ไม่ขายแล้ว
ซีซีขมวดคิ้วคิด สิบลี้ มันเป็นระยะทางเท่าไหร่กันแน่ แต่นางคิดว่าคงไม่ไกล เพราะป้ายังขนของเดินได้เลย นางจึงได้เดินไปพร้อมป้า ทั้งสองพูดคุยกันไปเรื่อย ๆ
“ท่านป้า ท่าน ท่าน ไปก่อนเลยเจ้าค่ะ” ซีซีนั่งลงที่ก้อนหินอย่างหมดแรง นางคิดว่านางเดินมาไกลแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงเสียที
“โอวโยว เดินเพียงเท่านี้ เจ้าก็หมดแรงแล้วหรือ” ท่านป้าวางตะกร้าลง
“ไม่ไหว ไม่ไหว อีกไกลไหมเจ้าคะ”
“ข้างหน้าก็ถึงแล้ว” ซีซีเกือบจะหลุดปากต่อว่านางไปแล้ว
นางบอกเช่นนี้มาได้สามรอบแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นข้างหน้าจะเป็นเมืองเสียที
“ลุกได้แล้ว เจ้าเป็นสตรีจะมานั่งเช่นนี้ผู้เดียวได้อย่างไร บิดามารดาเจ้าเหตุใดถึงได้ปล่อยให้บุตรสาวมาผู้เดียวเช่นนี้ มิรู้หรือว่ากลางป่าหากไม่มีโจรป่าก็ต้องมีสัตว์ร้าย” ซีซีดีดตัวขึ้น เมื่อได้ยินคำเตือนของสตรีวัยกลางคน
“ไป ไปเจ้าค่ะ” นางรีบเดินตามหญิงวัยกลางคนไปอย่างรวดเร็ว
ครึ่งชั่วยามต่อมาทั้งสองก็เดินมาถึงในเมือง ซีซีนางเพิ่งจะรู้ว่าต้องจ่ายค่าเข้าเมืองด้วย นางก้มหน้าลงอย่างปลงตก เพราะตอนนี้นางยังไม่มีเงินสักเหรียญเดียว
“อ้าว นังหนู ไม่รีบเข้าเมืองเล่า” ป้าฟง อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ เมื่อครู่นางยังดีใจไม่น้อยที่เห็นประตูเมือง
ระหว่างทางทั้งสองคุยกันมาไม่น้อยจึงได้รู้ว่าป้าฟงอยู่ที่หมู่บ้านหูหนานเช่นเดียวกับหลี่หยวน นางเข้าเมืองนำผักมาส่งทุกวัน
“ข้าไม่รู้ว่าจะเสียค่าเข้าเมือง จึงไม่ได้เตรียมเงินมาเลยเจ้าค่ะ”
ป้าฟง จ้องมองซีซีอย่างสงสัย นางไปอยู่ที่ใดมา จึงไม่รู้ว่าเข้าเมืองต้องเสียเงินสองอิแปะ (100 อิแปะ = 1 ตำลึงเงิน)
“มามา ป้าออกให้” นางนำเงินออกมาจากถุงเงินแล้วส่งให้ทหารที่หน้าประตูเมือง
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้านำของไปขายแล้วจะนำเงินไปคืนท่าน ท่านไปขายที่ใดเจ้าคะ”
เมื่อพูดยังไงซีซีนางก็ไม่ยอม ป้าฟงจึงต้องบอกว่าตนจะนำผักไปส่งที่เหลาอาหาร และจะนำที่เหลือไปนั่งขายในตลาด
พอรู้ตำแหน่งที่ชัดเจนแล้ว ซีซีก็บอกลารีบเดินไปร้านขายยาที่ป้าฟงแนะนำทันที
“มาซื้อหรือมาขายขอรับ” เสี่ยวเอ้อเดินเข้ามาต้อนรับซีซี เพราะเสื้อผ้าที่นางสวมใส่ เนื้อผ้าไม่ธรรมดา เขาจึงนอบน้อมต่อนางไม่น้อย
“มาขายเจ้าค่ะ” นางเปิดโสมที่อยู่ในห่อผ้าให้เสี่ยวเอ้อดู เขาจึงได้รีบพานางเดินเข้าไปด้านในห้องรับรองด้านหลังทันที
ซีซีนั่งรอท่านหมอเซียวตรวจสอบโสมอย่างตื่นเต้น ไม่รู้ว่าการขายครั้งนี้ของนางจะได้มากกว่าหลี่หยวนหรือไม่
“อืม โสมเกือบพันปี เจ้าได้มาได้อย่างไร”
“ท่านรับซื้อหรือไม่เจ้าคะ” ซีซีนางจะบอกได้อย่างไรว่านางยังมีโสมเช่นนี้อยู่อีกไม่น้อยในมิติของนาง
“ซื้อ ซื้อ สองพันตำลึงทอง เจ้าเห็นเป็นเช่นไร”
ปัง ซีซีตบโต๊ะด้วยความโมโห “ไม่ขายแล้ว” จะไม่ให้นางโมโหได้อย่างไร โสมของหลี่หยวนเพียงห้าร้อยปี ยังขายได้ถึงสามพันตำลึงทอง แต่ของนางเกือบพันปี ให้มาได้ สองพันตำลึงทอง
หมอเซียวสะดุ้งตกใจไม่น้อยที่เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ของซีซี
“ใจเย็นๆ นังหนู ข้าพูดผิดๆ ห้าพันตำลึงทอง ห้าพัน เจ้าเห็นเป็นเช่นใดบ้าง” หมออเซียวรีบปาดเหงื่อ เขาคิดว่าจะได้กำไรจากโสมตรงหน้าเสียแล้ว
แต่ไม่คิดว่าซีซีนางจะรู้ราคาของโสมด้วย ด้วยกลัวว่านางจะนำไปขายที่อื่นจึงได้รีบขึ้นราคาให้นางทันที
“หกพันตำลึงทอง ไม่เช่นนั้นข้าไม่ขาย” นางจ้องมองหน้าหมอเซียวอย่างไม่ยอม
หากเขาพูดราคาห้าพันตำลึงทองตั้งแต่แรกนางคงยอมไปแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะกดราคากับนางมากถึงเพียงนี้
“ได้ ได้ หกพันก็หกพัน เจ้านั่งรอสักประเดี๋ยวข้าจะไปนำเงินมาให้”
“ประเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ซีซีเรียกรั้งเขาไว้ ก่อนที่นางจะนำโสมอีกสองหัวที่เหลือออกมา
“สวรรค์ เหตุใดเจ้าไม่นำออกมาพร้อมกัน
“หากข้านำออกมาพร้อมกัน ท่านจะให้ข้าหกพันตำลึงทองหรือเจ้าคะ” ซีซีถลึงตามองหมอชราอย่างไม่สบอารมณ์ คงคิดว่านางเป็นหมูมาให้เขาเชือดกระมัง
หมอเซียวได้แต่ลูบจมูกแก้เก้อ เขาร้องเรียกให้หลงจู๊นำเงินหนึ่งหมื่นแปดพันตำลึงทองมาให้ซีซี
