บท
ตั้งค่า

กุญแจดอกที่ 6 : อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน (บทจบ)

หลังจากวัดตัวเสร็จแล้วคนทั้งสี่ก็เดินไปซื้อของตามแผนที่ที่ได้รับมาทันทีเพราะของในรายการที่พวกเขาอ่านดูก็ไม่ใช่น้อยๆเลย

พวกเขาไม่กลัวเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะทางสมาพันธ์ได้ให้กระเป๋าเงินพวกเขามาคนละใบและกระเป๋าเงินนี้ก็เชื่อมต่อกับห้องการคลังของสมาพันธ์โดยตรง พูดง่ายๆเลยว่าภารกิจครั้งนี้ไม่จำกัดว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ต่อให้พวกเขาจะซื้อบ้านหรือปราสาทที่นี่สักหลังก็ไม่เป็นไรถ้าภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาจะสำเร็จ

ดวงตาของทั้งฟรอสและเซนเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นเมื่อเดินเข้ามาในห้างที่แสนจะหรูหราและใหญ่โต ไม่เคยคิดเลยว่าสถานที่ที่เรียกว่าโรงเรียนจะมีห้างแบบนี้ แต่ก็สมกับเป็นโรงเรียนคิงเคสที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งในแดนผู้ไร้เวทจริงๆ โรงเรียนนี้ทั้งกว้างขวางและทันสมัย นอกจากมีการเรียนการสอนที่ครบถ้วนแล้วก็ยังมีแหล่งซื้อของที่ทันสมัยและมากมาย มีสถานที่เล่นกีฬาที่สะดวก แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย ก็สมกับที่เป็นโรงเรียนที่มีแต่ลูกเศรษฐีและลูกของคนมีชื่อเสียงดังๆ

“โห...มีแต่ของน่าเล่น” เสียงหวานของเซนดังขึ้นพลางมองรอบๆที่มีของแปลกๆมากมาย อย่างเช่นลิฟต์แก้วที่ไม่มีสายแต่ก็สามารถลอยขึ้นลงรับผู้โดยสารได้ ส่วนรถเข็นภายในห้างก็ไม่มีล้อแถมยังไม่ต้องเข็นอีก มันลอยตามคนที่เป็นเจ้าของของรถเข็นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ เพราะผู้ไร้เวทไม่มีเวทมนตร์ให้ใช้พวกเขาจึงหันมาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้เท่าเทียมกับผู้ใช้มนตราแทน

เรไม่ว่าอะไรเพียงแค่จูงร่างบางของเซนเอาไว้เพราะกลัวเด็กสาวจะหลงกับพวกเขา ฟรอสหันไปมองรอบด้านอย่างสนใจขณะที่คาไมเคิลกระซิบถาม

“ทำไมคุณเรต้องจูงมือแบบนั้นละครับ” ฟรอสหันไปมองคนถามพลางยิ้มออกมาเล็กน้อยราวกับจะกวนทำเอาคนถามชักอยากจะถอนคำถามคืน

“เดี๋ยวก็รู้” พูดแบบนี้ต่อยกันเลยดีกว่า คาไมเคิลได้แต่คิดในใจขืนทำจริงเขาก็แพ้อยู่ดีในเมื่ออันดับที่เขากับคนตรงหน้าได้รับก็บอกอยู่ทนโท่ว่าใครเก่งกว่ากัน

แต่ไม่นานคาไมเคิลก็รู้คำตอบที่เขาถามออกไปเมื่อเด็กสาวคนเดียวในกลุ่มวิ่งไปตรงนู้นทีตรงนี้ทีอย่างสนุกสนานโดยมือก็ยังจับมือนักล่าอันดับหนึ่งมั่นแล้วลากไปด้วยกัน เรก็ได้แต่เดินตามอย่างเอาใจ เจ้าตัวไม่บ่นอะไรออกมาสักนิดด้วยความเคยชินในเมื่อเขาอยู่กับเซนมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

คาไมเคิลที่เห็นท่าทางของคนทั้งสองแล้วได้แต่ยิ้มแห้งๆ ซนขนาดนี้เขาชักจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณเรถึงจับมือแน่นขนาดนั้น เป็นเขา...เขาก็คงทำไม่ต่างกันหรอก

