เพราะข้ามือซวย
นางทนชอกช้ำเลี้ยงดูบุตรชายมาเพียงลำพัง เรื่องบิดาของเขานางก็ไม่เคยเอ่ยถึง จนเมื่อห้าปีที่แล้ว หลี่หยวนไปส่งสัตว์ป่าที่เมืองเช่นปกติ เขาไปพบกับเหออี้เหลียงที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายเขาถึงหกส่วน
เมื่อนำความกลับมาถามมารดา จางซินเสี่ยงจึงยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้บุตรชายฟัง หลังจากนั้น บุตรชายที่สดใสของนางก็ไม่เคยยิ้มแย้มให้นางได้เห็นอีกเลย
ซีซี ยอมวางนิยายในมือลง เมื่อเธอเริ่มจะหิวแล้ว เธอเดินออกไปหาของกิน โดยที่ไม่ได้เหลือบตาไปมองคอมสักนิด กว่าจะจัดการธุระส่วนตัวกลับมา เวลาที่หน้าจอคอมที่ยึดตามยุคโบราณก็มืดค่ำเสียแล้ว
“ไหนดูสิ ว่าได้ทำตามคำแนะนำของฉันไหม” ซีซี เดินไปเปิดคอมอย่างคาดหวัง
“ตายแล้ว” เธอร้องออกมาเสียงดัง เมื่อหน้าจอบอกว่าหลี่หยวนทำภารกิจสำเร็จแล้ว
“ท่าน ท่าน นอนแล้วหรือยัง” นางลองส่งสัญญาณเรียกหลี่หยวน
“หึ ข้าคิดว่าเจ้าจะหนีหายไปเสียแล้ว” หลี่หยวนเพิ่งจะจัดการกับสัตว์ป่าที่เขาล่ามาเรียบร้อย เมื่อล้างตัวแล้วกลับเข้าห้อง ซีซีก็ร้องเรียกเขาพอดี
“ไม่หนี ไม่หนี ท่านจะให้ข้านำโสมส่งไปให้เลยหรือไม่” นางเอ่ยถามตามแบบนิยายที่นางได้อ่านมา
แม้คำพูดจะดูติดขัดอยู่บ้าง แต่หลี่หยวนก็เข้าใจในความหมายของนางดี
“ได้”
“เช่นนั้น ท่านรอประเดี๋ยว” ซีซี วิ่งออกไปที่แปลงปลูกโสม นางรู้แล้วว่า ด้านในปลูกของพวกนี้ไว้ทำอันใด ก็คงให้นางใช้เป็นของรางวัลกับผู้ที่ถูกเลือกอย่างแน่นอน
ไม่รู้ว่ามิติอื่นจะลำบากเช่นนางหรือเปล่า ที่ต้องวิ่งไปขุดโสมด้วยตนเองแบบนี้
หลี่หยวนรออยู่นาน ก็ยังไม่ได้ยินเสียงให้หัวตอบกลับมา พอเขาคิดจะล้มตัวลงนอน นางก็เอ่ยเรียกเขาทันที จะบอกว่าเริ่มไม่สบอารมณ์แล้วก็คงจะใช่
“มาแล้ว มาแล้ว” ซีซีนำโสมทั้งห้าหัวที่นางคัดเลือกมาอย่างดี ทั้งทำความสะอาดเรียบร้อย ส่งออกไปให้หลี่หยวน
หลี่หยวนที่พบโสมทั้งห้าหัวปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า และในตอนนี้อยู่บนที่นอนของเขา ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว ยังดีที่นางบอกไว้ก่อนว่าจะส่งออกมาให้ ไม่เช่นนั้นเขาคงได้วิ่งออกไปจากห้องแล้ว
“ขอบใจเจ้ามาก” เขาเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เป็นเรื่องที่ข้าต้องทำ”
“ทำไมเจ้าถึงช่วยข้า”
“ข้าไม่อยากช่วยท่าน แต่เพราะข้ามือซวยจับได้ท่านต่างหาก”
“ซวย ซวยคืออันใด”
“เอ่อ คือ โชคไม่ดีเสียเลย”
“เหอะ เช่นนั้น เจ้าก็ไปเสีย”
“ไม่ได้ ไม่ได้ หากข้าทำให้ความปรารถนาของท่านไม่สำเร็จ ข้าก็กลับบ้านไม่ได้” ซีซีรู้สึกเศร้าขึ้นมา
ถึงนางจะไม่พอใจหลี่หยวนแค่ไหน แต่เพราะไม่มีทางเลือก จำต้องช่วยเหลือเขาให้ถึงที่สุด จึงจะกลับบ้านได้
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยของนาง หลี่หยวน ก็มีท่าทีที่อ่อนลง
“หากข้าต้องการจะสื่อสารกับเจ้า ต้องทำเช่นไร”
“เพียงแค่เรียกชื่อ เอ่อ นามข้าก็พอ”
“แล้วเจ้า นามว่าอันใด”
ซีซีตบที่หน้าผากของตนเองอย่างแรง จนหลี่หยวนยังได้ยินเสียง แต่เขาไม่รู้ว่าคือเสียงอันใด
“ข้าลืมไปได้อย่างไร ข้า ซีซี หากท่านต้องการจะสื่อสารกับข้า เอ่ยเรียกนามก็ได้แล้ว อ้อ เพียงแค่นึกก็พอ เอ่อ พูดในใจ เข้าใจหรือไม่” ยังมีบ้างคำที่นางไม่รู้จะพูดให้เขาเข้าใจได้อย่างไร
“เพ่งจิต ใช่หรือไม่”
“คงประมาณนั้นมั้ง” นางก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอย่างไร
หลี่หยวนจึงได้แต่ลองทำด้วยตนเอง เขาลองเพ่งจิตเอ่ยชื่อของนาง
“ซีซี”
“ว่า”
“ไม่มีอันใด ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้าสื่อแล้ว”
“เห้อออ ดีแล้ว ข้าคิดว่าจะต้องอธิบายอีกนาน”
ซีซี เห็นว่าจบเรื่องของนางแล้ว จึงได้หยิบหนังสือนิยาย แล้วไปล้มตัวนอนอ่านเล่นในห้องนอนของนาง
รุ่งเช้าหลี่หยวนก็เข้าเมืองเพื่อนำโสมที่เขาได้มาไปขายให้ร้านยา ร้านยาที่เขานำมาขายก็เป็นร้านยาที่ซื้อให้มารดาประจำ เรื่องราคาจึงเชื่อได้ว่า หมอเซียวจะไม่มีทางโกงเขาอย่างแน่นอน
“ซีซี” หลี่หยวนเอ่ยเรียกนาง เพราะคิดว่านางคงจะพอรู้เรื่องราคาของโสมอยู่บ้าง
“ว่า...” ซีซี ถูกปลุกด้วยเสียงเรียกของหลี่หยวน นางจึงตอบรับด้วยเสียงที่งัวเงีย
“เหอะ เจ้าจำเป็นต้องนอนด้วยหรือ” หลี่หยวนเอ่ยถามอย่างข้องใจ เขาไม่เข้าใจว่าที่นางเรียกแทนตัวเองว่าระบบ คืออะไร แต่เขาคิดว่านางที่ไร้ตัวตนคงไม่ต้องหลับนอนเช่นเขา
“อ้าว ข้าเป็นมนุษย์เช่นท่าน ก็ต้องกินนอน ถามแปลกๆ”
หลี่หยวนเบิกตากว้างขึ้น นางบอกว่านางเป็นคนเหมือนเช่นเขา แต่ทำไมเขาจึงได้ยินแต่เพียงเสียงนาง น่าประหลาดนัก
