ข้าเป็นนางร้ายที่คุณชายไม่รัก

79.0K · จบแล้ว
เทียนสื่อ
46
บท
10.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นักเขียนผู้ไม่อาจแก้ปมตอนจบของนิยายตนได้ จิตสุดท้ายจึงหลุดเข้าสู่ร่างตัวละครในนิยายเพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไป ไฉนเข้ามาทั้งทีดันเป็นนางร้ายไม่ใช่นางเอกกันเล่า ซ้ำยังเป็นสตรีที่พระเอกไม่รักเสียด้วย

นิยายจีนโบราณแต่งงานสายฟ้าแลบนางเอกเก่งข้ามมิติแฟนตาซี เศรษฐีจีนโบราณโรแมนติกแฮปปี้เอนดิ้งหนุ่มเจ้าสำราญ

บทที่ 1 ข้าเป็นนางร้ายในนิยายตัวเอง

"หยางหง ทำยังไงดีเนี่ย ทำไมคิดไม่ออกว่าควรจบแบบไหน เฮ้อ..." หลี่หยางหงกุมขมับฟุบหน้าลงบนโต๊ะราวหมดอาลัยตายอยาก

นิยายดำเนินเรื่องใกล้ถึงตอนสุดท้ายแล้ว ทว่าหลี่หยางหงกลับไม่อาจแก้ปมที่ตนผูกเอาไว้ตั้งแต่ต้นได้ นักเขียนผู้ซึ่งสมองมีคลังความรู้เพียงหางอึ่งต้องการเขียนนิยายให้จบสักเรื่องเหตุใดจึงยากเย็นแสนเข็ญนักเล่า

ครั้นจะตัดจบโดยการให้นางร้ายต้องตายอย่างสาสม หลี่หยางหงดันใจไม่แข็งพอ ต่อให้ร้ายกาจเพียงใดก็ไม่ควรมีจุดจบเช่นนี้มิใช่หรือ คนเราย่อมมีความจำเป็นที่หลงผิดไปชั่วขณะ ทว่าหากตัดสินใจเดินอยู่บนเส้นทางอันมืดมน คิดอยากหันหัวเรือกลับก็หาใช่เรื่องง่ายดายแล้ว เช่นนั้นการพลิกผันของตอนจบควรเป็นเช่นไรดีเล่า

หลี่หยางหงตระหนักนึกอยู่นานสองนาน เพราะร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนมาเป็นเวลาสองสามวันแล้วจึงเริ่มทำพิษ ความรู้สึกอ่อนเพลียหน้ามืดเกิดขึ้นไม่ทันตั้งตัว

"เวียนหัวจัง เฮ้อ...หรือนางร้ายต้องตายจริง ๆ นะ" หลี่หยางหงเอ่ยพึมพำ เปลือกตาบางเริ่มปริ่มปรือลงช้า ๆ สติสัมปชัญญะพลันดับวูบลงในที่สุด

.

.

"คุณหนู คุณหนู ตื่นเร็วเจ้าค่ะ"

เสียงสตรีร้องตื่นตูม พลางเขย่าร่างผู้เป็นนายซึ่งนอนหลับใหลไร้สติอยู่ข้างพงหญ้า หน้าตาของพวกนางเปรอะเปื้อนมอมแมมไปด้วยเขม่าดินดำ

เสียงใคร เราฝันเหรอ หรือว่ายังไง

แพขนตางอนขยับไหวเชื่องช้า ทันทีที่ดวงตาเบิกกว้าง ภาพเบื้องหน้าพลันปรากฏสตรีน้อยนางหนึ่งกำลังร้องห่มร้องไห้

นางแสดงสีหน้าลิงโลดดีอกดีใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายได้สติเสียที ฝ่ามือเล็กปาดน้ำตาส่ง ๆ ยิ่งเพิ่มความเลอะเทอะบนใบหน้า หลี่หยางหงตกใจลุกพรวดขึ้นทันควัน

"เธอเป็นใครน่ะ!?"

