ตอนที่ 4 แค่นิ้วเอง NC
[Talk กรวรีย์]
“Gin Bombay แก้วหนึ่งค่ะ”
ฉันบอกบาร์เทนเดอร์หน้าตาหล่อเหลาที่กำลังง่วนอยู่กับการชงเหล้าให้แขก แล้วยิ้มปรายตาหว่านเสน่ห์นิดหน่อย หลังจากที่เข้ามาในบาร์แห่งนี้ เหล้าที่ฉันมักดื่มสมัยเรียนมหาลัย
“ผมขอ Jack Daniel’s”
ผู้ชายตัวใหญ่ท่าทางสุขุมที่เดินตามฉันมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย สั่งบาร์เทนเดอร์เหมือนกัน
และใช่ พวกเราทานอาหารเย็นกันเสร็จและมาต่อที่บาร์แห่งนี้ ผู้คนไม่มากมายนักพอให้หายใจหายคอสะดวกแถมบาร์เทนเดอร์ยังหล่อระเบิด เจ้านายฉันตาถึงจริงๆ ที่เลือกที่นี่ ถึงแม้ฉันจะไม่ใจเต้นกับผู้ชายนานแล้วแต่ฉันก็ชอบมองคนหล่อนะมันดีต่อใจเสียนี่กะไร
ฉันวางมาดหยิ่งยโส ดวงตาคู่สวยปรายมองเขาอย่างอ่อยเหยื่อก่อนจะเอ่ยทักเสียงเรียบ
"คุณบาร์เทนเดอร์คุณดูดีมากค่ะ ไม่ทราบว่าบอกชื่อฉันได้มั้ยคะ" รอยยิ้มสวยผุดบนใบหน้าของฉันซึ่งเป็นใครก็ต้องมองออก
"แดเนียลครับ" เขาพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ดูเป็นผู้ชายที่ผ่านผู้หญิงมาโชกโชน 'กร้าวใจอยู่นะถือว่าผ่าน' แค่นั่งแทะโลมเขาทั้งคืนก็มีสีสันกับชีวิตละ ถือว่ายังโชคดีที่ไม่ได้น่าเบื่อมาก
ถ้าไม่ติดว่าน้ำเสียงเย็นของอีกคนเอ่ยขึ้นมาขัดจังหวะ
"นี่อย่าดื่มเยอะนักล่ะ"
"บอส ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันไม่พลาดหรอกค่ะวันพรุ่งนี้"
ฉันพูดแล้วยิ้มให้เขาด้วยหน้าตาหวานเยิ้มปนเซ็กซี่เมื่อเหล้าเข้าปากก็บวกความเยิ้มเข้าไปอีก ฉันกล้าดื่มเพราะมากับเขา เขาไม่ได้มองฉันในเชิงชู้สาวเพราะงั้นจะสามารถหิ้วฉันกลับไปได้สบายมากๆ
แต่ถ้าเกิดว่าเขาไม่หิ้ว ก็มีแดเนียลคนนี้ที่ทำท่าเหมือนจะกระโจนเข้าหาฉันตลอดเวลา
"พวกคุณเป็นเจ้านายกับลูกน้องหรือครับ"
บาร์เทนเดอร์หนุ่มถามขึ้นมาด้วยท่าทีสุภาพ น้ำเสียงราบเรียบแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
"ใช่ค่ะ คนนี้บอสฉันเอง ดูสิชอบดึงหน้าตึงคิ้วขมวดกันเป็นเงื่อนพิรอดแล้ว" พูดแล้วชี้นิ้วไปที่ใบหน้าคมคาย แต่ตอนนี้ฉันสิเริ่มแย่ เพราะพอเข้าแก้วที่สี่ก็รู้สึกตึงๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
"นี่ บอกว่า…อย่าเอามือมาจิ้มคนอื่นซี้ซั้ว แล้วคุณเมาแล้วหรือกรวรีย์?"
