บทที่ 16 เพื่อนรัก เพื่อนร้าย [1]
รุ่งเช้าไคเฉิงตื่นมาพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข เขาเองก็อยากนอนต่อเป็นหมอนข้างให้หนิงหลันนอนกอด แต่ว่าถ้าไม่รีบลุกหากสายไปมากกว่านี้งานที่ทำไว้จะเสร็จไม่ทัน จึงจำใจต้องลุกจากเตียงด้วยความเสียดาย
ชายหนุ่มทำงานสวนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หลังจากทำรั้วกั้นเสร็จ ดินที่ถูกขุดเป็นก้อนใหญ่ไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เช้านี้เขาจึงมาทุบให้ดินแตกละเอียดพร้อมกับเกลี่ยหน้าดินให้เสมอกัน เตรียมให้พร้อมสำหรับการปลูกผักพรุ่งนี้
พื้นที่กว่าสองงานไม่ใช่น้อย ๆ ไคเฉิงสามารถจัดการคนเดียวได้อย่างสบาย ทว่าหลังจากทำแปลงผักได้ครึ่งหนึ่งก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อสหายทั้งสองมาเยือนถึงหน้าบ้าน
“ข่าวลือพวกนั้นเป็นเรื่องจริงสินะ” ฮั่วจินมองสำรวจทั่วบ้าน คิดไม่ถึงไคเฉิงจะสามารถหาเงินมาสร้างบ้านและซื้อที่ดินได้ ทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้
“ข้าบอกแล้วหลังนี้แหละคือบ้านไคเฉิง เจ้าก็ไม่เชื่อข้า” ซ่งหยวนตบไหล่สหายพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เขาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน ไม่ได้พบไคเฉิงแค่สองเดือนเขาจะสามารถพลิกชีวิตให้ดีขึ้นได้ขนาดนี้
“เข้ามาดื่มชาก่อนสิ มีอะไรหรือถึงได้มาหาข้าถึงบ้าน” เดิมทีสหายทั้งสองมีกิจการอยู่ในตัวเมือง ไม่บ่อยครั้งนักจะได้เจอกันพร้อมหน้า แม้จะนับถือเป็นสหายทว่าฐานะและความเป็นอยู่แตกต่างโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะเขา หากเล่าให้ใครฟังว่าคุณชายลูกเศรษฐีคบหาเขาเป็นเพื่อนละก็ คงไม่มีใครเชื่อ
“พวกเราเป็นห่วงเจ้าน่ะสิ ได้ข่าวว่าท่านป้าซิวไล่เจ้าออกจากบ้าน เป็นห่วงก็เลยชวนฮั่วจินมาเยี่ยมเจ้าเสียหน่อย”
“ขอบใจ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว พวกเจ้ารอประเดี๋ยวนะข้าจะไปเอาชามาให้” ชายหนุ่มเชื้อเชิญสหายเข้าไปนั่งจิบชาในบ้าน ทว่าในใจกลับรู้สึกร้อนรุ่ม กลัวว่าหลังจากนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ กลัวว่าถ้าหากหนิงหลันรู้ว่าฮั่วจินมาหา นางจะยังเหมือนเดิมหรือไม่หรือจะเป็นเช่นไร
“ไม่เป็นไร พวกข้าขอแค่น้ำเปล่าก็พอ” แค่ชาราคาถูกก็ต้องใช้เงินซื้อสิ้นเปลืองอยู่ดี ซ่งหยวนจึงไม่อยากให้ไคเฉิงต้องมาจ่ายอะไรกับเรื่องแค่นี้ สำหรับเขานั้นแค่น้ำเปล่าก็พอแล้ว
“ข้าเห็นด้วย แค่น้ำเปล่าก็พอ ชาทั่วไปข้ากินไม่ลงมันทั้งขมและเฝื่อน ข้าต้องชาสุ่ยเซียนเท่านั้น” บุตรชายเจ้าของโรงเตี๊ยมที่มีชื่อที่สุดในเมืองอย่างเขาน่ะหรือ จะให้มานั่งกินชาธรรมดาทั่วไปได้อย่างไร
“เอ่อ.. ได้ ๆ ข้าจะไปเอาน้ำเปล่ามาให้”
คำตอบจากฮั่วจินราวกับตบลงกลางแสกหน้า ได้แต่ต้องข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ ไคเฉิงเดินคอตกสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักเข้าห้องครัวไป ระหว่างทางเดินสวนกับภรรยาเข้าพอดี ยิ่งทำให้เขาวิตกกังวลมากขึ้นเป็นเท่าตัว
