอไม่ควรคิดไปไกลว่ารูปที่เขาวาดนั้นหมายถึงเธอ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเรื่องนี้ก็ทำให้เธออดมีความสุขเล็ก ๆ ในใจไม่ได้
ผ่านมาสามวันแล้วที่ภาคินทร์ไม่ได้ส่งข้อความหาเธอ จากที่วันนั้นของขวัญดีใจที่รูปวาดของเขาอาจจะสื่อถึงเธอ แต่วันนี้เธอได้แต่นั่งหงอยในรถตู้ระหว่างเดินทางกลับจากถ่ายรายการ
“เหนื่อยเหรอ” ณัฐธิดาที่นั่งเบาะข้าง ๆ ถาม
“นิดหน่อยค่ะ” ของขวัญตอบกลับเสียงเนือย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะได้ไปเที่ยวแล้ว”
“คะ?” ของขวัญถึงกับตาโตเมื่อนึกขึ้นได้
“อ้าว อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้จัดกระเป๋าน่ะ” ณัฐธิดาแทบไม่เชื่อว่ารุ่นน้องสาวจะยังไม่ได้เตรียมตัว
“ยังเลยค่ะ แต่ไม่เป็นไร คืนนี้ยังทัน แหะ ๆ” ของขวัญได้แต่ยิ้มแหยส่งไปให้ ไปแค่ห้าวันคงไม่ต้องเอาของไปเยอะ ใช้เวลาจัดกระเป๋าแค่แป๊บเดียวก็เสร็จ
“พี่จองที่พักไว้แล้ว โชคดีที่ยังไม่เต็ม เราไปแบบกะทันหันกันมาก”
“ขวัญนึกว่าพี่ไนน์กับคุณธีร์จะไปเที่ยวชิล ๆ แต่กลับบอกว่าอยากเดินป่า ลุยกว่าที่คิดนะคะเนี่ย” ของขวัญเอ่ยแซว
“พี่อยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสีน่ะ คงจะสวยน่าดู” ณัฐธิดายิ้ม
นี่เป็นการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของเธอ แถมไปกันหลายคน จะให้ไปเที่ยวแบบโรแมนติกกับแฟนก็เขินเพื่อนร่วมทริป ณัฐธิดาจึงเลือกไปที่ที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันทั้งสี่คน อีกอย่างเธอเคยเห็นในซีรีส์ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีสวย ๆ เป็นฉากหลังจึงอยากไปเห็นกับตาตัวเอง
“แต่ขวัญไม่เคยเดินป่าเลยนะคะ” ของขวัญเอ่ยอย่างหนักใจเพราะกลัวจะไปเป็นตัวถ่วงของคนอื่น
“พี่ก็ไม่เคยเหมือนกัน แต่ดูรีวิวมาแล้ว เส้นทางนี้ค่อนข้างง่าย มือใหม่ก็สามารถเดินได้สบาย ไม่ต้องกังวลหรอก เดี๋ยวพี่ส่งรีวิวให้ดูนะ”
“โอเคค่ะ” ของขวัญตอบรับ
ยังไงก็มีผู้ชายไปด้วยตั้งสองคน แม้จะยังเกร็ง ๆ เมื่ออยู่กับธาม แต่เขาก็ดูเป็นคนดี คงไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อกลับถึงห้องของขวัญก็รีบรื้อของออกมาจากตู้เสื้อผ้า ดูจากแพลนเที่ยวที่จะไปเดินป่ากันในฤดูใบไม้ร่วงแล้วน่าจะต้องเตรียมเสื้อกันหนาวหนา ๆ ไป โชคดีที่เธอเคยซื้อชุดฮีตเทคเก็บไว้ตอนไปเที่ยวยุโรป ส่วนพวกเต็นท์กับเสบียงตกลงกันว่าค่อยไปหาที่นู่น เธอหยิบรองเท้า พาสปอร์ต ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นออกมา เมื่อเช็กดูว่าของครบแล้วก็เริ่มจัดกระเป๋า
ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ ก็จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ของขวัญจึงไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวเข้านอน เธอเปิดยูทูบดูเพื่อเก็บข้อมูลของสถานที่ที่จะไป และทันใดนั้นก็มีข้อความจากภาคินทร์เข้ามา
‘มาหาหน่อย’
ข้อความสั้น ๆ แต่ก็ทำให้เธอกระเด้งตัวลุกจากเตียงแล้วไปโผล่ยังหน้าห้องของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ไม่รอช้าของขวัญกดรหัสประตูเข้าไปทันที
ภาคินทร์นั่งจิบไวน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่นเมื่อหันไปเห็นของขวัญก็ยิ้มอย่างพอใจ
“มาเร็วมาก มานั่งตรงนี้สิ” เขาตบที่ตักตัวเองเบา ๆ
ของขวัญเดินไปนั่งตักแกร่งอย่างว่าง่าย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ขวัญไม่อยู่ห้าวันนะคะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“พอดีหยุดค่ะ พี่ไนน์เลยชวนไปเที่ยว”
“อืม ห้าวันเลยเหรอ” เขาพูดพลางเชยคางเธอให้มองสบตากัน
“ค่ะ”
สิ้นคำพูดภาคินทร์ก็กระดกไวน์เข้าปากจนหมดแก้วแล้วรั้งต้นคอเธอไปประกบปาก รสชาติของไวน์ทำเอาของขวัญถึงกับเคลิ้ม
