ฉันมาเพื่อทำภารกิจ
ซีซีเดินไปนอนลงบนเตียง นางมองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย นางคิดว่าเพื่อนที่นางที่สามารถพูดคุยได้มีเพียงหลี่หยวนผู้เดียว แต่สิ่งที่นางลืมไปคือ นางมาที่นี่เพื่อจะเปลี่ยนชะตาของเขา มิใช่มาหาสหาย
“ใช่แล้ว ฉันมาเพื่อทำภารกิจ เมื่อจบลง ฉันก็จะกลับไปที่โลกเดิม ที่นี่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเธอซีซี” นางพูดกับตัวเองเบาๆ
หลี่หยวนไม่เห็นถึงความผิดปกติในเรื่องนี้ เพราะเขาแยกประสาทเพื่อฟังทั้งสองทางพร้อมกันไม่ได้ จึงได้บอกให้ซีซีนางหยุดพูดก่อน ประโยคสุดท้ายที่นางพูดเขาก็ไม่ทันฟัง แต่กลับตอบรับว่า ใช่ ไปเสียอย่างนั้น
ซีซีเมื่อนอนครุ่นคิดเรื่องทั้งหมดได้แล้ว นางก็ลุกขึ้นไปเตรียมตัว เพื่อรายงานผลทั้งหมดที่นางทำหน้าที่มาได้ห้าวันแล้ว
“ระบบซาน รายงานของคุณมา”
ซีซีรายงานเรื่องที่นางช่วยให้หลี่หยวนมีเงิน จนตอนนี้เขาคิดที่จะทำการค้า และเมื่อมารดาของเขาหายดี เขาจะไปเรียนที่สำนักศึกษา
“คุณทำหน้าที่ได้ดีมาก ทางองค์กรมาของขวัญจะมอบให้คุณ หากผู้ถูกเลือกของคุณสามารถสอบขุนนางได้ ทางเราจะถือว่าภารกิจของคุณเสร็จสิ้นแล้วกลับบ้านได้”
“ขอบคุณมากค่ะ” ซีซีแทบจะกรีดร้องออกมา นางกระโดดไปรอบห้องอย่างยินดี
“เดี๋ยว สอบจนเป็นขุนนางเลยหรอคะ”
“ใช่แล้ว”
“แล้วฉันต้องอยู่ที่นี่อีกกี่ปีกัน” นางร้องออกมาอย่างตกใจ
“คุณไม่ต้องกลัวเรื่องเวลา มิติของเราเวลาของคุณเดือนเพียงหนึ่งเดือนต่อที่นี่หนึ่งปีเท่านั้น”
ไม่ใช่!!! เรื่องนี้นางไม่ได้กังวล แต่ที่นางกังวลจะต้องติดอยู่เพียงผู้เดียวไปอีกกี่ปี
แล้วเมื่อไหร่ที่หลี่หยวนจะได้เป็นขุนนาง เขายังไม่แม้แต่จะเข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ
“ฉันช่วยผู้ถูกเลือกในเรื่องนี้ได้ไหม”
“ได้ โดยที่คุณไม่ต้องให้เขาทำภารกิจ”
ซีซีถอนหายใจออกมา หากต้องนำของด้านในออกมาเพื่อให้หลี่หยวน แล้วต้องให้เขาทำภารกิจอีก นางคงต้องแย่แน่ในเรื่องนี้
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“อีกหนึ่งเดือนพบกัน” สัญญาณถูกตัดไป คงเหลือเพียงซีซีที่ต้องนั่งจมอยู่กับความคิดของตนเอง
นางจะพูดเช่นไร เพื่อให้หลี่หยวนเข้าสำนักศึกษา และยอมที่จะเข้าร่วมการสอบขุนนาง โดยเร็วที่สุด
“ว่าแต่ มันต้องสอบกี่รอบกันถึงจะได้เป็นขุนนาง” เพราะในโลกของนาง ปี ค.ศ.2526 มีการสอบเพื่อเลื่อนระดับชั้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องมีการสอบหลายภาคการศึกษา
