บทที่ 3 หมายพลิกชะตานางร้ายแสนอนาถา (1/2)
เรื่องเพลิงไหม้ในวันนั้นไม่สามารถจับมือผู้ใดดมได้ บรรดาบ่าวรับใช้ในห้องครัวต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดจากอุบัติเหตุ ดูเหมือนคุณหนูหลานซินและคุณหนูจื่ออี๋ประสงค์ดีอยากช่วยแบ่งเบา จึงขันอาสาจัดแจงของว่างอยู่ในครัว คาดไม่ถึงว่าคุณหนูทั้งสองไม่มีผู้ใดชำนาญการทำอาหารสักนาง เพียงหยิบโน่นจับนี่ทุกอย่างก็แทบวอดวาย โดยเฉพาะคุณหนูหลานซิน นางไม่สันทัดเรื่องละเอียดอ่อนทำนองนี้เอาเสียเลย ทว่าอุตริอยากออกหน้าเพียงเพราะเห็นคุณหนูจื่ออี๋เข้ามาก็เพียงเท่านั้น
อุบัติเหตุจึงบังเกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัว เมื่อคุณหนูหลานซินและคุณหนูจื่ออี๋แย่งน้ำมันกัน ทำให้ของเหลวหกเลอะพื้น บ่าวรับใช้ที่อยู่ในนั้นไม่กี่คนต่างตกใจจนหน้าถอดสี บางคนปลีกตัวออกมาเพื่อไปรายงานผู้เป็นนายยังห้องโถงใหญ่ ทว่าบางคนออกหาอุปกรณ์เพื่อทำความสะอาด ผู้ใดจะทันคาดคิด เมื่อหวนมายังห้องครัว เปลวเพลิงกลับลุกลามไปทั่วทั้งห้องจนเกินเยียวยาเสียแล้ว ซ้ำร้ายคุณหนูทั้งสองยังติดอยู่ด้านในอีกด้วย
คำให้การของบ่าวรับใช้ทั้งจวนล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้โม่จ้าวหยวนไม่อาจปรักปรำผู้อื่นส่งเดช ทุกอย่างกระจ่างชัด คำตัดสินถูกปัดให้กลายเป็นอุบัติเหตุอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าโม่จ้าวหยวนไม่อาจแสร้งหลับหูหลับตา เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าคุณหนูหลานซินเป็นเพียงผู้ประสบเหตุร่วมด้วยเท่านั้น
"คุณหนูท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ" ถิงถิงเอ่ยหน้าตื่นเมื่อพบว่าหลี่หลานซินนอนไม่กระดิกตัวเลยสักนิด
จู่ ๆ ขาเรียวพลันวาดโค้งกลางอากาศ หลี่หลานซินลุกพรวดขึ้นนั่ง พลางสะบัดศีรษะไปมา นางกวาดสายตามองโดยรอบแล้วจึงพ่นลมหายใจอ่อน ใบหน้างามห่อเหี่ยวสิ้นหวัง
"ไม่ได้ฝันสินะ"
ถิงถิงเบิกตากว้าง "คุณหนู ทำอะไรเจ้าคะ ไฉนเป็นสาวเป็นนางจึงกางแขนกางขาเช่นนั้นเล่า แล้วนี่ท่านหายดีแล้วหรือ"
หลี่หลานซินยู่หน้า ร่างบอบบางทิ้งกายลงบนฟูกนอนราวหมดอาลัยตายอยาก นัยน์ตาจ้องมองเพดานเลื่อนลอย กล่าวเสียงเนิบนาบ "ถิงถิง ข้าไม่เป็นไร แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าคุณหนูจื่ออี๋เป็นอย่างไรบ้าง"