เมื่อเขาป้อนไวน์ให้เธอจนหมดแล้วจึงถอนริมฝีปากออก ก่อนจะใช้ลิ้นเลียคราบไวน์ที่เลอะตามมุมปากให้ ลิ้นสากลากไปตามรอยไวน์ที่เปื้อนคางลงไปถึงซอกคอขาวเนียน แม้ไวน์จะไม่เลอะมาถึงตรงนี้แต่เขาก็ไล้เลียลงไปถึงเนินอก มือหนาจัดการล้วงเข้าไปในเสื้อนอนนุ่มนิ่มของหญิงสาว
“พรุ่งนี้ขวัญบินแต่เช้านะคะ” ของขวัญรีบจับมือเขาไว้ก่อน
“กี่โมง”
“ไฟลต์หกโมงเช้าค่ะ”
ภาคินทร์หันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังจึงเห็นว่าตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว
“งั้นพี่ขอครึ่งชั่วโมง ก่อนที่เราจะไม่เจอกันหลายวัน”
“ค่ะ” แน่นอนว่าเธอไม่มีทางปฏิเสธเขาอยู่แล้ว
ของขวัญลุกขึ้นเดินจุงมือภาคินทร์ไปยังห้องนอน เธอถอดชุดนอนออกจนเปลือยเปล่าแล้วเดินไปนอนรอบนเตียง
เมื่อเห็นดังนั้นภาคินทร์ก็ไม่รอช้า เขารีบถอดเสื้อผ้าออกทุกชิ้นแล้วขึ้นไปคร่อมร่างบางเอาไว้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงภาคินทร์ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางสอดเข้าไปในช่องทางรักคับแคบ
“อื้ม” ของขวัญส่งเสียงครางอย่างพึงพอใจเมื่อนิ้วของเขาค่อย ๆ ขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้า
ภาคินทร์มองใบหน้าที่เหยเกของหญิงสาวก็เพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น เมื่อรู้สึกว่ามีของเหลวไหลออกมาอาบนิ้วแกร่งจนชุ่มแล้วเขาก็ถอนนิ้วออก ก่อนจะจับแก่นกายที่พร้อมรบของตัวเองชักขึ้นชักลง
“พร้อมแล้วใช่ไหม” ภาคินทร์ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับแต่กดส่วนแข็งขืนเข้าไปในช่องทางรักรวดเดียวจนมิด
“อึก” ของขวัญขบริมฝีปากล่างแน่นเมื่อแท่งอุ่นร้อนเข้ามาในร่างกายอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ขอเอาแรง ๆ นะ” จบคำร่างหนาก็ขยับออกมาจนสุดแล้วดันเข้าไปใหม่อย่างแรงอีกครั้ง
ของขวัญรู้สึกจุกเล็กน้อยแต่ก็ทำได้แค่กำผ้าปูที่นอนไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว เขากระแทกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าตามอารมณ์กระสัน เสียงเนื้อกระทบกันอย่างรุนแรงดังก้องทั่วห้องนอนผสมกับเสียงครางต่ำราวสัตว์ป่าของชายหนุ่ม
ภาคินทร์จับร่างตะแคงแล้วมาซ้อนข้างหลังโดยไม่ปล่อยให้ส่วนเชื่อมต่อหลุดออกจากกัน มือหนาจับสะโพกเล็กไว้มั่นแล้วขยับเอวโหมกระหน่ำใส่คนตรงหน้าระรัว
“จะเสร็จแล้ว” ภาคินทร์พูดเสียงกระเส่าเมื่อรู้สึกใกล้ถึงจุดสุดยอด
“กรี๊ด” ของขวัญกรีดร้องเมื่ออีกฝ่ายส่งแรงกระแทกมากขึ้นจนเธอรู้สึกจุกปนเสียดเสียวทั่วช่องท้องไปหมด
“อา” เสียงคำรามสุดท้ายปล่อยออกมาพร้อมกับน้ำอุ่นร้อนที่ฉีดพ่นเข้าไปในร่างเล็ก
ภาคินทร์จัดการกระแทกอีกสามสี่ครั้งแล้วนอนกอดเธอนิ่ง ผ่านไปห้านาทีเมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับไปไหนของขวัญจึงหันหน้าไปหา
“พี่คินคะ”
“หืม” ภาคินทร์ขานรับโดยที่ยังไม่ลืมตา
“ขวัญขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
เขาขยับตัวออกห่างจนแก่นกายหลุดออกจากร่างบาง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบทิชชูที่วางอยู่บนหัวเตียงมาเช็ดคราบรักออก
ของขวัญพยุงตัวลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป เธอจัดการเปิดฝักบัวให้กระแสน้ำเย็นช่วยชะล้างอารมณ์ปรารถนาให้ดับลง
ศึกรักเมื่อกี้ค่อนข้างรุนแรงและจบลงอย่างรวดเร็วโดยที่เธอยังไม่เสร็จสมด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ บางทีที่ภาคินทร์แค่ต้องการปลดปล่อยเขาก็จะเรียกให้เธอมาหาแล้วจัดการสอดใส่โดยแทบจะไม่เล้าโลมแบบนี้
เธอไม่เคยน้อยใจภาคินทร์ ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงที่เขาสนิทที่สุดเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ขอแค่เขานึกถึงเธอบ่อย ๆ แบบนี้ก็พอแล้ว