สตรีนางนั้นกะพริบดวงตาถี่ ขมวดคิ้วงุนงง "คุณหนู ถิงถิงเองเจ้าค่ะ"

หลี่หยางหงหรี่นัยน์ตา "ถิงถิง ชื่อคุ้น ๆ "

"โถ่ คุณหนู จะไม่คุ้นได้อย่างไรเจ้าคะ ในเมื่อถิงถิงคือบ่าวคนสนิทของคุณหนูนี่นา"

"หา...บ่าวคนสนิท หมายความว่ายังไง" หลี่หยางหงงุนงง

นี่เกิดอะไรขึ้นกัน อยู่ ๆ มีใครก็ไม่รู้เรียกเราว่าคุณหนู แล้วเครื่องแต่งกายแบบนี้หมายความว่ายังไง ชุดในยุคโบราณอย่างนั้นเหรอ บ้านา...หยางหง แกต้องเลอะเลือนไปแล้วแน่ ๆ

ถิงถิงมองหน้าหลี่หยางหงด้วยดวงตาใสแป๋ว ปากน้อย ๆ เริ่มเบะออก นางร้องไห้เสียงดังไม่มีปี่มีขลุ่ย

"ฮือ...ฮรึก...ฮือ คุณหนู คุณหนูจำถิงถิงไม่ได้แล้ว อย่าบอก…ฮรึก! อย่าบอกว่าคุณหนูแค่ล้มหัวฟาดพื้นเมื่อสักครู่ถึงกับความจำเสื่อมไปแล้ว ฮือ..."

หลี่หยางหงตกใจสะดุ้งโหยง นางยิ้มแหย "เอ่อ...เอ่อ...หยุดร้องก่อนได้หรือเปล่า คือว่า ที่นี่คือที่ไหนเหรอคะ"

ถิงถิงสะอึกสะอื้นปาดน้ำตาลวก ๆ แล้วจึงพยายามกล่าวอธิบาย "คะ...คุณหนู ที่นี่คือจวนสกุลโม่"

"จวนสกุลโม่" หลี่หยางหงขมวดคิ้ว

นางเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล นัยน์ตากวาดมองไปโดยรอบ ดูเหมือนท้องฟ้าเริ่มสาดแสงสีทองเรือง ๆ เป็นเชิงบ่งบอกถึงพระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ทว่าหลี่หยางหงกลับมานั่งอยู่ในพื้นที่รกร้างใดก็สุดจะรู้ ด้านหน้าคือสระน้ำขนาดใหญ่ นางพยายามระงับความตื่นตระหนกเอาไว้ เอ่ยสอบถามกระท่อนกระแท่น

"ถิงถิง ที่เรียกว่าคุณหนู ชื่อคุณหนูอะไรเหรอ"

"ฮือ...คุณหนู ว่าแล้วเชียว ทำยังไงดีเจ้าคะ หากนายท่านรู้ ถิงถิงต้องถูกโบยหลังขาดเป็นแน่"

"เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่ต้องร้อง ไม่ต้องร้อง เอาเป็นว่าช่วยบอกก่อนได้ไหม ว่าเราคือคุณหนูอะไร" หลี่หยางหงพยายามเอื้อมมือตบบ่าอีกฝ่ายเพื่อเป็นการปลอบประโลม

"คุณหนูมีนามว่า หลี่หลานซินเจ้าค่ะ"

"หลี่หลานซิน!" หลี่หยางหงโพล่งเสียงดัง

บ้านา ต้องฝันไปแล้วแน่ ๆ

ถิงถิงตกใจสะดุ้งตัวโยน

"คุณหนู ตกใจอะไรเจ้าคะ หากเสียงดังจะถูกคุณชายโม่จับได้นะเจ้าคะ"

หลี่หยางหงหูดับไปเสียแล้ว หลี่หลานซินนี่ไม่ใช่ชื่อนางร้ายในนิยายของตนหรอกหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร ตนต้องฝันอยู่แน่นอน ฉุกนึกได้เช่นนั้น นางจึงยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองไปหนึ่งฉาด

เพียะ!