ฟรอสหัวเราะออกมาเบาๆพลางส่ายหันไปมาอย่างระอา เขาก็เคยเดินเที่ยวกับพวกนี้มาบ้างตอนออกไปทำงานด้วยกันและทุกครั้งเซนก็จะเป็นแบบนี้เสมอ แต่นักล่าอันดับสามก็เข้าใจเด็กสาวเพราะหากไม่มีเรฟานอฟแล้วก็ยากนักที่เซนาเรียสจะได้ออกมาจากปราสาทและเที่ยวเล่นได้อย่างเด็กทั่วไป แน่นอนว่าเรเองก็คิดแบบเดียวกับเขาเพราะเมื่อใดที่เรพาเซนมาเดินเที่ยวแบบนี้เรก็จะตามใจเด็กสาวแทบทุกอย่าง

เซนเดินดูนู้นดูนี่ไปตลอดทางแต่เด็กสาวก็แทบไม่ได้ซื้ออะไรเลยนอกจากของที่อยู่ในรายการทั้งหมด นักล่าอันดับสองก็แค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้นแต่เจ้าตัวไม่มีความอยากได้เลยสักนิดเป็นเรเสียอีกที่ต้องซื้อของเผื่อเหลือเผื่อขาดแทนคู่หมั้นสาวไปด้วย บางทีสองคนนี่ก็เหมือนพ่อกับลูกมากกว่าเป็นคู่หมั้นกัน

หลังจากซื้อของเสร็จแล้วเจ้าตัวก็เอาของทุกอย่างเก็บในคอลที่นอกจากจะใช้สื่อสารได้แล้วยังสามารถเก็บของได้อีกด้วย อันที่จริงพวกเขาก็เพิ่งรู้ความสามารถของคอลก็ตอนที่เซนเดินเข้าไปดูคอลรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกขายอย่างสนใจ ซึ่งมันก็เป็นรุ่นเดียวกันกับที่ทางสมาพันธ์ให้มาจนฟรอสอดจะบ่นออกมานิดๆอีกรอบไม่ได้ พอมีเซนมาด้วยละก็ตาแก่นั่นให้ของดีมาเชียว

เซนาเรียสถามคนขายว่ามันสามารถใช้ทำอะไรได้บ้างและเมื่อเห็นลูกค้าสนใจคนขายจึงอธิบายออกมาซะหมดเปลือกเลย

อืม...อันที่จริงไอ้ลูกแก้วที่เรียกคอลเนี่ยมันก็สารพัดประโยชน์เหมือนกันนะ

•.★*... ...*★.•

กว่าจะซื้อของเสร็จมันก็เป็นเวลาเย็นเข้าไปแล้ว คนทั้งสี่เดินกลับมาที่ห้องตัดเสื้อผ้าระหว่างตอนที่รอพวกเขาก็แวะไปเอาของที่โรงแรมกันมาจนครบ เมื่อมาถึงผู้คุมหญิงก็มายืนรอพวกเขาอยู่แล้ว ในมือของเธอมีถุงสี่ถุงซึ่งภายในถุงน่าจะบรรจุเสื้อผ้าของพวกเขาเอาไว้และก็เป็นอย่างที่พวกเขาคิดเมื่อผู้หญิงตรงหน้าส่งถุงให้พวกเขาคนละถุงและเมื่อเปิดดูมันก็คือชุดนักเรียนจริงๆ

“ห้องนอนของพวกคุณพร้อมแล้ว เดี๋ยวดิฉันจะให้กุญแจห้องกับพวกคุณ” พูดแล้วก็หยิบกุญแจทั้งสี่ดอกออกมายื่นให้พวกเขา แต่ละดอกนั้นคล้องอยู่กับแผ่นไม้ที่สลักเลขห้องและชื่อของแต่ละคนเอาไว้ ของเซนนั้นได้ห้อง 1212 ส่วนของพวกผู้ชายอีกสามคนได้นอนห้องเดียวกันคือ 0902

