ตาแก่เจ้าเล่ห์
“เจ้ารู้ราคาโสมหรือไม่”
“ไม่ แต่ข้าเลือกหัวที่ใหญ่ที่สุดให้ท่านเลยนะ น่าจะทำเงินได้ไม่น้อย”
“แล้วหากท่านมีเงินมาก จะทำสิ่งใดต่อ” ในเมื่อเขาปลุกนางแล้ว ก็ดีที่มีเพื่อนคุย ซีซีจึงได้หาเรื่องชวนเขาคุยต่อ
“ยังไม่รู้”
“ท่านได้เรียนหรือไม่” ตามประวัติ หลี่หยวน อายุ สิบแปดหนาวแล้ว หากเป็นยุคนางก็ยังอยู่เพียงมัธยมเท่านั้น
“ไม่”
“เช่นนั้น ท่านก็ไปเรียนสิ ความรู้สำคัญที่สุด” นางคิดว่าหากเขามีความรู้คงช่วยเปลี่ยนความคิดที่เลวร้ายของเขาได้
เพราะในนิยาย ต่อไปหลี่หยวน จะเข้าร่วมกับโจรป่า เมื่อมารดาสิ้นชีวิตลง คนแรกที่เขาแก้แค้นคือบิดาของเขา
หลี่หยวนพากลุ่มโจร เข้าเผาจวนนายอำเภอ ทั้งยังฆ่าสังหารคนในจวนเสียแทบสิ้น มีเพียงเหออี้เหลียง ที่เข้าไปร่ำเรียนที่เมืองหลวงจึงได้รอดชีวิต
เมื่อเขาได้เป็นขุนนางจึงได้กลับมาล้างแค้นให้ตระกูลของเขา กลุ่มโจรป่าทั้งหมดตายลงพร้อมกับหลี่หยวน
หลี่หยวนไม่ได้ตอบซีซี เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องเรียน ถึงแม้มารดาจะเคยถามว่าเขาอยากร่ำเรียนหรือไม่ แต่เพราะอาการป่วยของมารดา ทั้งค่าใช้จ่ายที่เขาเป็นผู้เดียวที่หาเข้าเรือน
หากเขาไปเรียนแล้ว ผู้ใดจะดูแลมารดา ทั้งค่าใช้จ่ายก็ไม่น้อย ลำพังเพียงมารดาคงจัดการไม่ได้
“มีอะไรก็เรียกข้าแล้วกัน” ซีซีหาวแล้วนอนหลับต่อ เมื่อเห็นว่าหลี่หยวนไม่คิดจะสื่อสารกับนางอีก
หลี่หยวนเดินทางเข้าเมือง เพื่อนำโสมออกมาขาย เขาหยิบโสมออกมาเพียงหัวเดียว เพื่อให้ท่านหมอเซียวได้ประเมินราคาเสียก่อน
“อาหยวน เจ้าช่างโชคดีนัก พบเจอโสมห้าร้อยปีที่สมบูรณ์เช่นนี้ มิได้ง่ายนัก”
หมอเซียวหยิบโสมมาพลิกดูอย่างสนใจ หลี่หยวนได้ยินว่าโสมที่ได้มีอายุถึงห้าร้อยปี ก็ตกตะลึงนิ่งงันไป แต่เขาเฉลียวฉลาดอยู่ไม่น้อย ไม่กล้าจะแสดงท่าทีใดออกมาให้หมอเซียวหาช่องทางลดราคาได้
“ท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ”
“ซื้อๆ ข้าให้สองพันตำลึงเงิน เจ้าว่าเป็นเช่นไร” หมอเซียวมองมาทางหลี่หยวนอย่างไม่เต็มตา ราวกับว่าหากเผลอมองตรงๆ หลี่หยวนจะจับพิรุธได้
“ไม่ขาย บอกไปเลย ตั้งใจจะโกงชัดๆ” ซีซีทนฟังไม่ไหว โวยวายออกมาทันที หลี่หยวนขมวดคิ้วแน่น เขาทั้งตกใจที่ได้ราคาโสมมาก และตกใจเสียงของซีซี