ซีซีจำต้องไปที่ร้านหนังสือ เพื่อหาความรู้ นางลืมถามไปเลยว่าทำให้นางถึงไม่อาจค้นหาข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ได้ หรือกลัวว่านางจะติดต่อกับโลกภายนอกได้กัน
หนังสือประวัติศาสตร์ถูกนำมากองวางอยู่ตรงหน้าของซีซี เมื่อเปิดดูเรื่องของการสอบในยุคจีนโบราณ หนังสือในมือก็ร่วงหล่นพื้นทันที เมื่อนางอ่านจบ
“บ้าไปแล้ว สอบซิ่วไฉมีทุกปี แต่ไม่รู้จะสอบผ่านในครั้งแรกไหม สอบจวี่เหรินสามปีมีครั้ง จิ้นซื่อสอบรอบสุดท้ายก็สามปีครั้ง”
แล้วนางจะไปรู้ได้อย่างไรว่า จะมีการเปิดสอบเมื่อไหร่ ในตอนนี้ซีซีนางยังไม่อยากพูดคุยกับหลี่หยวนมากนัก เพราะคำพูดที่เขาต่อว่านาง นางยังโกรธเคืองไม่หาย ได้แต่เก็บตัว หาหนังสือที่บอกถึงแนวทางในการสอบแต่ระดับอย่างตั้งใจ
หลี่หยวนจัดการเรื่องซื้อคนเรียบร้อยเขาก็พาคนมาที่ร้านค้าที่เขาซื้อไว้ ด้านหลังของร้านค้ามีเรือนขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ พอจะให้คนเกือบยี่สิบคนเข้าพักกันได้อย่างสบาย
เขายังให้ขอทานกระจายข่าวเรื่องที่เขาซื้อร้านค้าไว้แล้ว หากมีเรื่องใดที่ต้องการจะส่งข่าวให้มาติดต่อที่คนของเขาได้ทันที
ระหว่างทางจะออกจากประตูเมืองเพื่อกลับเรือน หลี่หยวนพบเจอคุณหนูสี่ตระกูลกง กงเจียลี่ เขาแสร้งทำเป็นเดินไม่มองทางจนไปชนเข้ากับนาง
“ขออภัยแม่นาง ข้ามัวแต่สนใจเรื่องอื่นจนเดินชนเจ้า”
เจียลี่ในตอนแรกนางก็ไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นใบหน้าของหลี่หยวนที่ละม้ายคล้ายคู่หมั้นของนาง แต่กลับมีเสน่ห์ชวนมองมากกว่าก็ยื่นนิ่งมองอย่างตื่นตะลึง
“มิเป็นไรเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบเสียงหวาน เมื่อสาวใช้สะกิดนางให้รู้สึกตัว
“เจ้าเป็นอันใดหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”
“ประเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ ท่านนามว่าอันใดเจ้าคะ” นางเอ่ยถามอย่างร้อนใจ เพราะกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าเขาอีกแล้ว
สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้างดึงรั้งแขนเสื้อของคุณหนูตน เพราะกลัวจะมีผู้ใดมาพบเข้า แล้วนำเรื่องนี้ไปบอกคุณตระกูลเหอ
“ข้า จางหลี่หยวน แล้วเจ้าเล่า” เขายกยิ้มออกมา เพียงรอยยิ้มที่ส่งมาให้นางก็ทำให้เจียลี่เขินอายจนใบหน้าแดงก่ำ
“ข้า กงเจียลี่เจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบรับเสียงหวาน
“หากไม่มีอันใด ข้าขอตัว” หลี่หยวนเพียงแค่โยนเหยื่อล่อให้นางตกลงมาในหลุมที่เขาขุดไว้เท่านั้น เมื่อได้สิ่งที่ต้องการเขาก็เดินจากไปทันที
