บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 อิ่มทั้งพ่อทั้งลูก [2]

ชายหนุ่มสะพายกระเป๋าผ้าเตรียมพร้อมเข้าป่า คิดว่าจะรีบไปรีบกลับ เพราะถึงยามสายจะเป็นช่วงเวลาที่หนิงหลันมักจะไม่อยู่บ้าน รั่วเอินก็จะต้องถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว

“เดี๋ยวก่อน ท่านเอานี่ไปด้วยสิ” หนิงหลันยื่นยัดห่อผ้าลงกระเป๋า พลางมองไปที่ไม้ค้ำยันและขาด้านซ้ายของไคเฉิง นางอยากจะถามถึงอาการบาดเจ็บของเขา สุดท้ายเปลี่ยนใจไม่พูดอะไรหันหลังกลับเข้าบ้านไป

ชายหนุ่มดวงตาวูบไหว เป็นเพราะเขาพิการขาไม่สมประกอบถึงได้แสดงท่าทางสมเพชปานนั้น หากเลือกได้เขาก็ไม่อยากเป็นเช่นนี้เหมือนกัน สายตามองมาที่ขาเขาเมื่อครู่มันช่างเสียดแทงใจนัก คิดเอาไว้ว่ารอบุตรสาวโตสักหน่อยจากนั้นค่อยหย่าให้นางเป็นอิสระ

ไคเฉิงไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองอ่อนไหวกับสายตาคู่นั้นมากแค่ไหน สู้ให้นางด่าทอเสียยังดีกว่ามองมาที่เขาด้วยความสมเพชเวทนา เขาหยิบเอาไม้ค้ำยันได้รีบเดินปึงปังออกจากบ้านไปทันที

ด้านหนิงหลันระหว่างสามีไม่อยู่บ้าน นางปิดประตูบ้านให้แน่นหนาป้องกันคนนอกเข้ามา เมื่อแน่ใจแล้วว่าปลอดสายตาคน นางจึงอุ้มบุตรสาวพาเข้าไปในมิติวิเศษด้วยกัน

“นายท่านนั่นคือคุณหนูน้อยหรือขอรับ” ทันทีที่ผู้เป็นนายมาถึง เจ้าภูตน้อยที่คอยท่าอยู่แล้วตรงเข้าหาทันที เขาตื่นเต้นดีใจนักที่จะมีคุณหนูน้อยเพิ่มอีกคน

“ใช่แล้ว นางชื่อรั่วเอินน่ารักเหมือนข้าใช่หรือไม่” แม้จะอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย เจ้าตัวน้อยกลับไม่กลัวอะไรเลย อีกทั้งเจ้าก้อนชอบมันมาก

“แน่นอนขอรับ คุณหนูย่อมเหมือนนายท่าน”

ภูตน้อยก้อนกลมเปล่งแสงกะพริบวิบวับ รั่วเอินน้อยยกมือปัดป่ายหัวเราะคิกคักชอบใจใหญ่

“เจ้าภูต สามีข้าขาเขากระดูกหักดูท่าแล้วคงสมานกันไม่ดี พอมีทางให้เขากลับมาเดินได้เหมือนเดิมหรือไม่” นางค่อนข้างเป็นกังวล ดูเหมือนว่ายามลงแรงเขาจะรู้สึกเจ็บและทรมานไม่น้อย

“โอ้ แค่คืนเดียวมีสามีแล้วหรือขอรับ”

“อะ..อะไรเล่า เขาเป็นสามีเศษเสี้ยวของข้า ก็เท่ากับเป็นตัวข้าอยู่ดีนั่นแหละ แล้วอย่างไรมียารักษาได้หรือไม่” แก้มเนียนเริ่มซับสี เมื่อถูกภูตรับใช้ล้อเลียนให้อาย

“ได้ขอรับ นายท่านแค่ให้เขากินของจากมิติแห่งนี้ ไม่ช้าก็จะกลับมาเหมือนเดิมเอง”

“เจ้าหมายความว่าของทั้งหมดในมิตินี้เป็นยารักษาและยาบำรุงได้เช่นนั้นหรือ” เยี่ยมไปเลยถ้าให้ไคเฉิงกินไปเรื่อย ๆ อีกไม่นานก็คงหายดี

“เข้าใจถูกแล้วขอรับ”

“ดีเลย ข้าจะให้เขากินทุกวัน ต่อไปจะไม่มีผู้ใดว่าเขาเป็นคนพิการอีก”

ผักผลไม้ที่ปลูกล้วนเจริญงอกงามอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงแค่สามวันทุกอย่างโตพร้อมกินได้ หากไม่เด็ดมันออกมาจากต้นพวกมันก็จะไม่เหี่ยวเฉา

หญิงสาวเก็บผักและผลไม้กลับไปอย่างละไม่มาก เอาไปแค่พอกินเท่านั้น เรื่องของกินของใช้นางไม่เป็นห่วงเลยสักนิด แต่ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้คือคนบ้านใหญ่ คนพวกนั้นจะเอาเปรียบกันมากเกินไปแล้ว