ถามแล้วจับมือน้อยๆ ของฉันให้ออกห่างจากคิ้วของเขาแล้วจ้องมาที่ดวงตากลมโต แต่ตอนนี้มันหวานหยาดเยิ้ม และมองดูเซ็กซี่จนเขากลืนน้ำลาย
ฉันหัวเราะคิกคักแล้วส่ายหัวดุ๊กดิ๊กต่อหน้าเขา เพราะเริ่มเมาและเก็บอาการไม่อยู่
"จ้าๆ ไม่โดนตัวแล้วก็ได้พ่อคุณชาย…ว๊าย"
คนหน้าตึงทนกับอาการของฉันไม่ไหว เขาตัดสินใจยกฉันขึ้นแทบบ่าแล้ววางเงินให้บาร์เทนเดอร์ปึกใหญ่อย่างไม่รอเงินทอน ก่อนจะคำรามสบถในลำคอ
"คุณนี่คออ่อนเกินไปแล้วกรวรีย์"
พูดแล้วก็พาร่างบางของฉันเดินสืบเท้าขึ้นบันไดในร้านก่อนจะหันไปเรียกบอกคนใส่ชุดบริกร "ขอห้องวีไอพี่ห้องหนึ่งครับ"
สติฉันเลือนรางและล่องลอยอาจเพราะเมาและไม่ได้ดื่มมานานมากแล้ว
ตุ๊บ
ร่างบางถูกวางอย่างเบามือบนโซฟาสีดำแดงในห้อง สี่เหลี่ยม มีไฟแค่สลัวๆ
แล้วภาพก็ตัดจากตรงนั้น
[Talk เตชิน]
ยัยนี่ทำตัวยั่วยวนได้น่าตีก้นมาก แถมชุดที่ใส่ยังยั่วจนผมเองแข็งจนแทบปริ เธอไม่เคยรู้ตัวเลยสักนิดว่าผมหวั่นไหวกับท่าทางยโส และใบหน้านวลงามนั่นของเธอแค่ไหน
เธอไว้ใจผมกระทั่งดื่มจนเมาขนาดนี้ คงคิดว่าผมไม่ได้มองเธอในเชิงชู้สาวสินะ
อึก…ผมกลืนน้ำลายลงคอแล้วยืนมองร่างบางกำลังนอนหลับพริ้มอยู่บนโซฟา ผมก้มลงไปคุกเข่าอยู่ข้างๆ เธอ ใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมหวานๆ จากเธอ น้ำหอมที่ปลุกเร้าผมมาถึง 3 ปี เป็นผู้หญิงที่น่าหมั่นไส้ที่สุดเท่าที่ผมเจอมา
ผมหงายตัวเธอที่นอนตะแคงอยู่ให้นอนหงาย ก่อนจะตัดสินใจค่อยๆ ใช้ริมฝีปากหนาประกบเบาๆ กลิ่นแอลกอฮอล์และน้ำหอมปนกันทำให้ผมเคลิ้มอย่างหนักตอนนี้กึ่งกลางความเป็นชายของผมมันเริ่มแข็งขืนขึ้นมา โอกาสที่จะได้มาอยู่แบบนี้กับเธอก็ไม่ได้มีมากแม้จะทำงานร่วมกันมานาน ถึงเธอจะไม่มีแฟน
แต่วันนั้นผมแอบได้ยินเธอคุยกับเพื่อนร่วมงานว่าเป็นประเภทกินแล้วทิ้งสินะ ถ้าเป็นแค่เพื่อนนอน รวมผมไปอีกคนเธอคงไม่ติด…
อย่าพึ่งมองผมในแง่ร้ายว่ากำลังฉวยโอกาสกับคนเมานะครับถึงแม้จะฉวยโอกาสก็จริง แต่ผมก็ชอบเธอเป็นเดิมทุนอยู่แล้ว ใช่! ไม่ได้ฟังผิด ผมชอบเธอ ชอบยัยเลขาตัวแสบที่วันๆ เอาแต่ใจและวีนผมทุกครั้งที่ทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจเธอ แปลกใจสินะ ขนาดผมยังแปลกใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงได้รู้สึกพิเศษกับเธอแบบนี้ ทั้งที่...
