สักวันท่านจะรู้ความหวังดีของข้า
นางไม่รู้เลยว่าคำพูดของนางทั้งหมด หลี่หยวนล้วนได้ยิน เขาอดจะประหลาดใจไม่ได้ ที่นางพูดเรื่องมิติอื่น แต่เพราะไม่รู้ว่าคืออันใด และไม่กล้าที่จะเอ่ยถามนาง เพราะกลัวว่านางจะคิดว่าเขาแอบฟังเรื่องของนางอยู่
หลี่หยวนจึงคงเข้าเมืองเพื่อจัดการเรื่องของเขา ตลอดทั้งวันเขาไม่ได้ยินเสียงของซีซีเอ่ยถามเรื่องของเขาเลย
ซีซีในตอนนี้นางกำลังนอนเล่นอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาริมน้ำของนาง ในตอนแรกนางจะลงมือปลูกต้นไม้ ดอกไม้เลย แต่เพราะขี้เกียจเกินไปจึงไม่ได้เริ่มลงมือเสียที
หลี่หยวนให้ขอทานกระจายตัวออกไปสืบเรื่องของตระกูลเหอ ตระกูลสวี และการเคลื่อนไหวของเจียลี่ เพื่อที่เขาจะได้วางแผนขั้นตอนต่อไป
เมื่อรู้ว่าเหออี้เหลียงกำลังจะสอบซิ่วไฉในปีนี้ หลี่หยวนก็นึกถึงคำพูดของซีซี ที่นางอยากให้เขาเข้าสำนักศึกษา
หลี่หยวนจึงได้เข้าไปสมัครเรียนที่สำนักศึกษา แต่เพราะความรู้ที่เพียงอ่านออกเขียนได้ไม่มากของเขา ทำให้ถูกจัดไปอยู่ในขั้นแรกเริ่มกับเด็กอายุเพียงสิบสามหนาว
เรื่องนี้เขามิได้อับอายแต่อย่างใด ถึงอย่างไรเขาก็ยอมรับความจริงได้ เรื่องที่ตนเองมิได้เก่งกาจในเรื่องของตำรา
เมื่อกลับถึงเรือนจึงได้บอกกล่าวมารดาเรื่องที่เขาจะเข้าเรียน เรื่องนี้ทำให้จางซินเสี่ยงยิ้มออกมาเต็มใบหน้า
“ดีแล้ว เจ้ามิต้องห่วงแม่ ร่างกายของแม่ดีขึ้นมาก ตั้งแต่ได้ยาที่เจ้านำมาให้” เพราะหลายวันที่ผ่านมาจางซินเสี่ยงกินยาเป็นประจำ และยังมีอาหารที่บุตรชายทำบำรุงร่างกายของนาง
หลี่หยวนมองมารดาอย่างยินดี เขายิ้มออกมาให้มารดาได้เห็น เมื่อนึกถึงซีซีที่ไม่เคยพบหน้า แต่นางกับทำให้ร่างกายของมารดาเขาดีขึ้นได้อย่างที่นางพูด
“ซีซี ข้าไปสมัครเรียนมาแล้ว” เขารีบกลับเข้ามาในห้อง เพื่อติดต่อบอกนางโดยหวังว่านางคงจะดีใจ
“อืม ดีแล้ว ข้าเตรียมหนังสือ เอ่อ ตำราไว้ให้ท่านได้ลองศึกษา” ซีซีส่งหนังสือที่นางคิดว่าน่าจะช่วยเขาได้ ทั้งยังกระดาษ หมึก พู่กันออกมาให้หลี่หยวนได้ใช้
“ขอบใจเจ้ามาก” เขามองสิ่งของที่นางส่งออกมาให้ด้วยแววตาที่ซับซ้อน ทั้งยังตกตะลึงเมื่อเห็นว่าทุกสิ่งที่นางนำออกมาล้วนหาไม่ได้ในแคว้นต้าเยี่ยน
