คลั่งรักเลขาตัวร้าย

63.0K · จบแล้ว
ซาชิกิวาราชิ
40
บท
20.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แนะนำตัวละคร ตั้งโอ๋ สวัสดีฉันชื่อ กรวรีย์ ชื่อเล่นตั้งโอ๋ ส่วนใหญ่ถ้าไม่สนิทจริงๆ คนจะเรียกกรวรีย์มากกว่า ฉันพักอยู่คนเดียวที่คอนโด และใช่ ฉันอายุ 26 ปีและเป็นคนโสดที่มีความสุขดีมากๆ ฉันทำงานเป็นเลขาให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง เหนือสิ่งอื่นใดคือการทำงานของฉันราบรื่นไร้ปัญหา เรียกว่าชีวิตดีๆ ที่ลงตัวสินะ   เตชิน คุณ เตชิน ผู้เป็นลูกชายคนโต และเข้ารับตำแหน่งประฐาน บริษัทนี้สดๆ ร้อนๆ เตชินผู้มนิสัยหนักแน่นเหมือนดั่งภูผา เขาไม่หวั่นกลัวผู้ใด ภายใต้ร่างสูงใหญ่และใบหน้าหล่อเหลาไม่ว่าการเจรจาจะเจอคู่ค้าที่หินแค่ไหน เขาก็ผ่านมันมาได้ และเคล็ดลับความสำเร็จของเขาก็คือฉันคนนี้ กว่าสามปีที่ดูแลงานให้เขาไม่เคยขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะงานอะไรถ้าฉันได้ลงมือทำกับเขา ไม่มีที่จะไม่สำเร็จ เขาจึงตกเป็นเบี้ยล่างของฉันเสมอ และโดนฉันกลั่นแกล้งประจำ   คุณ ไตรภพ น้องชายคนรองที่เดินมาพร้อมกันกับท่านประธาน เขามีเลขาชื่อว่า ดุจดาว และเขาก็เปลี่ยนเลขาเป็นว่าเล่น ยัยดุจดาวนี่ก็เพิ่งย้ายจากแผนกอื่นมาทำงานให้เขา ท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยและหน้าตาสุดทะเล้น ความเอาแน่เอานอนไม่ได้ ภายใต้ร่างสูงใหญ่ชวนมอง แต่โทษทีเถอะ ฉันไม่ได้ตื่นเต้นกับพวกคุณคนไหนเลยสักคน     นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป การกระทำที่ไม่เหมาะสมของตัวละครไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างและควรแยกแยะให้ได้ค่ะ นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการของคนเขียนล้วนๆ ไม่มีเจตนาพาดพิงใคร หรือสถานที่ใด อ่านเพื่ออรรถรสนะคะ   **นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานของ สำนักพิมพ์ซาชิกิวาราชิ ไม่อนุญาตให้ทำซ้ำ ดัดแปลง คัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ ภาพปกก็ห้ามเอาไปใช้นะคะ** กฎหมายคุ้มครองงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์ แล้วกำหนดโทษหนักแก่ผู้ทำละเมิดไว้ชัดเจน การละเมิดต่องานของผู้สร้างสรรค์ทั้งทำซ้ำ ดัดแปลงงาน เผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับความยินยอมตามกฎหมาย ต้องมีโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หากพฤติกรรมทำละเมิดดังกล่าวเพื่อการค้า ผู้กระทำจะมีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักเลขาโรแมนติกนิยายปัจจุบันประธาน18+

INTRO

ตุ๊บ

เสียงคนตัวเล็กที่ถูกโยนลงบนเตียงใหญ่ภายใต้โรงแรมหรูและเป็นห้องพักของชายหนุ่มร่างใหญ่ท่าทางโกรธเกรี้ยว

เขาแบกเธอขึ้นแทบบ่าแล้วเดินขึ้นมาบนห้องแบบไม่สนสายตาใครทั้งสิ้น กรรย์พยายามดิ้นและโวยวายแต่ก็ไม่กล้าเสียงดังเพราะอายคนอื่น จึงได้แต่ระดมทุบตีไปที่ตัวเขาเพียงแค่นั้น แต่มันไม่ได้ทำให้เขาเจ็บมากจนอยากจะปล่อยเธอ

“นี่จะทำอะไรน่ะ คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือไงคะบอส”

หญิงสาวตะคอกเขาด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว สายตาพยายามมองหาทางหนีทีไล่เพื่อที่จะวิ่งออกไปจากที่แห่งนี้แต่คนฉลาดอย่างเธอรู้ดีว่าไม่มีทางหนีเขาพ้นจึงเลือกที่จะคุยกับเขาก่อน ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากัน เธอค่อนข้างสั่นเทาและมองเขาด้วยท่าทีวิตก

“อยากได้ผู้ชายถึงขนาดออกไปร่านขนาดนั้น ผมก็กำลังจะสนองให้คุณอยู่นี่ไง”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและท่าทีของเขาเปลี่ยนไปไม่เหลือเค้าของเจ้านายไม่ได้เรื่องที่คอยตามใจเธอมาตลอด ร่างใหญ่เคลื่อนตัวเองเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ แล้วจับแขนของเธอทั้งของข้างไว้แน่นสายตาที่มองเธอดูเกรี้ยวกราดราวกับกำลังอยากฆ่าใครสักคนอยู่

“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันนะคะบอส คุณไม่มีสิทธิ์…อุ๊บ อื้อ อื้อ”