"ตอนนี้คุณหนูจื่ออี๋ไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ เห็นว่าคุณชายโม่ถึงกับไปขอโทษนางด้วยตนเองถึงจวน ทว่าจวนเรากลับ..." กล่าวถึงตรงนี้ก็ได้แต่อ้ำอึ้ง ปากหนักประดุจถูกก้อนหินถ่วงดุล
"เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ข้ารู้น่า" หลี่หลานซินพลิกกายมองบ่าวของตน นางยิ้มแฉ่งราวไม่รู้สึกรู้สาใด "ไม่เห็นเป็นไรเลย เขาสองคนคู่กันอยู่แล้ว ข้าว่ามีชีวิตให้สนุกไปวัน ๆ ดีกว่าเป็นไหน ๆ"
"หา..." ถิงถิงงงงัน
โดยปกติหากหลี่หลานซินทราบว่าคุณชายโม่ให้ความสำคัญกับคุณหนูจูจื่ออี๋มากกว่า ป่านฉะนี้นางต้องอาละวาดเสียจนบ้านแตก แม้แต่เสาสักต้น คงเรียกว่าพังครืนไม่เหลือหลอ ทว่าหลังจากเรื่องไฟไหม้เมื่อวันก่อน กลับทำให้หลี่หลานซินนิสัยพลิกกลับจากหลังมือเป็นหน้ามืออย่างน่าเหลือเชื่อ
"เจ้าทำหน้าเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร"
"เอ่อ...ปะเปล่าเจ้าค่ะ แล้วคุณหนูไม่ชอบคุณชายโม่แล้วหรือเจ้าคะ" ถิงถิงกะพริบดวงตาถี่ นิ้วมือหมุนวนขึ้นลงด้วยความประหม่า หากอยู่ ๆ กล่าววาจาไม่รื่นหูหลี่หลานซินขึ้นมา นางคงถูกตวาดเสียจนหัวหดแน่ หรือไม่ก็อาจได้แผลแตกยับบนหน้าผากสักสองสามรอย จากการขว้างปาข้าวของเพื่อระบายอารมณ์
หลี่หลานซินงุนงง นางครุ่นคิดชั่วครู่แล้วจึงเข้าใจ "อ้อ...ข้าว่านะคุณชายโม่ไม่เห็นมีอะไรดี นอกจากหน้าตา อย่างอื่นก็แย่ทีเดียว กว่าจะเป็นคนดีคงต้องให้ฮูหยินเขาดัดนิสัย"
ถิงถิงช้อนดวงตาขึ้น สีหน้าประดับไปด้วยคำถาม "ทำไมหรือเจ้าคะ อีกอย่างคุณชายโม่ยังไม่แต่งงาน จะมีฮูหยินได้อย่างไรหรือ"
หลี่หลานซินซู้ดปาก พลางยกมือขึ้นราวทำท่าขบคิด นางกวักมือเรียกถิงถิงหย็อย ๆ ถิงถิงจึงสาวเท้าไปเบื้องหน้าเนิบนาบ แขนขาสั่นเทาด้วยอาการประหวั่น
"ไอหยา ถิงถิง ชักช้าลีลา"
ท่วงท่ายืดยาดไม่ได้ดั่งใจนัก หลี่หลานซินจึงเอื้อมคว้าข้อมือของอีกฝ่าย ออกแรงลากสตรีตัวเล็กทันควัน ถิงถิงนั่งแหมะลงบนเตียงเดียวกันกับผู้เป็นนายเดี๋ยวนั้น นางถึงกับตกใจดีดกายผึงประดุจตุ๊กตาจักรกล
"คะ...คุณหนู ขออภัยเจ้าค่ะ"
"ขออภัยอะไรเล่า เจ้ามานั่งตรงนี้ ข้าจะเล่าอะไรให้ฟัง" หลี่หลานซินตบมือลงบนฟูกข้างตนเปาะแปะ
"แต่..." ถิงถิงทำท่าทีอึกอัก
หลี่หลานซินเห็นอาการลังเลชวนอึดอัดก็พลอยเสียอารมณ์ ไม้อ่อนไม่ได้ผลเช่นนั้นต้องเจอไม้แข็ง หลี่หลานซินตัดสินใจถลึงดวงตาเพื่อข่มขู่สาวรับใช้ของตนเสียเลย ผู้ใดใช้ให้เกรงกลัวนางกันเล่า
ปั๊ดโธ่เอ๊ย หลี่หลานซินเจ้านี่ช่างเป็นสตรีน่ากลัวโดยแท้เชียว