“คุณเซนาเรียสจะนอนหอหญิงรวมกับเพื่อนร่วมห้องอีกสองคน ส่วนพวกผู้ชายต้องนอนหอชายนะคะ เลขสองตัวหน้าจะบอกชั้นในหอพัก ส่วนเลขสองตัวหลังจะเป็นเลขห้องพักค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเดินขึ้นลงบันไดเพราะในตึกเรามีลิฟต์บริการทั้งหมดสิบตัวค่ะ” คำพูดของคนตรงหน้าเรียกรอยยิ้มของเซนได้แค่คนเดียว เครื่องอำนวยความสะดวกเพียบเลยโรงเรียนนี้

คนทั้งสี่เดินตามผู้หญิงที่เป็นคนประกาศผลสอบให้พวกเขาไป ผู้หญิงคนนั้นพาทุกคนเดินผ่านสวนน้ำพุและลานกว้างจนสุดท้ายพวกเขาก็ได้เห็นตึกยักษ์ที่น่าจะสูงยี่สิบชั้นสองตึกตั้งอยู่ข้างๆกันแต่ก็มีรั้วกั้นแบ่งอาณาเขตของสองตึกออกจากกันอย่างชัดเจนแน่นหนา หน้าหอทั้งสองมีนักเรียนหญิงสองคนและนักเรียนชายสองคนยืนรออยู่ ถ้าให้เรเดาคนทั้งสองจะต้องเป็นประธานกับรองประธานของหอหญิงและหอชาย

ในที่สุดพวกเขาก็ถึงหอพักสักทีหลังจากผู้หญิงตรงหน้าพาเดินจนเห็นอาณาเขตของโรงเรียนที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่รู้ว่าโรงเรียนจะใหญ่ไปไหน

“ฉันขอฝากคนพวกนี้ให้พวกเธอต่อนะ หน้าที่ของฉันถือว่าเสร็จแล้ว” ผู้หญิงที่นำทางพวกเขามาบอกคนทั้งสี่ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว

“ได้ครับ / ค่ะ” เสียงสี่เสียงประสานกันก่อนจะค่อมหัวให้เล็กๆทำให้ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าให้นิดหนึ่งก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม

เซนมองคนทั้งสี่ตรงหน้าให้เต็มๆตา คนแรกอยู่ในชุดนักเรียนที่ข้างในเป็นเสื้อคอปกสีขาวสวมทับด้วยเสื้อทับสีดำที่เปิดตรงอกให้เห็นเสื้อคอปกสีขาวข้างใน ปกของเสื้อทับมีขริบสีทองไล่ลงมาจนถึงชายเสื้อและสุดท้ายมีกระดุมสองเม็ดติดอยู่ ชุดของผู้หญิงจะต้องมีโบหูกระต่ายขณะที่พวกผู้ชายเป็นเนคไทป์ยาว

ที่แขนเสื้อสั้นๆของชุดนักเรียนในหน้าร้อนมีตราคล้ายรูปโล่ซึ่งข้างในเป็นตัวเลขโรมันบ่งบอกชั้นปี อย่างผู้หญิงคนนี้จะเป็นสัญลักษณ์ VI ซึ่งบ่งบอกว่าเจ้าตัวอยู่ปีหกและมันเป็นปีเดียวกับรุ่นพี่ชายอีกคนหนึ่ง

ที่ปลายกระโปรงและกางเกงของทุกคนจะมีขริบสีทองตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เท่าที่สังเกตมาผู้หญิงชั้นปีหกจะผูกโบและใส่กระโปรงสีดำขณะที่ผู้ชายจะใส่กางเกงและผูกเนคไทป์สีดำเช่นเดียวกัน

“ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนคิงเคสและยินดีต้อนรับสู่หอพัก” รุ่นพี่สาวที่อยู่ปีหกบอก เธอมีดวงตาและเส้นผมสีม่วงพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ

“พี่ชื่อดาเลีย เมเนสปีหกเป็นประธานของหอหญิง ส่วนผู้ชายคนนั้นก็เป็นรุ่นพี่ปีหกเหมือนกัน อเล็ก ชานโดเป็นประธานหอชาย” รุ่นพี่สาวแนะนำตัวโดยไม่ลืมแนะนำรุ่นพี่หนุ่มอีกคนด้วย คนที่ถูกแนะนำตัวหันมายิ้มให้บ่งบอกนิสัยเป็นมิตรของเจ้าตัว รุ่นพี่คนนี้มีผมสีชากับดวงตาสีน้ำเงินที่ฉายแววอารมณ์ดีของเจ้าตัว