คนเหล่านั้นวัน ๆ เอาแต่กินกับนอน ให้คนขาพิการทำงานหาเลี้ยงอยู่คนเดียว ทำราวกับว่าไคเฉิงไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เป็นบ่าวรับใช้เสียมากกว่า หนิงหลันพยายามคิดหาวิธีทำอย่างไรถึงจะพาไคเฉิงและลูก หลีกหนีออกมาได้โดยที่ไม่ต้องเสียอะไร

เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาที่สามีจะกลับจากวางกับดักแล้ว หนิงหลันจึงพาบุตรสาวตัวน้อยออกจากห้วงมิติ รั่วเอินนั่นนอนตาปรือไปเสียแล้ว ด้วยถึงเวลาที่นางจะต้องนอน ทั้งก่อนหน้าเล่นกับเจ้าภูตน้อยจนหมดแรง ทำเอาเจ้าก้อนหลับไปอย่างง่ายดาย หนิงหลันใช้ช่วงเวลาที่บุตรสาวกำลังหลับ ออกมาเตรียมทำอาหารมื้อกลางวันให้สองพ่อลูก

ทางด้านไคเฉิงเขาเดินวางกับดักจนครบ ด้วยเดินมากเกินไปขาเริ่มปวดเดินต่อไม่ได้แล้ว เขาจึงนั่งพักใต้ต้นไม้ใหญ่หลังจากหายเหนื่อยแล้วค่อยเดินกลับหมู่บ้าน

ด้วยขาที่ไม่ค่อยจะดีจึงใช้เวลาในการวางกับดักค่อนข้างนาน เดิมทีเขาคิดว่าจะใช้เวลาไม่กี่ชั่วยาม รู้ตัวอีกทีตะวันขึ้นตรงหัวเสียแล้ว ในใจอดเป็นห่วงบุตรสาวไม่ได้กลัวว่าหนิงหลันจะทิ้งให้เด็กอยู่บ้านคนเดียวไม่เหลียวแล ทว่าสังขารตนเองกลับไม่ไหวเอาเสียเลย ยิ่งเดินมากความปวดก็ยิ่งทวีคูณ

“ตัดขาทิ้งเสียยังดีกว่า” ใช่เขาคิดเช่นนี้มาตลอด แม้จะมีครบทุกอย่างแต่ก็ต้องทนเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส สู้ตัดมันทิ้งเสียยังดีกว่า ถึงมีอยู่ก็เดินเหินไม่ถนัดเหมือนกันไม่ต่างอะไรกับการไม่มีมันอยู่

ในระหว่างที่กำลังนั่งนวดขาตนเองอยู่นั้น เขาเพิ่งนึกได้ว่าหนิงหลันยัดห่อผ้าใส่กระเป๋าให้ ตัวเขาเองลืมไปเสียสนิท ไคเฉิงค้นกระเป๋าผ้าคู่กายหาห่อผ้าที่ภรรยามอบให้ ครั้นเมื่อเปิดมันออก ของที่ถูกห่อมาเป็นอย่างดีทำเอาคนที่กำลังหมดอาลัยตายอยาก ยิ้มออกมาได้อย่างไม่รู้ตัว

ข้าวสวยปั้นเป็นก้อนกลม ๆ สามก้อน โรยด้วยเม็ดงาขาว และมีอะไรที่เขาไม่รู้สีเขียวเข้มเหมือนผักถูกโรยบนข้าว ข้างกันนั้นมีพุทราห้าลูก นึกไม่ถึงว่าหนิงหลันสตรีผู้เห็นแก่ตัวจนถึงขั้นเรียกว่าใจดำ นางจะยอมแบ่งปันของพวกนี้โดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน

“อืม อร่อย” ข้าวปั้นที่ถูกส่งเข้าปากไปคำแรก ตามด้วยคำที่สอง สาม และมันก็หมดภายในพริบตา ในใจได้แต่คิดว่านางทำได้อย่างไร มันอร่อยเสียจนแทบจะเผลอกลืนลิ้นลงไปด้วยทุกครั้งที่ได้กิน

หลังจากหมดข้าวปั้นสามลูกไปในเวลาอันรวดเร็ว พุทราลูกโต ๆ ถูกส่งเข้าปากตามไปติด ๆ แค่ได้สัมผัสมันทั้งกรอบทั้งหวาน พุทรานี้ก็เช่นกันหนิงหลันไปเก็บมาจากที่ใด เหตุใดถึงได้อร่อยกว่าพุทราป่ามากนัก คงไม่ใช่นางซื้อมาหรอกนะ

แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ อาการปวดขาที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ มันค่อย ๆ หายไปทีละนิด แม้จะไม่หายเจ็บไปเสียทีเดียว แต่มันเป็นความเจ็บที่ทนได้สบาย

นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel