คลั่งไคล้รัก

93.0K · จบแล้ว
ฮิวโก้
50
บท
23.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอมองเห็นเขาเป็นแค่ ‘เพื่อนสนิท’ แต่เขากลับอยากให้เธอเป็นมากกว่านั้น ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่แฟน….แต่เป็นเมีย! “ต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมใจอ่อนสักที?” “ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับนาย ฉันรู้สึกกับนายแค่เพื่อนเท่านั้น อย่าเซ้าซี้ไปหน่อยเลย” “แต่ฉันชอบเธอมากนะ” “เดี๋ยวอีกหน่อยนายก็เลิกชอบฉันเองนั่นแหละ” ฉันพูดแบบไม่ใส่ใจ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไบรอันชอบฉันมาตั้งนานแล้ว ถ้าเขาเจอคนที่ดีกว่าสวยกว่าเดี๋ยวก็คงไปจากฉันเอง “ถ้าฉันจะถอย ฉันคงถอยนานแล้ว” “เลิกพูดจางี่เง่าแบบนี้สักทีเถอะไบรอัน มันไม่มีประโยชน์หรอก” “แล้วไอ้เพทายมันดีกว่าฉันตรงไหน ทำไมเธอถึงไปชอบแต่มัน” เขาถอนหายใจพรืดใหญ่คล้ายกับกำลังระงับสติอารมณ์ของตัวเองอยู่ “เขาดีกว่านายทุกตรงนั่นแหละ” “รู้จักมันดีแค่ไหนกัน ถึงกล้าที่จะพูดแบบนี้” “…..” ฉันเม้มปากเงียบเมื่อเห็นสายตาดุดันของคนตรงหน้า เวลาเขาโกรธหรือไม่พอใจอะไรมักจะมีอารมณ์รุนแรงอยู่เสมอ “อย่าให้ฉันหมดความอดทนก็แล้วกัน บอกมันระวังตัวไว้ให้ดี” “…..”

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันนอกใจรักวัยรุ่นโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกนักศึกษาคนธรรมดา18+

แนะนำตัว

-International university-

“นั่นมันไบรอัน คณะรัฐศาสตร์นิ มาทำอะไรที่ตึกคณะเรา”

“เห็นคนเขาล่ำลือว่าหล่อมาก ดูไม่ผิดไปเลยจริงๆ สูงอย่างกับนายแบบแต่เสียทีดูดุไปหน่อยไม่ค่อยยิ้มเลย”

“นั่นมันรถแมคคาเลนรุ่นใหม่ด้วยใช่ไหม ไหนจะนาฬิการิชาร์ด มิลล์รุ่นลิมิเตดอีก รวยชะมัดเลย”

“คนอะไรจะหล่อขนาดนั้น ดูดีทุกองศาเหมือนพระเอกหลุดออกมาจากหนังฮอลลีวูด”

เสียงนักศึกษาสาวๆ ต่างพากันซุบซิบนินทา เมื่อเห็นไบรอันเดินลงมาจากรถคันหรูที่เพิ่งถอยออกมาใหม่แบบสดๆ ร้อนๆ

ไบรอันคือเพื่อนสมัยเรียนของฉันเอง เราเป็นเพื่อนกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะเคยเรียนอนุบาลที่เดียวกันอยู่ต่างจังหวัด

แต่ก็มีเหตุให้ฉันได้ย้ายโรงเรียนเข้ามาอยู่ในกรุงเทพ พอเรียนไปได้ไม่นานไบรอันก็ตามมาเรียนที่เดียวกัน

จะใช้คำว่าบังเอิญก็คงจะดูแปลกๆ เพราะโรงเรียนมีตั้งเป็นร้อยเป็นพันแห่ง แต่เขากลับได้มาเรียนที่เดียวกับฉัน แถมยังได้มาอยู่ร่วมห้องเดียวกันจนจบมัธยมปลาย

ไม่แค่นั้นเขายังตามมาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับฉันอีก แต่ก็พอได้หายใจโล่งหน่อยเมื่อเขาแยกไปเรียนคนละคณะ

คิดว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่าล่ะ!

“ไบรอันแฟนแกเดินมานั่นแล้ว” ส้มโอเพื่อนสนิทของฉันเอ่ยแซว เพราะเธอรู้ว่าไบรอันชอบฉันมานาน

“เห้ออออ” ฉันถอนหายใจพรืดใหญ่ แค่เห็นหน้าก็รู้สึกเบื่อแล้ว ผู้ชายอะไรตามตื้อชะมัดญาติเลย ปฏิเสธไปตั้งหลายครั้ง ทำไมไม่ไปสักทีนะ

“มาหาแกทุกวันแบบตรงเวลาไม่มีผิดเพี้ยน” เมษาพูดแซวอีก เพราะพวกเพื่อนอยากให้เราสองคนคบกันน่ะสิ แต่บอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่มีทาง

