บทย่อ
มิติคู่ขนานคือโลกหลังความตายของเธอ ริบบิ้นสาวอับโชคที่ต้องตายด้วยโรคมะเร็ง หลังจากตายจากโลกเดิมทำให้เธอได้รู้ว่า แท้จริงแล้วตนเองมีสิ่งที่พิเศษรออยู่ ภูตน้อยผู้ช่วยชั้นดี มิติวิเศษที่เนรมิตได้ทุกสิ่ง ทว่านานวันเข้าเธอเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตที่อะไรก็ได้มาง่ายจนเกินไป เมื่อทุกอย่างมันดูน่าเบื่อ เธอจึงตัดสินใจทำภารกิจบางอย่าง โดยการรับบทเป็นมารดาและภรรยาที่ต้องดูแลสามีขาพิการไปพร้อมกับบุตรสาววัยแบเบาะ แวบแรกที่ได้พบรั่วเอินบุตรสาวตัวน้อยวัยกำลังน่ารักเธอได้ตกหลุมรักในทันที มีหรือหนิงหลันผู้มีภูมิหลังเรื่องครอบครัวจะตัดใจทิ้งได้ลงคอ ส่วนสามีน่ะหรือเขาช่างเป็นคนดีเกินกว่าจะทิ้งไปได้เช่นกัน แม้ตัวเขาขาพิการฐานะยากจนอดมืิ้อกินมืิ่อก็ตาม ทว่ากลับไม่เคยย่อท้อ กัดฟันสู้ทนเพื่อให้ลูกเมียได้กินอิ่มนอนหลับ บุรุษแสนดีเช่นนี้นางจะทิ้งได้อย่างไร....
บทที่ 1 มีพบก็ย่อมมีจากเป็นธรรมดา
“คนไข้คะ ถึงเวลาต้องให้คีโมแล้วค่ะ” คุณหมอสาวคนสวยเข้ามารับตัวคนไข้ที่อยู่ในความดูแล หมอสาวค่อนข้างสนิทสนมกับผู้ป่วยมะเร็งคนนี้เป็นอย่างดี นั่นก็เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยปีหนึ่ง
“อ้าว ออกเวรไปแล้วไม่ใช่หรือโม เรานึกว่าหมอคนอื่นจะมาแทนเสียอีก” เมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคยริบบิ้นรีบวางหนังสือลงทันที ร่างผอมบางขยับขึ้นพิงหัวเตียงพร้อมกับยิ้มหวานให้เพื่อนสนิท
“หน้าที่หมอน่ะหมดไปแล้ว แต่หน้าที่เพื่อนน่ะขาดไม่ได้ย่ะ” โมจีบปากจีบคอพูดติดตลก ขณะเดียวกันเธอได้จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการให้คีโมไปด้วย
ความเป็นจริงจะให้หมอท่านอื่นมาทำแทนก็ได้ แต่สำหรับโมเธออยากจะอยู่ในทุกช่วงเวลาที่เพื่อนยังมีชีวิตอยู่ อยากให้ริบบิ้นรู้ว่าบนโลกใบนี้จะมีเพื่อนอย่างเธออยู่เคียงข้างเสมอ และจะทำทุกวิถีทางให้ริบบิ้นหายจากโรคร้ายให้ได้
“นี่ถ้าเราทำโล่เพื่อนดีเด่นได้ เราทำให้ไปแล้วนะเนี่ย” คนป่วยหัวเราะคิกคัก ไม่อยากพูดคำซึ้ง ๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนรักจะต้องเศร้าและเสียน้ำตา
“ทนเจ็บนิดหนึ่งนะ” หลังจากรู้ว่าริบบิ้นเป็นมะเร็งระยะที่สอง โมไม่เคยนิ่งนอนใจ พยายามหาข้อมูล ปรึกษาอาจารย์หมอฝีมือดี คอยดูแลให้กำลังใจอีกฝ่ายมาตลอด
ทว่าสิ่งที่โมพยายามตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ ดูเหมือนจะไม่เป็นผลแต่อย่างใด มะเร็งได้ลุกลามเร็วกว่าที่คิดและเคมีบำบัดไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร ครั้งนี้จะเป็นการให้คีโมครั้งสุดท้าย ถ้าเกิดว่าผลออกมายังเหมือนเดิมเท่ากับว่าเพื่อนของเธอไม่สามารถใช้ยาในการรักษาได้แล้ว
นอกจากใช้ยา การผ่าตัดคืออีกทางเลือกหนึ่ง หากแต่การลุกลามของมะเร็งมันเกินกว่าจะทำเช่นนั้นได้ หลังจากให้คีโมได้ไม่นานผลกระทบจากการใช้ยา ทำให้ผมที่เคยยาวสลวยค่อย ๆ ร่วงจนต้องโกนทิ้ง อาเจียน และเบื่ออาหาร ร่างกายเริ่มผ่ายผอมลงเรื่อย ๆ
“ไม่เป็นไรเราชินแล้ว ไม่เจ็บสักนิด” ใช่ มันไม่เจ็บเลยถ้าเทียบกับผลข้างเคียงหลังจากให้คีโม
ริบบิ้นและโมเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เริ่มเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง โมเป็นลูกสาวผู้อำนวยการโรงพยาบาลชื่อดัง ส่วนริบบิ้นฐานะทางบ้านค่อนข้างขัดสน กว่าจะดิ้นรนขอทุนเรียนโรงเรียนดี ๆ ได้ก็เกือบจะหมดหวัง ทั้งทำงานพาร์ตไทม์หลังเลิกเรียน เลิกงานต้องมานั่งทบทวนบทเรียนจนดึกดื่นทุกวัน เพื่อให้ผลคะแนนสอบออกมาดีที่สุด
ถึงแม้ว่าฐานะของทั้งสองจะแตกต่างกันมาก แต่มันกลับเป็นอะไรที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ริบบิ้นสอนให้คุณหนูอย่างโมรู้จักการใช้ชีวิตและรู้จักอดทน อีกทั้งโมยังมองว่าเพื่อนคนนี้คือแบบอย่างที่ควรจะเป็น ส่วนโมนั้นแม้ทางบ้านจะร่ำรวยมหาศาล แต่เธอไม่เคยดูถูกดูแคลนผู้ที่ด้อยกว่า ขณะเดียวกันเธอกลับคอยปกป้องริบบิ้นในแบบฉบับของเธอเอง
หลังจากเรียนจบทั้งสองยังคงติดต่อกันเรื่อยมา ถึงแม้ต่างคนต่างมีหน้าที่การงานของตัวเองก็ตาม ริบบิ้นมุ่งมั่นไปกับการสอบเข้ารับราชการ เพราะเห็นว่ามีสวัสดิการที่ดีให้ตัวเธอได้ แต่ถึงจะเรียนเก่งหัวดีแค่ไหนก็ต้องแพ้ให้กับเด็กเส้นอยู่ดี เธอจึงได้เป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว
การเป็นแค่ลูกจ้างทำให้เงินเดือนที่ได้ไม่พอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เธอจึงต้องขายออนไลน์ควบคู่ไปด้วย แต่เมื่ออะไร ๆ กำลังไปได้ด้วยดี เธอกำลังจะเก็บเงินซื้อบ้านที่ใฝ่ฝันมาตลอด แต่ก็ต้องหยุดทุกอย่างต้องลาออกจากงาน ใครจะไปคิดว่าคนที่แข็งแรงมาตลอด กลับตรวจพบมะเร็งปอดระยะที่สอง
ถ้าตอนนั้นโมไม่บังคับให้เธอตรวจสุขภาพ ก็จะไม่รู้เลยว่าตนเองมีโรคร้ายที่กำลังบั่นทอนชีวิตของเธอไปทีละนิด ๆ
ถึงจะรู้ตัวเร็วทว่าร่างกายกลับไม่ค่อยตอบรับการรักษาสักเท่าไร และดูเหมือนว่ายิ่งรักษาอาการก็ยิ่งทรุดลงไปเรื่อย ๆ
“ขอบคุณนะโม ถ้าไม่มีโมเรานึกไม่ออกเลยจะเป็นยังไง อาจจะตายไปแล้วก็ได้” ทั้งค่ายาค่ารักษาพยาบาลและอีกหลายอย่าง เป็นโมที่คอยเป็นธุระให้ทั้งหมด ลำพังตัวเธอคนเดียวคงไม่มีปัญญารักษาตัวในโรงพยาบาลดี ๆ แบบนี้ได้
“พูดอะไรยะ เราเสียเงินเสียแรงไปตั้งเท่าไร เธอต้องตอบแทนเราด้วยการกลับมาแข็งแรงนะรู้ไหมยัยริบบิ้นเน่า” ฉายาริบบิ้นเน่าโมเป็นคนตั้งให้เพื่อนเอง มันมาจากริบบิ้นผูกผมเก่าๆ ที่แม่ของริบบิ้นทิ้งไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะทิ้งลูกสาวให้ใช้ชีวิตตามลำพัง ส่วนตัวเองหนีไปเสวยสุขกับสามีใหม่ ถ้าหากเป็นเธอก็คงจะจุดไฟเผาไอ้ริบบิ้นชิ้นนั้นไปแล้ว ไม่เก็บไว้เป็นความทรงจำเน่า ๆ ในชีวิต
“แล้วถ้าเกิดว่าเรา...” เธอรู้ตัวดีว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน ริบบิ้นมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย เธอยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ
“ไม่เอาไม่พูดกันเรื่องนี้แล้ว ว่าแต่กำลังอ่านอะไรอยู่อะ สนุกไหม” โมเองไม่อยากให้เพื่อนเป็นกังวลพานจะเสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเสียเพื่อให้เพื่อนสาวลืมความทุกข์ใจ
“นิยายแปลจีนโบราณน่ะ สนุกมากแต่เสียดายเรื่องนี้ยังไม่จบเลย นางเอกสู้ชีวิตมากเหมือนเราเลย โมลองเอาไปอ่านดูไหม” เธอเป็นคนชอบอ่านนวนิยายมาก ระหว่างต้องนอนพักรักษาตัวก็ได้หนังสือนิยายพวกนี้แหละคอยเป็นเพื่อนคลายเหงา
“ไม่เอาอะ เราอ่านไม่รู้เรื่องหรอก” ระหว่างคุยโมชอปปิงออนไลน์ ค้นหาหนังสือให้เพื่อนรักไปด้วย เธอเองก็ไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่กับริบบิ้นนานนัก อาชีพหมอมีเวลาส่วนตัวน้อย สิ่งที่ทำให้เพื่อนได้ก็คงจะเป็นการหาของที่เพื่อนชอบได้เท่านั้น
“โมสัญญากับเรานะ ถ้าเราไม่อยู่แล้วโมจะไม่เสียใจนาน แค่คิดถึงเราก็พอแต่อย่าร้องไห้ทุกข์ใจ เราไม่อยากให้โมร้องไห้” สุดท้ายสิ่งที่ริบบิ้นไม่อยากพูดก็หลุดออกจากปากเธอจนได้ เพราะกลัวว่าวันหนึ่งอาจจะไม่มีโอกาสได้สั่งเสีย
“ไม่เอาไม่พูดแบบนั้นสิ เธอต้องหาย” โมเองก็สุดจะทน เธอปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย หากว่าริบบิ้นไม่ติดการให้ยา เธอก็คงจะโผเข้ากอดเพื่อนไปแล้ว
“สัญญากับเรานะ อย่าทุกข์ใจเพราะเรา ความตายไม่ใช่เรื่องแย่สักหน่อยไม่ต้องเจ็บปวด ไม่ต้องโดนเข็มแทง เรารักโมนะ ดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกัน”
“เราก็ดีใจที่ได้รู้จักเธอ เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ฮือออ”
สองสาวเพื่อนรักแข่งกันร้องไห้ หนึ่งคนยังรับความจริงไม่ได้ อีกหนึ่งกลับปล่อยวางทุกสิ่งลงแล้ว ยึดติดไปตายไปแล้วก็ไม่ได้อะไร บนโลกใบนี้มีพบก็ต้องมีจากไม่มีอะไรเป็นนิรันดร์ คนที่จากไปหลุดพ้นจากวงจรทั้งปวง จะเป็นห่วงก็แต่คนที่อยู่ต่อก็เท่านั้นที่ต้องทนทุกข์กันต่อไป
หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน อาการของริบบิ้นก็ทรุดลงเรื่อย ๆ การใช้เคมีบำบัดไม่ได้ผลอีกต่อไป วันที่โมไม่อยากให้มาถึงทว่ามันกลับเร็วเกินกว่าจะตั้งรับได้
คืนหนึ่งบุรุษพยาบาลเร่งเข็นรถเข็นส่งตัวผู้ป่วยเข้าไอซียู แม้คุณหมอประจำตัวคนไข้พยายามจนสุดฝีมือแล้ว แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตต่อไปได้
ริบบิ้นที่กำลังจะหมดลมหายใจ เธอได้ยิ้มให้เพื่อนสนิทที่เธอรักที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนสัญญาณชีพบนหน้าจอกลายเป็นเส้นตรงไปตลอดกาล
โมถึงกับเข่าทรุด เพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ งานพิธีศพของริบบิ้นโมเป็นทั้งแม่งานและเจ้าภาพ จัดการเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนรักอย่างเหมาะสม เหลือไว้เพียงรูปถ่ายหนึ่งใบใส่กรอบรูปไว้เป็นอย่างดี เก็บเอาไว้ระลึกถึงเพื่อนรักในยามคิดถึงกัน