แต่พอได้ยินว่านางไม่ให้ขายในราคาเพียงแค่นี้ หลี่หยวนก็เอื้อมมือออกไปหยิบโสมที่มือของหมอเซียวกลับมาแทน
“ประเดี๋ยว ประเดี๋ยว ข้าเพียงแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้น สองพันตำลึงทอง ไม่ใช่ตำลึงเงิน ข้าพูดผิด” หมอเซียวแสร้งตีปากของตนเอง เพื่อเอาใจหลี่หยวน
“ตาแก่ เจ้าเล่ห์ ขอเพิ่มอีกห้าร้อยตำลึงทองเลย”
“ท่านหมอเซียว มิใช่ว่าท่านให้ข้าไม่มากพอนะขอรับ แต่กว่าข้าจะหาโสมห้าร้อยปีพบ ต้องลงแรงไปมากทีเดียว เช่นนั้น...” หลี่หยวนหยุดคิด เพื่อให้หมอเซียวคิดว่าเขาจะไปขายที่ร้านอื่น
“เช่นนั้น สามพันตำลึงทอง ข้าให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว” หมอเซียวรีบร้องบอกออกมาทันที ก่อนที่หลี่หยวนจะทันพูดจบ
“ได้ขอรับ” หลี่หยวนยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ
“เหอะ ค่อยเข้าท่าหน่อย ท่านก็อย่าโง่ ให้ตาแก่หลอกได้เล่า” น้ำเสียงของซีซีอ่อนลง เมื่อเห็นว่าได้เพิ่มอีกถึงหนึ่งพันตำลึงทอง
“ถ้าหากว่าข้ามีอีก ท่านคิดจะซื้อหรือไม่” หลี่หยวนคิดถูกแล้วที่เอาออกมาในตอนแรกเพียงแค่หัวเดียว
หากเขานำทั้งห้าหัวออกมาพร้อมกัน หมอเซียวไม่มีทาง เพิ่มราคาให้มากเพียงนี้อย่างแน่นอน
“ซื้อๆ แต่เจ้ายังมีอีกรึ”
หลี่หยวนมิได้พูด แต่เขานำโสมอีกสี่หัวที่เหลือ ออกมาวางต่อหน้าหมอเซียว ในตอนนี้หมอเซียววิญญาณหลุดออกจากร่างเรียบร้อยแล้ว
หนึ่งชั่วยามต่อมา หลี่หยวนก็เดินออกจากโรงหมอโดยที่มีตั๋วเงินอยู่เต็มตะกร้า เขาคิดจะนำไปฝากที่โรงรับฝากเงิน แต่เสียงของซีซีที่เงียบหายนานก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
“ท่านฝากเงินไว้ที่ข้าได้ ปลอดภัยกว่าเก็บไว้กับตัวมากนัก”
“อย่างไร”
“ข้าจะเปิดช่องเก็บของให้ท่าน โดยที่ไม่ต้องทำภารกิจ ท่านสามารถนำของเขามาเก็บได้ ไม่เกินห้าอย่าง”
หลี่หยวนเดินเข้าไปในที่ลับตาคน ก่อนจะแบ่งเงินมาเก็บไว้ที่ตัวเล็กน้อย แล้วให้ซีซีนางเก็บเข้าไปไว้ในช่องเก็บของที่นางบอกเมื่อครู่
“ท่านฝากไว้ทั้งสิ้น หนึ่งหมื่นสี่พันเก้าร้อยตำลึงทอง”
“เจ้าคำนวณได้ด้วยหรือ”
“เหอะ จะไปอยากอันใด ถ้าท่านอยากคิดได้เร็วเท่าข้า ข้าสอนท่านได้นะ”
“อืม”
