ขอเป็นแฟน
-มหาวิทยาลัย-
“เป็นอะไรมาย่ะ ทำไมถึงได้ทำหน้างอนเหมือนตูดลิง” เมษาหันมาถามเมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่นั่งทำหน้างอตั้งแต่มาถึงมหาวิทยาลัย
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่น่าไปหาเขาตั้งแต่แรกเลยจริงๆ เหมือนไปเป็นส่วนเกินของพวกเขาทั้งสองคน
“หงุดหงิดนิดหน่อย แต่ช่างมันเถอะ” ฉันตอบแบบขอไปทีแล้วหันมาจดจ่อกับหนังสือเรียนที่กำลังอ่าน
“แล้วไปหาไบรอันมาเป็นยังไงบ้าง เขายังโอเคอยู่ไหม?” เมษายังคงถามต่อ
“โอเคสิ เขาน่ะโอเคยิ่งกว่าอะไรซะอีก” ฉันกลอกตามองบนพร้อมตอบกลับ ภาพของไบรอันที่นั่งกระหนุงกระหนิงกับผู้หญิงคนนั้น ฉันยังจำมันได้ดี
“อะไรของแกเนี่ย ทำไมวันนี้เหวี่ยงแปลกๆ”
“…..” ฉันถอนหายใจอย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ บ้าจริง! ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้
“น้องนิน!”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลัง ฉันรีบหันขวับกลับไปมองเพราะจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใคร
“พี่ทาย!”
“ช่วงนี้พี่เรียนหนักไม่ค่อยมีเวลาให้เราเลย อย่าโกรธพี่เลยนะ” พี่ทายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วเดินตรงมาหาฉันที่นั่งอยู่ ในมือของเขาถือถุงขนมมาฝากฉันเพียบเลย
“ไม่โกรธหรอกค่ะ นินเข้าใจ”
“พี่ซื้อขนมร้านโปรดมาฝาก”
“ขอบคุณนะคะ กำลังอยากกินพอดีเลย”
“เย็นนี้ไปดินเนอร์กับพี่นะ ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้เลย”
“เย็นนี้เหรอคะ?” ฉันทวนถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เพราะเราสองคนยังไม่เคยไปดินเนอร์ด้วยกันเลยสักครั้ง
“ใช่! วันนี้พี่ว่างพอดีเลยอยากมาชวนเรา”
“โอเคค่ะ จะให้นินไปเจอที่ไหนเหรอคะ?”
“สักหนึ่งทุ่มให้พี่ไปรับที่บ้านดีไหม?”
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ”
“โอเคครับแล้วเจอกันนะ”
“แล้วเจอกันค่ะ”
ฉันตอบตกลงแล้วยิ้มให้คนตัวโต พี่เพทายยังคงใจดีและอบอุ่นกับฉันอยู่เสมอ
“พี่เพทายชวนแกไปดินเนอร์แบบนี้มีเซอร์ไพรส์อะไรหรือเปล่านะ” เมษาเดินมาสะกิดถามด้วยความอยากรู้ หลังจากที่พี่ทายเดินออกไปแล้ว
“ฉันคิดเหมือนยัยเมษา หรือว่าพี่ทายจะขอแกเป็นแฟน กรี๊ดดดด” ส้มโอคิดเองเออเอง ท่าทางเพื่อนฉันจะอาการหนักแล้ว ถึงได้คิดเป็นตุเป็นตะขนาดนี้
“ต้องใช้แน่ๆ ฉันว่าพี่ทายต้องขอแกเป็นแฟนแน่นอน”
พี่ทายจะขะ…ขอเป็นแฟนงั้นเหรอ คงไม่ใช่เหมือนที่เพื่อนๆ พูดหรอกมั้ง ฉันกับเขาเพิ่งรู้จักกันไม่ได้เท่าไหร่เองนะ
“พวกแกคงคิดมากไป ฉันว่าไม่ใช่หรอก” ฉันบอกปฏิเสธอย่างไม่คิดอะไร
“แต่มันก็น่าคิดอยู่นะ พวกแกสองคนยังไม่เคยไปดินเนอร์ด้วยกันเลยไม่ใช่เหรอ” ส้มโอยังคงถามต่อ
“ยังไม่เคยเลย มากสุดก็แค่ไปดูหนังรอบค่ำด้วยกัน”
“แกกับเขาก็คุยกันมาสักพักนึงแล้ว ดูท่าทางพี่เพทายเขาก็ชอบแกมากอยู่นะ ฉันว่าต้องใช่แน่นอน”
“อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นเลย บางทีเขาแค่อยากจะชวนฉันไปกินข้าวจริงๆ ก็ได้” ฉันพยายามดึงสติของยัยส้มโอกับยัยเมษาให้กลับคืนมา
“แล้วถ้าพี่เพทายขอแกเป็นแฟนจริงๆ แกจะตอบตกลงไหม?” ครั้งนี้เป็นเมษาที่เอ่ยถาม
“ยังไม่รู้เลย เอาไว้ให้เขาขอจริงๆ แล้วค่อยคิดล่ะกัน”
“แกลืมไปแล้วหรือไง ไบรอันมันหวงแกจะตายไป ยังไงมันก็ไม่ยอมให้แกมีแฟนหรอก” สิ้นประโยคที่เมษาบอก ฉันถึงกลับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ อุตส่าห์ไม่นึกถึงเขาแล้ว แต่พวกเพื่อนๆ ก็ยังวนกลับมาอีกจนได้
“แต่ตอนนี้มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นแล้วก็ได้นะ ไบรอันเขาไม่ได้สนใจฉันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
“ทำไม เกิดอะไรขึ้น พวกฉันตกข่าวเหรอ?” ส้มโอหันขวับมาจ้องหน้าฉันยกใหญ่ “หรือไบรอันมันหนีแกไปมีแฟน?”