“ตั้งใจศึกษาให้ดี สักวันท่านจะรู้ถึงความหวังดีของข้า” ซีซีอยากให้เขาคิดได้ และมุ่งมั่นที่จะทำให้ตนมีอำนาจดั่งที่ตั้งใจ
เรื่องการแก้แค้นในความคิดนาง คงไม่มีอะไรดีไม่กว่าการที่เราจะได้ดีกว่าศัตรูของเรา แต่ไม่รู้ว่าหลี่หยวนจะคิดเช่นเดียวกับนางหรือไม่
“เข้าใจแล้ว”
วันนี้ ซีซีก็ไม่ได้กวนใจเขาเช่นเดิม นางเริ่มที่จะทำเพียงหน้าที่ของนาง โดยไม่ก้าวก่ายเรื่องของหลี่หยวนมากเกินไป
หลี่หยวนศึกษาตำราที่เขาซื้อมาตามคำแนะนำของท่านอาจารย์ และเมื่อมีตำราของซีซีด้วยแล้ว คนเฉลียวฉลาดเช่นเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำความเข้ากับมัน
ในตอนนี้เขาเริ่มฝึกคัดตัวอักษรอย่างจริงจัง แม้ตำราในเมืองที่ว่าลายมือทรงพลังที่สุด ยังเทียบกับลายมือในตำราที่ซีซีนางนำออกมาให้เขาไม่ได้ เขาจึงได้เริ่มคัดตามตำราของซีซี
ซีซีนางก็หวังว่าเขาจะจริงจังกับเรื่องการสอบขุนนาง ในแต่ละวันของนางจึงได้เริ่มช่วยหาสิ่งที่จำเป็นให้เขา แม้แต่เรื่องการสร้างเขื่อน ขุดทางเดินน้ำ หรือแม้แต่กังหันลมที่จะผันน้ำไปในพื้นที่ที่แม่น้ำเข้าไม่ถึง
นางก็นำออกมาให้เขาได้ศึกษา ทั้งหมดล้วนมาจากหนังสือประวัติศาสตร์ที่เขียนบอกไว้ โดยนางคัดลอกออกมาให้เขาอีกที เพราะตัวอักษรในยุคของนางกับยุคของหลี่หยวนต่างกันมากนัก
หลี่หยวนมองแบบในมือด้วยสีหน้าประหลาด หากเขานำสิ่งที่นางให้มาไปให้ทางการหรืออาจารย์ในสำนักศึกษา เรื่องชื่อเสียงของเขาจะต้องเลื่องลือไปทั่วทั้งแคว้นอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะทำเช่นนั้น
เพราะเขาที่เข้าเรียนในขั้นแรกเริ่ม นำสิ่งนี้ออกไปคงได้กลายเป็นที่ขบขันอย่างแน่นอน
เมื่อมีเรื่องของการศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งสองก็เริ่มกลับมาพูดคุยกันมากเช่นเดิมอีกครั้ง
“หลี่หยวน ท่านส่งตำราที่ท่านคัดมาให้ข้าดูหน่อย”
หลี่หยวนก็ไม่ได้ปฏิเสธนางรีบส่งเข้าไปด้านในให้นางได้ดูทันที
“โอ้โห เพียงไม่นานท่านก็เขียนได้งดงามเช่นนี้เลยหรือ”
“หึหึ เห็นหรือไม่ว่าข้าเก่งมากเพียงใด” หลี่หยวนยืดอกอย่างภูมิใจ
“แล้วเรื่องร้านค้าของท่านเล่าเป็นเช่นใดบ้าง” เมื่อห้าวันที่แล้วเขาบอกนางว่า ร้านค้าของเขากำลังตกแต่งอยู่
“ใกล้เสร็จแล้ว”
“ดีดี คิดไว้หรือยังว่าจะขายอันใด”
“คิดแล้ว”