หลี่หยางหงหน้าหันตามแรงฟาดของตน ร่างกายพลันแข็งทื่อขึ้นมาเดี๋ยวนั้น ทว่าผู้ที่ตกใจยิ่งกว่าคงหลีกไม่พ้นสาวใช้ถิงถิง สีหน้าลนลานจนแทบทำตัวไม่ถูก

"คุณหนู! ทำอะไรเจ้าคะ หน้าแดงหมดแล้ว"

ถิงถิงกุลีกุจอจับข้อมือของหลี่หยางหงเอาไว้ จะกล่าวให้ถูกเวลานี้ควรเรียกนางว่า หลี่หลานซินเสียมากกว่า

"ถิงถิง ช่วยบอกเราทีว่านี่ไม่ใช่ฝัน" หลี่หยางหงในร่างของหลี่หลานซินนั่งเหม่อลอยไปชั่วขณะ

เมื่อสักครู่นางลงมือฟาดข้างแก้มของตน มันเกิดความรู้สึกเจ็บมาก เจ็บเสียจนหน้าชา คาดว่าแก้มขวาคงบวมเป่งไปแล้วเป็นแน่

"คุณหนู นี่ไม่ใช่ฝันนะเจ้าคะ นี่คือเรื่องจริง อีกอย่างตอนนี้เราต้องหนีแล้วเจ้าค่ะ"

"หนี? เราต้องหนีอะไร" หลี่หยางหงขมวดคิ้วงุนงง

"หนีคนของคุณชายโม่อย่างไรเจ้าคะ หากคุณชายจับได้ว่าคุณหนูวางแผนทำร้ายคุณหนูจูจื่ออี๋มีหวังเกิดเรื่องใหญ่แน่เจ้าค่ะ"

"คุณหนูจูจื่ออี๋?" หลี่หยางหงครุ่นคิด "นะ...นางเอกเหรอ อย่าบอกว่าตอนนี้นางถูกไฟคลอกไปแล้ว"

ดั่งกระแสอสนีบาตฟาดลงกลางกระหม่อม อย่าได้บอกเชียวว่านางเข้ามาในนิยายของตัวเองที่ไม่รู้ว่าตอนจบควรเป็นอย่างไร ซ้ำร้ายตนไม่ได้เข้ามาในร่างของนางเอก ทว่ากลับเป็นนางร้าย มาถูกจังหวะการทำชั่วของหลี่หลานซินตัวจริงเสียด้วย แล้วเยี่ยงนี้นางจะถูกพระเอกจับแล่เนื้อเถือหนังหรือไม่เล่า

ถิงถิงกะพริบดวงตาถี่ "นางเอกอะไรเจ้าคะ คุณหนูถ้าคุณหนูพอจำได้บ้างแล้วรีบหนีเถอะเจ้าค่ะ หากคุณชายโม่จับได้ว่าเพลิงไหม้เป็นแผนการของคุณหนู แย่แน่ ๆ เจ้าค่ะ"

ซวยแล้ว ความบรรลัยมาเยือน เข้ามาตอนไหนไม่เข้า ดันเป็นช่วงที่หลี่หลานซินลอบวางเพลิงเพื่อฆ่านางเอกที่จวนสกุลโม่เนี่ยนะ

"ถิงถิงใจเย็นไว้ เจ้าอย่ากระโตกกระตาก ข้ารู้แล้ว รู้แล้ว คุณชายโม่ที่เจ้าว่าหมายถึงโม่จ้าวหยวน ใช่หรือไม่"

ถิงถิงพยักหน้าหงึกหงัก

นั่นปะไร ชื่อบุคคลและเหตุการณ์ลงตัวถึงเพียงนี้จะบอกว่าเป็นละครปาหี่ก็บ้าไปหน่อยแล้วกระมัง

หลี่หยางหงพยายามระงับสติและปลอบประโลมสาวใช้คนสนิทไม่ให้กระโตกกระตาก สติมาปัญญาย่อมเกิด หากสติเตลิดย่อมเกิดปัญหาแน่ หลี่หยางหงสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ

แค่ก แค่ก

ทว่าฝุ่นควันมากนัก นางจึงสำลักเสียจนใบหน้าเขียวคล้ำ

บัดซบ! แค่จะตั้งสติยังมีอุปสรรค สวรรค์รังแกกันเห็น ๆ

"คะ…คุณหนู เป็นอะไรเจ้าคะ" ถิงถิงรีบเอื้อมมือลูบหลังให้นางมือเป็นระวิง หลี่หยางหงส่ายศีรษะไปมา