ไม่รอให้เธอพูดจบก็ประกบริมฝีปากหนาไปกลืนคำพูดที่ชวนหงุดหงิดพวกนั้นลงคอไปซะด้วยการบดจูบร้อนแรง ขุ่นเคือง มือหนาช้อนศีรษะของเธอขึ้นและนิ้วมืออีกข้างกบีบปากเธอออกเพื่อสอดลิ้นเข้าไปละเลงจูบบ้าคลั่ง ก่อนจะถอนจูบออกมาเมื่อเวลาผ่านไปนานนับนาที

ครั้นเมื่อถอนริมฝีปากออก เขาก็เค้นเสียงลอดไรฟันอย่างนึกโมโห

“คุณเป็นของผมแล้วตั้งโอ๋ ผมคนเดียวที่มีสิทธิ์ในตัวคุณผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร”

เขามองมายังดวงตากลมโตท่าทางจริงจังและเกรี้ยวกราด อารมณ์หวงของของเขาเกิดขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่

“เหอะ ถ้างั้นคุณก็ไปหาคนอื่นมาใช้แทนฉันสิคะ เพราะอย่างที่บอกฉันมั่วผู้ชายเป็นสิบ”

คำพูดและท่าทียโสของเธอทำเอาชายหนุ่มที่หัวเสียอยู่แล้วกลับยิ่งโมโหไปกันใหญ่ จนแทบคุมสติตัวเองไม่ได้

“ชอบเป็นของสาธารณะรึไง”

“เออ ชอบ แล้วนี่ก็ร่างกายฉันชีวิตฉัน ฉันจะทำตัวยังไงก็เรื่องของฉัน ถ้าไม่ถูกจริตคุณ คุณก็ไปหาคนอื่นกินแทน เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“อ้อ ชอบเป็นกะหรี่สินะ”

เขาด่าสาดเสียเทเสียด้วยความโมโห ร่างเล็กตกใจกับคำพูดของเขาจนตาเบิกโพลง หัวใจเหมือนมีใครเอามีดมาปักลงไป ถึงแม้จะพูดว่ามั่วผู้ชายเป็นสิบออกมาจากปากเองก็ตาม แต่ได้ยินแบบนี้มันก็...

“ใช่ ฉันมันกะหรี่ เพราะงั้นเลิกมาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของฉันได้แล้ว ไอ้คนเฮงซวย”

เลขาคนงามด่ากลับ แต่มันก็ไม่ได้รุนแรงมากพอที่จะหยุดความโมโหหรือเรียกสติคนตัวโตขี้โมโหกลับมาได้แม้แต่น้อย

เมื่อคนงามกำลังจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกมา หัวใจของเธอที่เหมือนโดนมีดกรีดลงไปกับคำพูดร้ายๆ ของเขา แต่เธอก็ต้องพยายามกลั้นน้ำตาไว้สุดใจเพื่อไม่แสดงให้เขาเห็นว่าคำพูดของเขามันทำร้ายจิตใจเธอมากขนาดไหน

“ใครให้คุณไป”

มือหนาคว้าแขนเล็กไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเจือไปด้วยความหงุดหงิด

“ทำไมต้องให้คุณอนุญาต”

เธอมองหน้าเขาด้วยท่าทีก้าวร้าว ตอนนี้ดวงตาเริ่มร้อนและเธอกลัวว่าจะมีน้ำใสๆ รินรดออกมาจึงหลบตาเขาทันที

“หึ คุณน่าจะดีใจนะตั้งโอ๋ ที่ผมอัพเกรดของสาธารณะแบบคุณขึ้นมาเป็นนางบำเรอของผม”

น้ำตาที่เก็บกลั้นไว้ถูกปลดปล่อยออกมาไหลลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก เมื่อได้ยินคำพูดสุดร้ายกาจของเขา

เพี๊ยะ

ฝ่ามือน้อยๆ เข้าไปประทับที่ใบหน้าคมคายอีกครั้ง

“ไอ้คนเฮงซวย”

“จะนอนให้เอาดีๆ หรือจะให้จับมัด”

ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทีจองหองและทำตัวเหมือนผู้คุมเกม

“มากเกินไปแล้วนะ”

เธอกัดฟันกอดมองสีหน้าโกรธแค้นแล้วพยายามสลัดตัวเองให้หลุดจากเขา

“อยากให้มัดสินะ”

เขายกยิ้มเย้ยหยันแล้วเริ่มปลดเนกไทของตัวเองออก เมื่อได้เนกไทมาไว้ในมือเขาก็มัดมาที่ข้อมือเธออย่างรวดเร็วแล้วมัดเธอติดกับเตียงอีกครั้ง

ร่างบางสั่นเทิ้มแล้วส่ายหัวไปมาน้ำตาเริ่มรินไหลและร้องบอกคนตัวโตด้วยเสียงสั่นเครือ

“ได้โปรดอย่าทำแบบนี้ อย่า…”

เธอพยายามดิ้นหนีจากพันธนาการแต่ไม่เป็นผลร่างใหญ่มัดไว้แน่นจนเกินไป เมื่อเขาแทรกตัวมาอยู่ตรงกลางระหว่างขาของเธอ ร่างเล็กก็ถอดครูดไปจนติดหัวเตียง แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินกว่าที่อีกคนจะตามมาได้

ปั๊ก…ฝ่าเท้าถีบเข้ามาเต็มๆ ยอดอกแต่มันก็ไม่ได้แรงพอให้เขาสะทกสะท้าน แถมอีกคนยังดูเหมือนจะชอบใจ รอยยิ้มผุดที่มุมปากใบหน้าคมคาย

"หึ มือหนักแล้วตีนยังหนักอีกสินะ สงสัยต้องมัดเท้าทั้งสองข้างไว้ด้วยแล้วมั้ง"