"อืม∼"
เธอคำรามในลำคอเบาๆ แล้วสอดลิ้นกลับเข้ามา ปากหนาพรมจูบอยู่นานพอสมควรทั้งดูดกลืนริมฝีปากกระจับนั่นและลิ้นของเธอ จนเธอเริ่มรู้สึกตัวและตกใจจนตาเบิกโพลง คิ้วเลิกขึ้นไปอย่างเห็นได้ชัด และดันตัวเองขึ้นมานั่งแบบได้สติกลับมาแต่คงไม่เต็มร้อยหรอก
กรวรีย์มองหน้าผมด้วยแววตาหลากหลายอารมณ์ แต่เมื่อผมเริ่มจูบอีกครั้งร่างเธอก็อ่อนระทวย ผมนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาสองข้างของเธอที่นั่งอยู่ตรงโซฟาตัวเตี้ย
ใบหน้าของเราแทบจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เธอก็ต้องก้มลงมานิดหน่อยเพื่อจูบตอบอย่างอ้อยอิ่ง
มือน้อยๆ ค่อยๆ สอดประสานมาที่ท้ายทอยของผม ส่วนมือใหญ่ๆ ก็บีบคลึงและลูบไล้อยู่ตรงเอวและโพก ไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะปลดสายบอดี้สูทตัวจิ๋วนั้นให้ลงมากอง เผยให้เห็นบราไร้สาย
และ พรึบ บราของเธอลงไปกองที่พื้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้สองเต้ากำลังชูชันอยู่ต่อหน้าผม พระเจ้าเธอสวยมากแม้กระทั่งยอดถันสีชมพูระเรื่อนั่น ผมใช้มือหนึ่งข้างบีบคลึง และอีกเต้าผมก็เริ่มละเลงขบเม้ม
“อื้ออ อ๊าา อ๊าา∼”
เสียงครางเริ่มเล็ดลอดออกมาจากลำคอคนตัวเล็ก ทำให้ผมตื่นตัวหนักมาก ปกติเจอแต่น้ำเสียงหยิ่งยโสและไม่พอใจ เธอครางจนผมอยากแกล้งแรงๆ แล้วละสิ
เมื่อปากอยู่ที่เต้าได้สำเร็จและเธอไม่ได้ต่อต้านใดๆ สเต็ปต่อมาผมก็เริ่มใช้นิ้วเรียวยาวแหย่เข้าไปในบอดี้สูท ตอนนี้น้ำหล่อลื่นของเธอเยอะมาก เมื่อผมสัมผัสได้ถึงน้ำรักที่หยาดเยิ้มอยู่ระหว่างช่องแคบแคบคนตัวเล็กก็มีท่าทีเขินอายใบหน้าแดงก่ำพ่วงด้วยกลิ่นเหล้าช่างปลุกอารมณ์ยิ่งนัก
นิ้วเรียวเกี่ยวตวัดไปมาเล่นตรงเม็ดที่แทบความหาไม่เจออย่างมันมือก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปในร่องเล็กแล้วควงอยู่แบบนั้นพักใหญ่
“อื้อ อ๊ะ อย่า…อย่าบี้ อื้ออ∼”
ร่างเธอเริ่มดิ้นไปมา ใบหน้าสวยที่กำลังเมามายนั่นยิ่งดูยิ่งเซ็กซี่ แขนเรียวกอดคอผมแน่นแล้วเกร็งหน้าท้องหยัดสะโพกขึ้นนิดหน่อย เพื่อให้ผมทำได้ถนัด
เสียงกระทบของก้านนิ้วและน้ำเมือกของเธอดังมาไม่ขาดสาย เร่งจังหวะหนักขึ้นพร้อมกับลมหายใจหอบกระเส่าของคนโดนกระทำอย่างหยุดไม่ได้
ผมจัดการกระแทกอีกสองสามครั้งเธอก็เสร็จกระตุกเกร็งต่อหน้าผม
“อะไรกันครับ แค่นิ้วเดียวเองก็เสร็จขนาดนี้เลยหรอ เด็กน้อยหรือเปล่า”
ผมค่อนขอดเธอด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและเป็นต่อ ตอนนี้เธอหน้าแดงกว่าเดิมแล้วไม่กล้าสบตาผม
“มะ…ไม่ใช่สักหน่อย∼”
น้ำเสียงหอบเธอกระเส่า แถมหน้ายังแดงแปร๊ดน่ารักมาก ใบหน้าที่ไม่มีใครได้เห็นบ่อยนัก ปากที่เผยอบิดเบี้ยวและสูดครางตลอดเวลาเพราะเรียวนิ้วของผม สีหน้าแบบนี้ที่ทำเอาผมอยากเห็นมากกว่ามาดยัยเลขาจอมยโสนั่นเป็นไหนๆ อดแหย่ไม่ได้จริงๆ
“ที่บอกว่าช่ำชองนี่คงแค่คำคุยสินะ”
ผมยิ้มให้เธอแล้วยกนิ้วเรียวที่เต็มไปด้วยน้ำของเธอให้เธอดู จากนั้นก็ส่งนิ้วเปื้อนคราบน้ำของเธอเข้าปากตัวเองต่อหน้าเธอ
“นี่ บอสทำอะไรน่ะ นั่นมัน…” มือเรียวคว้ามือของผมออกมาจากปากอย่างพันลวัน
“อะไรกันเขาก็กินกันทั้งนั้น นี่อย่าบอกนะว่าเรื่องแค่นี้ยังไม่รู้”
“บ้า ทะลึ่ง ฉันจะกลับแล้ว”
ผมได้แต่หัวเราะร่วนและเดินตามหลังเธอไป