“ไคเฉิง ท่านไม่ต้องทำ กลับไปนั่งคุยกับพวกเขาให้สบายเถอะ ประเดี๋ยวข้าจัดการให้เอง”
“ไม่เป็นไร ข้าทำเอง”
“ไปเถอะ หรือท่านไม่เชื่อใจข้า” หนิงหลันแสร้งชักสีหน้าไม่พอใจ พูดอย่างไรก็ไม่ยอมกลับไปเสียที ดันหลังให้ออกไปด้านนอกก็ยังขืนตัวเองไว้ไม่ยอมไป นางจึงพูดในสิ่งที่เขาปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็ได้ผลดีทีเดียวเมื่อไคเฉิงเลิกดื้อรั้นแล้วยอมกลับไปหาสหายทันที
หนิงหลันเอาชาที่ดีที่สุดและแพงที่สุดออกมาพร้อมกับน้ำแร่ออกมาจากห้วงมิติ แม้ไม่อยากต้อนรับฮั่วจินเท่าใดนัก เจ้าคนหน้าไม่อายนั่นไม่สมควรต้อนรับเสียด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจเลยว่าคนเย่อหยิ่งพรรค์นั้นต้องการสิ่งใด ถึงได้ยังแสร้งคบไคเฉิงเป็นสหาย
แม้จะไม่พอใจอดีตคนเคยพึงใจหนิงหลันคนก่อนก็ตาม ทว่าตอนนี้เพื่อหน้าตาของสามีอย่างไรจะให้เขาน้อยหน้าใครไม่ได้ ส่วนซ่งหยวนคนผู้นั้นถือว่านิสัยดีมีน้ำใจน่าคบหา แม้ฐานะทางบ้านจะดีกว่าฮั่วจินหลายเท่า แต่เจ้าตัวไม่เคยดูถูกคนที่ด้อยกว่า คนผู้นี้นางอนุญาตให้สามีคบค้าสมาคมต่อได้ เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะได้พึ่งพากันเรื่องการค้า
“หนิงหลันเมื่อก่อนเจ้าชอบคนแบบนี้ไปได้อย่างไร นอกจากหน้าตาแล้วไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง” หญิงสาวบ่นให้หนิงหลันคนก่อนซึ่งก็คือเศษเสี้ยวหนึ่งของตัวนางเอง รู้ทั้งรู้ว่าถูกหลอกปั่นหัวเล่นแต่ก็ยังรั้น ไม่สนใจลูกผัว คิดถึงความหลังแล้วปวดหัวนัก
ระหว่างชงชาและหาของว่างต้อนรับเพื่อนสามี หญิงสาวได้นึกย้อนกลับไปในความทรงจำเดิม การที่นางกับไคเฉิงได้เสียเป็นผัวเมียก็มาจากแผนร้ายของบุรุษผู้นี้เช่นกัน ฮั่วจินคบหาไคเฉิงเพียงเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นด้อยกว่าตนทุกด้าน ปฏิบัติกับเขาราวกับบ่าวรับใช้ แต่ปากบอกเป็นเพื่อนกันมันได้หรือไร
ส่วนหนิงหลันคนเดิมนั่นเป็นแบบฉบับของนางร้าย ที่พกความร้ายมาเต็มเปี่ยมแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความโง่ของตนเอง หลงเชื่อคำหวานหูหลงใหลได้ปลื้มอย่างไม่ลืมหูลืมตา ฮั่วจินสั่งให้ทำอะไรก็ล้วนแล้วแต่ยอมทุกอย่าง
สุดท้ายกลายเป็นเหยื่อความสนุกของเจ้านั่น เพื่อกำจัดหนิงหลันที่ตามติดเสียจนน่ารำคาญ ฮั่วจินจึงจัดฉาก พร้อมกับวางยาให้ทั้งสองร่วมหลับนอนได้เสียเป็นผัวเมีย แต่นางร้ายก็คือนางร้ายอยู่วันยังค่ำ หนิงหลันไม่ยอมรับในความสัมพันธ์นั้น นางยังคงตามติดฮั่วจินเป็นเงาตามตัว ทว่าผลพวงของคืนนั้นทำให้นางเกิดตั้งครรภ์
หนิงหลันจึงจำใจอยู่กินกับไคเฉิงเพื่อป้องกันคำครหา คนที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยก็คือไคเฉิง เขายังคงมองโลกในแง่ดีกล่าวโทษตนเอง ทั้งที่เขาก็เป็นแค่เครื่องมือความสนุกเท่านั้นเอง