"มะ…ไม่เป็นไร ข้าโอเค"

"โอเค?…คืออะไรเจ้าคะ"

"ช่างเถิด ๆ ไว้อธิบายคราวหน้าแล้วกัน"

แม้ความจริงอาจเชื่อได้ยากว่าตนข้ามมิติเข้ามาในนิยายที่ตัวเองกำลังแต่งอยู่ ทว่าหลี่หยางหงไม่มีเวลาให้คิดมากนัก วันนี้คงเป็นงานชมผ้าทอนำเข้าใหม่ของจวนสกุลโม่เป็นแน่ ภายในงานมีการเชิญบรรดาเศรษฐีและขุนน้ำขุนนางใหญ่โตมาร่วมมากมาย เกรงว่าเหตุการณ์เพลิงไหม้เกิดขึ้นตอนที่คุณหนูจูจื่ออี๋เข้าครัวเพื่อช่วยจัดอาหารว่าง แล้วหลี่หลานซินลอบปิดประตูวางแผนเผานางทั้งเป็นแน่แล้ว

หากนางกลับไปยังจวนตระกูลหลี่จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในทันที ทว่าหากหลี่หลานซินอยู่ในกองเพลิงเช่นเดียวกันอาจมีหนทางรอดได้บ้าง ถึงตอนนี้คงต้องวางเดิมพันเสียแล้วล่ะ ว่าหลี่หลานซินตัวปลอมผู้นี้จะเอาตัวรอดจากวีรกรรมของหลี่หลานซินตัวจริงได้หรือไม่

"เอาล่ะ ถิงถิง เจ้าบอกข้ามาว่ามีคนเข้าไปช่วยคุณหนูจื่ออี๋สำเร็จแล้วหรือยัง"

"คะ...คุณชายโม่น่าจะช่วยนางออกไปได้แล้วเจ้าค่ะ แต่ดูเหมือนทุกคนกำลังวุ่นวายดับไฟกันอย่างอลหม่าน" ถิงถิงกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล

"เจ้าไปบอกท่านพ่อข้า ว่าข้าติดอยู่ในกองเพลิง"

"หา...คุณหนู จะทำอะไรเจ้าคะ" ถิงถิงเบิกตากว้าง

"ไม่มีเวลาให้คิดแล้ว เจ้ารีบไป ข้าจะย้อนไปที่ห้องครัว"

"คุณหนู ไม่ได้นะเจ้าคะ มันอันตรายมาก ดีไม่ดี..." ถิงถิงกุมมือนายของตนเอาไว้ ส่ายหน้าเป็นพัลวัน

ช่วงเวลานี้คือความเป็นความตายของตัวร้ายอย่างหลี่หลานซินเลยก็ว่าได้ นางไม่อาจหันหลังกลับมีเพียงเดินหน้าต่อเท่านั้น หากเลือกกระโจนเข้ากองไฟอีกราย ข้อสงสัยอาจถูกปัดตกไป ถึงแม้เพียงเสี้ยวเดียวก็ตามที ทว่าหนนี้หลี่หยางหงคงต้องเอาตัวรอดและกลับไปตั้งหลักก่อน หากเป็นเรื่องอัศจรรย์พันลึกจริง ไว้ค่อยหาหนทางแก้ไขอีกครา

"เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้า รับรองว่าเราจะรอดด้วยกันทั้งคู่"

ถิงถิงสะอึกสะอื้น "ตะ…แต่ แต่ คุณหนู เจ้าคะ"

"ไม่ต้องแต่แล้ว"

กล่าวจบหลี่หยางหงจึงผละกายออกไปเดี๋ยวนั้น ถิงถิงไม่มีทางเลือกนางร้องไห้โฮอีกครา เมื่อตั้งสติได้แล้วถิงถิงจึงเร่งถลันกาย วิ่งโผเผล้มลุกคลุกคลานมุ่งหน้าไปยังห้องโถงใหญ่ของจวนสกุลโม่ตามคำสั่งของผู้เป็นนายด้วยจิตใจไหวระทึก