“ก็คงงั้นล่ะมั้ง” ฉันพูดเสียงอ่อน พอเอาเข้าจริงๆ กลับรู้สึกแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะเรารู้จักกันมานาน ถ้าเขาหายไปมันก็เหมือนว่าชีวิตฉันขาดอะไรไปด้วยเหมือนกัน
“แต่จะว่าไปถ้าไบรอันมีแฟนก็ไม่เห็นแปลก มันทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนั้น ถ้าโสดน่ะสิน่าแปลกกว่าอีก”
“…..”
-ร้านอาหารS&M-
ฉันทอดสายตามองวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนบนตึกสูงเสียดฟ้า ร้านอาหารที่พี่เพทายจองไว้มันคือร้านอาหารยุโรประดับห้าดาวที่อยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรูใจกลางเมือง
เสียงไวโอลินและเสียงเปียโนดังกล่อมเบาๆ ให้ความรู้สึกโรแมนติกเข้ากับสถานที่เอามากๆ
“เป็นยังไงบ้าง นินชอบร้านที่พี่จองไว้ไหม?”
“ชอบมากค่ะ บรรยากาศดีแถมยังโรแมนติกอีก พี่ไปหาร้านบรรยากาศดีๆ นี้มาจากไหนคะ?”
“มีเพื่อนๆ เขาแนะนำพี่มาน่ะ”
“นินชอบมากเลยค่ะ อยากมาบ่อยๆ” ฉันยิ้มกว้างอย่างรู้สึกผ่อนคลาย นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้
“พี่ดีใจนะที่เราชอบ”
“สั่งอาหารกันเลยไหมคะ จะได้ไม่เสียเวลา”
“เชิญตามสบายเลยครับ เดี๋ยวมื้อนี้พี่เป็นเจ้ามือเอง” พี่เพทายดึงมือฉันไปจับแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ถ้าคนภายนอกมองมา เขาคงคิดว่าเราเป็นแฟนที่มาฉลองวันครบรอบกันแน่ๆ เลย
“ขอบคุณค่ะ”
“วันนี้นินสวยมากเลยนะ ไม่สิ! นินสวยทุกวัน”
“ชมกันเกินไปแล้วนะ คงไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ” ฉันคลี่ยิ้มบางๆ ด้วยความเคอะเขิน เพราะวันนี้ว่าที่คุณหมอของฉันก็หล่อมากเช่นเดียวกัน
“พี่ว่าเราสองคนก็คุยกันมานานแล้วนะ”
“…..” ฉันละสายตาจากเมนูอาหาร แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตัวโต เขากำลังจะบอกอะไรฉันหรือเปล่านะ
“นินจะปฏิเสธพี่ไหม ถ้าเกิดว่าพี่อยากจะขอ…” พี่ทายมีสีหน้าลังแลว่าจะพูดดีไหม ก่อนจะจับมือฉันแน่นขึ้น “ขอนินเป็นแฟนจริงๆ สักที”
“พี่ทาย”
“พี่มีความรู้สึกดีๆ ให้นินนะ แล้วพี่ก็คิดว่านินคงมีความรู้สึกดีๆ ให้พี่เหมือนกัน”
“…..” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาบอก ไม่คิดมาก่อนด้วยซ้ำว่าจะถูกพี่เพทายขอเป็นแบบนี้
“เป็นแฟนกันนะ”
“…..”
“พี่สัญญาว่าจะเป็นแฟนที่ดี จะทำให้นินมีความสุขเท่าที่ผู้ชายคนนี้จะทำได้”
ภาพไบรอันค่อยๆ ลอยเข้ามาในความคิด ในเมื่อเขาเองก็มีผู้หญิงของเขาอยู่แล้ว อีกไม่นานเขาคงจะเลิกยุ่งกับฉันไปเอง
“ตกลงค่ะ นินจะเป็นแฟนกับพี่”
