เจ้ามาจากที่ใด
ซีซีอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ นางอดใจรอให้เขาขอร้องให้นางช่วยไม่ไหวแล้ว
“ดีดี ท่านจะให้ข้าช่วยคิดหรือไม่”
“ไม่ต้อง”
“แล้วท่านขายอันใด” นางอดที่จะสงสัยไม่ได้ หากอยากร่ำรวย ก็เพียงแค่นำของในมิติของนางออกไปขาย
ถึงอย่างไรตอนนี้ ทางองค์กรก็ให้นางช่วยเหลือเขาได้อย่างเต็มที่
“ซื้อขายข่าว”
ซีซีนิ่งค้างไป “เหตุใด ท่านจึงเรื่อง ทำการค้านี้เล่า” นางรอคอยคำตอบด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
“ข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ”
“เอ่อ บอกข้าได้หรือไม่” แม้จะรู้ว่าหลี่หยวนเปิดโรงค้าข่าวไปเพื่ออันใด แต่นางก็จำต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้
“ยังไม่ถึงเวลา ไว้ข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง” น้ำเสียงของหลี่หยวนแข็งกร้าวขึ้น เมื่อนึกถึงสิ่งที่ท่านเจ้าเมืองเหอทำกับพวกตนสองแม่ลูก
ในเมื่อเขาพูดตัดบทเช่นนี้ซีซีจึงไม่ได้เอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง นางจำต้องเปลี่ยนเรื่องไปพูดเรื่องในสำนักศึกษาของเขา
ทางสำนักศึกษาจะทดสอบความรู้ของลูกศิษย์ทุกสามเดือน เพื่อที่จะได้เลื่อนระดับห้องเรียน ซีซีตกตะลึงเมื่อได้ฟัง นางไม่คิดว่าการเรียนการสอนทั้งเรื่องสอบจะตึงเครียดกว่ายุคของนางมากนัก
ผ่านไปได้สามเดือน หลี่หยวนก็ได้เลื่อนระดับจากขั้นแรกเริ่มห้องหนึ่งไปอยู่ห้องสามเลย นับว่าเป็นเรื่องประหลาดที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นบ่อยนักในสำนักศึกษา
เหออี้เหลียงอดที่จะมองสำรวจหลี่หยวนอย่างละเอียดไม่ได้ เมื่อเขาอยู่ห้องสาม ในเวลาเพียงแค่สามสีเดือนเท่านั้น ตัวเขาที่ตอนนี้อยู่ขั้นสุดท้ายคือห้องที่ห้าแล้ว ยังอดชื่นชมความเก่งกาจที่หาได้ยากของหลี่หยวนไม่ได้
แต่สายตาของหลี่หยวนที่มองอี้เหลียงอย่างไม่เป็นมิตร ทำให้เขาไม่คิดจะเข้าไปสนทนากับหลี่หยวนเช่นสหายคนอื่น
หลี่หยวนยกยิ้มมองมาทางอี้เหลียงอย่างแฝงไปด้วยความหมาย เขาต้องขมวดคิ้วอย่างงุนงง เพราะไม่รู้ว่ารอยยิ้มของหลี่หยวนหมายความเช่นไร
ที่หลี่หยวนยิ้มมองอี้เหลียงเช่นนี้เป็น เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขารู้ว่าเจียลี่นางจะเดินทางไปนอกเมืองเพื่อไหว้พระขอพร หลี่หยวนจึงพาตนเองไปอยู่ที่วัดเพื่อรอนาง
ครั้งนี้ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชื่นชอบนาง เจียลี่ก็เหมือนจะมีใจให้เขา นางนัดหมายให้เขาไปพบนางที่โรงน้ำชาในวันนี้
เมื่อการเรียนสิ้นสุดลง หลี่หยวนไปพบเจียลี่ที่โรงน้ำชา ซีซีนางไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เพราะว่าเขาไม่เคยเอ่ยเล่าเรื่องให้นางได้ฟัง
แต่เพราะวันนี้นางได้รับรางวัลพิเศษจากองค์กร ที่ทำให้ตัวร้ายเปลี่ยนแปลงไปได้มาก นางสามารถออกมาจากนอกมิติเพื่อดูโลกของยุคโบราณได้สองชั่วยาม (1ชั่วยาม=สองชั่วโมง) จึงคิดจะบอกเขา เพื่อให้พานางเที่ยวเล่น
ความจริงนางจะต้องบอกเรื่องนี้กับเขาตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เพราะนางมัวแต่หาเสื้อผ้าที่เข้ากับยุคโบราณอยู่จึงไม่ได้ทันบอก เมื่อแต่งตัว ใส่เครื่องประดับเรียบร้อยซีซีจึงได้ร้องเรียกหลี่หยวนอย่างดีใจ
“หลี่หยวน ท่านว่างหรือไม่ ข้าได้...”
“ซีซี ข้าไม่ว่าง”
นางคิดที่จะบอกเขาแต่เพราะถูกขัดจังหวะ แล้วยังมีเสียงของสตรีแทรกเข้ามา
“พี่หยวน ท่านมาแล้ว” เจียลี่ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาหลี่หยวนอย่างยิ้มแย้ม
“อ้อ ข้าไปเที่ยวเล่นผู้เดียวก็ได้” นางพึมพำออกมา เพราะถูกตัดการสื่อสารไปแล้วหลี่หยวนจึงไม่ได้รู้ว่านางพูดว่าอันใด
ไม่มีเรื่องใดที่จะมาทำลายความตื่นเต้นของนางลงได้ ต่อให้หลี่หยวนนัดสตรี นางคิดว่าดีเสียอีก สตรีนางนั้นอาจจะช่วยเปลี่ยนนิสัยเขาได้
เมื่อออกมาอยู่ด้านนอก ซีซีมองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง เพราะนางเคยเห็นเพียงภาพวาดในหนังสือมาเท่านั้น แต่เมื่อได้เห็นของจริงช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
นางภาวนาให้หลี่หยวนทำตัวดีๆ เพื่อที่ครั้งหน้านางจะได้ออกมาเที่ยวเล่นเช่นนี้ได้อีก
แต่เพราะไม่รู้ว่าที่นี่ใช้จ่ายเงินเช่นไร ซีซีจึงได้แต่มองของน่ากินตรงหน้าอย่างปวดใจ หากหลี่หยวนว่างพานางเที่ยว นางก็ใช้เงินของเขาได้
เพราะมัวแต่เดินมองดูของไม่มองทาง ซีซีจึงเดินชนเข้ากับผู้ที่เดินสัญจรไปมา
“ขอโทษค่ะ เอ่อ ขอโทษเจ้าค่ะ” ซีซีรีบก้มหัวขอโทษบุรุษตรงหน้า
อี้เหลียงมองใบหน้าของซีซีอย่างตกตะลึง ทั้งใบหน้าที่งดงามแม้แต่คู่หมั้นของเขาก็ไม่อาจเทียบได้ การแต่งกายของนางที่แตกต่างจากสตรีในเมือง
“เป็นอันใดหรือไม่แม่นาง”
“ไม่ ไม่เจ้าค่ะ” ซีซียิ้มขอโทษให้เขา นางเกาแก้มอย่างเขินอาย ที่มัวแต่สนใจร้านค้า ผู้คน จนไม่ได้ระวังเช่นนี้
“เจ้ามิใช่คนที่เมืองโจวตง เจ้ามาจากที่ใด”