“ส่วนผมโนอาร์ คาเซียเป็นรุ่นพี่ปีสี่และเป็นรองหัวหน้าหอ” รุ่นพี่หนุ่มอีกคนพูด เขามีผมสีทองและดวงตาสีฟ้าราบเรียบ ท่าทางเจ้าตัวจะเป็นคนเฉยๆแต่คงไม่ถึงกับเย็นชาเหมือนกับเรแน่ๆ ข้างในตราสัญลักษณ์ตรงแขนของเขาปรากฏอักษร IV ซึ่งหมายถึงเลขสี่ ส่วนกางเกงและเนคไทป์ของเขาเป็นสีแดง

“สวัสดีฉันคามิเลีย ดาอาน่าเป็นนักเรียนปีหนึ่งและเป็นรองประธานหอด้วย” คนสุดท้ายเป็นเด็กสาวที่อายุเท่าพวกเขา เธอมีผมสีน้ำตาลเป็นลอนและมีดวงตาสีน้ำตาลที่ฉายแววรักสนุก เธอผูกโบ

และสวมกระโปรงสีขาวและที่ตราสัญลักษณ์เป็นอักษรตัว I ซึ่งหมายความว่าอยู่ปีหนึ่ง ใช่แล้ว...อยู่แค่ปีหนึ่งแต่สามารถเป็นรองประธานของหอหญิงได้ นั่นหมายความว่าไม่ว่าจะเป็นฝีมือหรือฐานะทางบ้านของเธอย่อมไม่ธรรมดา

“เอาละน้องผู้หญิงมากับพี่นะส่วนพวกน้องผู้ชายพี่อเล็กรออยู่ แล้วที่นี่มีกฎว่าห้ามผู้ชายขึ้นหอหญิงเด็ดขาดส่วนผู้หญิงก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นหอชาย ตรงด้านหน้าเราจะมีกล้องวงจรปิดติดไว้ ถ้าจับได้โทษสถานเดียวคือไล่ออก” พูดจบรุ่นพี่ดาเลียก็เรียกให้เซนเดิมตามไปพร้อมคามิเลียที่เดินปิดหลัง

เรมองตามคู่หมั้นของตนเองที่เดินออกไปอย่างเงียบๆแต่ก็ต้องละสายตากลับมาเมื่อรุ่นพี่เรียกพวกเขาบ้าง

“เอาละก่อนเข้าหอก็ช่วยแนะนำตัวหน่อยนะ ฉันไม่ได้เห็นใครที่สอบเข้ามากลางเทอมได้อย่างพวกนายมานานแล้ว แถมยังได้ข่าวมาว่าพวกนายสอบได้คะแนนดีสุดๆไปเลย ทั้งที่ข้อสอบเข้ากลางเทอมมันยากจะตาย” รุ่นพี่อเล็กพูดพลางยิ้มให้รุ่นน้องชายทั้งสามหวังจะสร้างไมตรีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องหารู้ไม่ว่าเรรำคาญจะแย่อยู่แล้ว

ฟรอสแอบเห็นด้วยกับรุ่นพี่นะว่าข้อสอบนะยาก...ไม่ใช่สิยากบรมเลย นักล่าอันดับสามและนักล่าอันดับหกต่างพากันหันไปมองเรราวกับว่าให้นักล่าอันดับหนึ่งเป็นคนตัดสินใจก็แล้วกันซึ่งคนเป็นเจ้าชายก็ตวัดดวงตาสีนิลไปมองรุ่นพี่ทั้งสองอย่างรำคาญ ในเมื่อสองคนตรงหน้าไม่มีใครเป็นเซนและเซนก็ไม่อยู่แถวนี้แล้วด้วย แล้วเขาจะไปพูดดีๆกับรุ่นพี่ทั้งสองเพื่ออะไร

“เร รู้แค่นี้ก็พอ” มันเป็นคำตอบเย็นเยียบที่สมกับเป็นนักล่าอันดับหนึ่งแต่ก็ทำเอาพวกรุ่นพี่ถึงกับชะงักไป

ฟรอสอยากจะถอนหายใจออกมา หมอนี่ยังคงความมีมนุษย์สัมพันธ์แย่เหมือนเดิมเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel