สหายของข้า นางจะมาพักอยู่ด้วย
ในตอนนี้ซีซียางเริ่มจะปลงกับชีวิตแล้ว หากนางไม่อาจกลับไปได้ เงินในมือก็มีอยู่ไม่น้อย นางก็เพียงแต่เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วแคว้นก็เท่านั้น
หลี่หยวนนิ่งอึ้ง เมื่อรู้ว่านางต้องการที่จะจบเรื่องการช่วยเหลือเขาแล้ว และยิ่งรู้ว่านางจะย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ เพราะไม่อาจกลับไปที่ของนางได้ เขาก็รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย
“เจ้าจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าไม่รู้สิ่งใดเลย”
“หึ อย่างไรก็ดีกว่าติดอยู่ในที่แคบเช่นนั้นผู้เดียว” นางพึมพำออกมาเบาๆ
“ซีซี ข้าจัดการเรื่องของคุณหนูสี่แล้ว เจ้ากลับไปอยู่ที่เรือนกับข้าดีหรือไม่” เขาเป็นห่วงนางไม่น้อย อย่างไรนางก็เคยช่วยเขา และนางก็ไม่เคยชินกับความเป็นอยู่ในยุคนี้ด้วย
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าคิดจะซื้อเรือน”
“เจ้ามิมีทะเบียนเรือน เจ้าจะอยู่ได้อย่างไร”
“อี้เหลียงจะช่วยข้าในเรื่องนี้”
“ซีซี!!!” หลี่หยวนตวาดออกมาเสียงดัง เมื่อได้ยินว่านางต้องการขอความช่วยเหลืออี้เหลียงมากกว่าเขา
“ท่านจะพูดเสียงดังเพื่ออันใด ข้าตกใจหมด” ซีซีตบที่หน้าอกของตนเองอย่างเสียขวัญ
“ไป กลับเรือนกับข้า”
“เรือนท่านมีห้องให้ข้าอย่างนั้นหรือ” นางกอดอกมองเขาอย่างไม่พอใจ
“มี” เรือนของหลี่หยวนมีเพียงสองห้องนอน เรื่องนี้ซีซีนางไม่รู้เรื่อง แต่ในเมื่อเขาบอกว่ามีห้องนอนให้นาง นางจึงได้ตามเขากลับไปที่หมู่บ้านอย่างไม่พอใจ
เพราะกลัวว่าซีซีนางจะเดินไกลนับยี่สิบลี้ไม้ไหว หลี่หยวนจึงได้ให้คนของเขานำรถม้าไปส่งทั้งสองที่หมู่บ้าน
ซีซีเปิดผ้าม่านมองด้านนอกอย่างสนใจ ทุกการกระทำของนางล้วนอยู่ในสายตาของหลี่หยวนตลอดเวลา
“ที่ของเจ้ามิเป็นเช่นนี้หรือ” เขาเอ่ยถามอย่างสนใจ
“ใช่ ทุกสิ่งอย่างล้วนแต่สะดวกสบาย รถม้าข้าก็เพิ่งเคยพบเห็นเพียงครั้งแรก ที่ผ่านมาล้วนแต่เคยเห็นในตำราเท่านั้น”
“เช่นนั้นหรือ” หลี่หยวนอยากจะเห็นสถานที่อยู่ของนางว่าจะเป็นเช่นไร
เมื่อทั้งสองลงจากรถม้าที่หน้าเรือน ซีซีนางก็บีบมือแน่นอย่างกังวล เพราะในเรือนของหลี่หยวนมิได้มีเพียงเขา ยังมีมารดาของเขาอยู่ด้วย
“ท่านแม่ท่านจะว่าข้าหรือไม่”
นางพอจะรู้ว่าในยุคนี้ เรื่องที่สตรีจะเข้ามาพักในเรือนอื่นที่ไม่ใช่เรือนของนางคงจะโดนครหาไม่น้อย
“เจ้าอย่าได้กังวล มารดาข้าย่อมเข้าใจ” หลี่หยวนกุมมือที่เย็นของนางไว้อย่างปลอบใจ
ซีซีไม่รู้ว่านางคิดถูกหรือไม่ที่ตามเขากลับมาที่เรือน ไม่เช่นนั้น นางคงต้องกลับเข้าไปนอนในมิติของนางจะดีกว่า
“หลี่หยวน ข้ากลับเข้ามิติดีกว่า ไว้หาเรือนได้ ข้าค่อยใช้ชีวิตด้านนอก”
“ไม่ต้อง” เขาจูงมือของซีซีเข้าไปเรือนทันที นางอยากจะสะบัดมือออกก็ไม่อาจทำได้ เพราะมือของเขากุมมือของนางไว้แน่น
เมื่อเข้ามาในเรือนซีซีนางถึงจะดึงมือของนางออกจากการเกาะกุมของหลี่หยวนได้ จางซินเสี่ยงเดินออกมารับบุตรชายเช่นในทุกทีพอนางได้เห็นซีซีก็ตกใจอยู่ไม่น้อย
“ท่านแม่ ซีซี สหายของข้า นางจะมาพักอยู่ที่เรือนของพวกเราขอรับ” หลี่หยวนรีบเอ่ยก่อนที่มารดาของเขาจะถาม
“เอ่อ ข้า ซีซี เจ้าค่ะ” นางก้มหัวให้จางซินเสี่ยงอย่างเขินอาย
“เช่นนั้นก็เข้าเรือนเถิด” จางซินเสี่ยงตกใจไม่น้อยที่เห็นบุตรชายพาสตรีมาที่เรือน แต่ในเมื่อเขาบอกว่านางเป็นสหายของเขา นางก็จำต้องเชื่อเช่นนั้น
เมื่อเข้ามาในเรือน ซีซีก็นั่งอยู่ในห้องโถงอย่างไม่สบายตัว เพราะมีสายตาของจางซินเสี่ยงที่จ้องมองนางอย่างสำรวจอยู่ตลอด
“ท่านแม่ ข้ากับซีซีจะเข้าไปทำอาหารให้ครัว ท่านรอประเดี๋ยวขอรับ”
หลี่หยวนเหมือนจะรับรู้ว่าซีซีนางอึดอัด จึงได้พานางไปที่ห้องครัว
“ข้ากลับเข้ามิติก่อนแล้วกัน เช่นนี้ข้าไม่สบายใจนัก”
“ไม่ต้อง”
“หลี่หยวนท่านไม่ได้เป็นข้าท่านจะรู้สึกได้อย่างไร” ซีซีเริ่มจะหมดความอดทน ต่อให้อยู่ในมิติเพียงลำพังยังดีเสียกว่าที่นั่งอึดอัดเช่นนี้
“ข้าเข้าใจ เรื่องนี้ข้าจะพูดกับท่านแม่เอง เจ้าทำอาหารได้หรือไม่”
“ได้ ท่านไปเถิด” ซีซีโบกมือไล่หลี่หยวน
นางคิดไว้ว่าพรุ่งนี้นางจะต้องหาเรือนเพื่ออยู่ให้ได้
ซีซีนางลงมือทำอาหารด้วยตนเอง ทั้งยังนำเครื่องปรุงและวัตถุดิบที่อยู่ในมิติออกมาใช้ กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้มีมากถึงห้าอย่าง ทั้งยังส่งกลิ่นหอมไปถึงสองแม่ลูกที่นั่งคุยกันอยู่ด้านนอก