ฉันไม่ชอบผู้ชายแบบนี้ สูบบุหรี่กินเหล้าจัด แถมเรือนร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยสัก ถ้าถอดเสื้อผ้าออกมาดูได้ที่ไหนกัน

แล้วอีกอย่างเห็นเขาพูดกันว่าไบรอันเป็นเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนครอบครัวเขาก็เปิดบ่อนคาสิโนอยู่ที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ เปลี่ยนรถขับเป็นว่าเล่น ถ้าบ้านเขาไม่รวยก็แปลกแล้ว

เงินที่เขาใช้ก็คงเป็นเงินผิดกฏหมายสินะ รวยแบบชีวิตสีเทาๆ ใครจะไปอยากยุ่งเกี่ยวกันเล่า

“หยุดพูดเถอะน่า เขาไม่ใช่แฟนฉันสักหน่อย” ฉันยู่หน้าใส่ส้มโอและเมษาแบบไม่ค่อยพอใจ ทำไมยัยพวกนี้ถึงได้ชอบล้อฉันอยู่เรื่อย

“ไม่ใช่ก็เหมือนใช่นั่นแหละ เห็นแกที่ไหนต้องมีไบรอันที่นั่น”

“ซื้อขนมมาฝาก จะกินเลยไหม เดี๋ยวแกะให้” ไบรอันหย่อนตัวนั่งลงข้างฉัน พร้อมยื่นสิ่งของที่ซื้อมาให้ มันคือขนมมาการองร้านดังที่ฉันชอบกิน ไหนจะครัวซองท์รสเนยกระเทียมนั่นอีก ล้วนแต่เป็นของโปรดทั้งนั้นเลย

“ช่วงนี้ลดความอ้วนอยู่ ไม่กินหรอก” ถึงแม้จะอยากกินแค่ไหน แต่ก็ต้องบอกปฏิเสธไป เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขา ถึงจะเป็นเพื่อนกันมานานก็เถอะ

“ไม่เห็นจะอ้วนตรงไหน”

“พูดมาก”

“เย็นนี้ไปดูหนังกันไหม เดี๋ยวฉันโทรขอแม่เธอให้” เขาหันมายิ้มบางๆ พลางนั่งจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น ไบรอันค่อนข้างสนิทกับแม่เพราะชอบไปหาฉันที่บ้านอยู่บ่อยๆ

“มีนัดทำรายงานกับส้มโอแล้ว ไม่ว่างหรอก จริงไหมส้มโอ” ฉันสะกิดส้มโอที่นั่งอยู่ข้างๆ พลางขยิบตาถี่ๆ เพื่อส่งสัญญาณ

“จะ…จริง นินลามีนัดกับฉันแล้ว เอาไว้วันหลังนะไบรอัน”

“มีผู้ชายอยู่ด้วยหรือเปล่า?”

“ไม่มีหรอก มีแค่ฉันกับนินลาสองคน”

“…..” ดวงตาคู่คมจ้องมองหน้าฉันอย่างจับผิด ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย

“นายกลับไปได้แล้ว วันหลังค่อยมาใหม่”

“งั้นฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวคืนนี้จะโทรหา อย่าลืมรับสายด้วยล่ะ”

“อืม” ฉันพยักหน้ารับแบบขอไปที บางวันก็รับสายเขาบ้างไม่รับบ้าง แล้วแต่อารมณ์ แต่ส่วนมากไม่รับหรอกเพราะไม่อยากคุยด้วย

“…..”

“ผู้ชายอะไรน่ารำคาญชะมัดเลย ตามตื้ออยู่ได้” ฉันบ่นพึมพำเมื่อคนตัวโตเดินออกไปแล้ว

“แต่ฉันว่าเขาหล่อมากนะ ยิ่งมองใกล้ๆ หล่อจนหัวใจเกือบวายแหน่ะ คนอะไรเพอร์เฟคไร้ที่ติ แกไม่ชอบหรอกเหรอ” ส้มโอถามพลางทำสีหน้าเคลิบเคลิ้ม

“ถ้าแกชอบเขามากก็เอาไปเลย ฉันยกให้”

“พูดเป็นเล่น ถ้าไบรอันมันเอาฉันก็ดีน่ะสิ ฉันจะรีบตอบตกลงอย่างไว”

“ฉันลืมไปว่าในใจของแกคงจะชอบแต่คุณหมอเพทายสินะ ถึงได้กล้าปฏิเสธพ่อหนุ่มลูกครึ่งของฉัน” ครั้งนี้เมษาเป็นฝ่ายพูดแซว ก็แน่ล่ะตอนนี้ฉันมีคนในใจอยู่แล้วคือพี่เพทาย รุ่นพี่คณะแพทย์ปีสี่

แต่เราสองคนยังไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกนะ แค่กำลังคุยๆ กันอยู่

“แน่นอน เพราะหัวใจของฉันยกให้พี่เพทายคนเดียว”

“พวกฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ ที่มีหนุ่มหล่อสุดฮ๊อตมาตามจีบตั้งหลายคนแบบนี้” เมษาเอ่ย

“ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงใจอ่อนไปนานแล้ว ช่างน่าสงสารพ่อหนุ่มไบรอันของฉันเสียจริง ไม่น่าหลงผิดมาชอบคุณหนูวุ่นวายอย่างแกเลย”

“นี่แหน่ะ! เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนเหรอ” ฉันใช้มือตีปากของส้มโอเบาๆ ตามด้วยเมษาที่เอาแต่เข้าข้างไบรอันไม่หยุด

“เปล่าสักหน่อย ยังไงพวกฉันก็รักแกที่สุดนะ” พอเห็นว่าฉันเริ่มงอน เมษาเลยรีบดึงฉันไปกอดไว้แน่น

ติ๊ด! ฉันก้มมองสมาร์ตโฟนเครื่องหรูที่วางอยู่ข้างๆ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าพี่เพทายทักมา

เพทาย : “พี่เลิกเรียนแล้วนะ ไปเดินห้างกันไหม”

ฉัน : “ว่างพอดีเลยค่ะ พี่จะให้นินไปเจอที่ไหน”

เพทาย : “ลานจอดรถG”

ฉัน : “โอเคค่ะ เดี๋ยวนินจะรีบไป”

ฉันกดปิดแอพพลิเคชันแล้วรีบเก็บของใส่กระเป๋าสะพายแบรนด์เนมที่พ่อเป็นคนซื้อให้

“ยิ้มหน้าบานขนาดนี้ พี่เพทายทักมาล่ะสิ” ส้มโอเอ่ย ก่อนจะทำสีหน้ากระแหนะกระแหน แต่ฉันไม่สนใจหรอก

“ไม่บอกหรอก ขอตัวก่อนนะ พอดีมีนัดแล้ว” ฉันโบกมือลาพวกเพื่อนๆ แล้วรีบเดินออกมา โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาของใครบางคนคอยจ้องมองทุกการกระทำ

“จ้าาา แม่สาวคลั่งรัก”

ลานจอดรถ G

ดวงตากลมโตวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อหารถของพี่เพทาย

“รอนานไหมคะ?” ฉันถามคนตัวโตที่ยืนรออยู่ก่อนหน้านั้น

“ไม่นานครับ พี่เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” พี่เพทายยิ้มให้อย่างใจดี ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อให้ฉัน “อากาศร้อนใช่ไหม เหงื่อออกเต็มเลย”

“ร้อนมากค่ะ พอดีนินแพ้แดดด้วย ตัวมันเลยแดงๆ”

“งั้นรีบไปกันเถอะ”

ฉันก้มหัวให้เพื่อเป็นการขอบคุณเมื่อพี่เพทายเป็นคนเปิดประตูรถให้ นอกจากจะสุขุมใจดีแล้ว เขายังเป็นสุภาพบุรุษมากๆ มากกว่าใครบางคนซะอีก

เอี๊ยดดดด ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อรถของพี่เพทายหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางกระทันหัน หลังจากที่ขับออกมาไม่นาน

“เป็นอะไรไหมนิน พอดีมีรถปาดหน้าน่ะ” เขาหันมาถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แต่โชคดีที่ฉันไม่ได้เป็นอะไร อาจจะมีตกใจอยู่บ้าง

“ไม่เป็นไรค่ะ”

ปึง! ปึง!

“ว้ายยย อะไรกันคะพี่ทาย” ครั้งนี้ฉันเผลอกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ เมื่อรถคันข้างหน้าตั้งใจถอยมาชนรถของพี่เพทายอย่างแรงหลายครั้ง

“นี่มันตั้งใจหาเรื่องกันชัดๆ เลยนิ เดี๋ยวพี่มานะ”

“ระวังตัวด้วยนะคะ”

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! พี่เพทายเคาะกระจกรถคู่กรณีอยู่หลายครั้ง ก่อนที่เจ้าของรถคันนั้นจะค่อยๆ กดลดกระจกลง

“เฮ้ย! มองไม่เห็นรถข้างหลังหรือไง!”

“เห็น” ดวงตาเฉี่ยวคมหันมาจ้องมองฉันด้วยสายตาราบเรียบ ก่อนจะหันไปมองพี่เพทายดังเดิม “แล้วจะทำไม?”

“ทำไมทำแบบนี้ล่ะ ทำข้าวของคนอื่นเสียหายมันมีความผิดนะคุณ!”

“นะ…นินว่าเราไปกันเถอะค่ะ” ฉันพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือเมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนั้นคือไบรอันที่ตามมา

“ไม่เป็นไร นินขึ้นไปรอบนรถเถอะ เดี๋ยวพี่เคลียร์เอง”

“ค่าเสียหาย!” ไม่พูดเปล่าแต่ไบรอันยังโยนเงินแบงก์พันปึกหนาใส่หน้าพี่ทาย ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกทางปากจนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ “ถ้าไม่พอก็โทรมาเบอร์นี้”

“…..”

“ไบรอัน เดกซ์ มึงจำชื่อกูไว้ให้ดี”