บท
ตั้งค่า

บทที่ 15 รั่วเอินลูกพ่อ [2]

ด้านหนิงหลันเห็นว่าสายมากแล้วยังไม่ได้ทำอาหารเช้า นางจึงรีบเข้าครัวเตรียมอาหารมื้อเช้าให้ทุกคน ผักในมิติกำลังงามนักวันนี้นางจะทำหม้อไฟกิน ถือว่าเป็นการฉลองเริ่มต้นชีวิตใหม่ หนิงหลันนำผักมาล้างแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีกิน เสียดายใช้เนื้อโคขุนอย่างดีไม่ได้ด้วยไม่อยากจะอธิบายให้มากความ จึงใช้เป็นเนื้อหมูธรรมดาแทน ตั้งแต่มาที่นี่นับว่าเป็นวันแรกที่นางได้กินเนื้อก็ว่าได้

หญิงสาวหั่นเนื้อหมูให้เป็นชิ้นบาง ๆ เหมือนเนื้อสไลด์ น้ำซุปที่เตรียมไว้ก็ได้ที่แล้ว ดีที่ใช้เวลาทำไม่มากและมีวัตถุดิบครบอยู่แล้ว จึงใช้เวลาไม่นานตอนนี้จะเหลือก็แต่ยกขึ้นโต๊ะก็พร้อมทาน

หนิงหลันลำเลียงส่วนประกอบหม้อไฟต่าง ๆ วางไว้เต็มโต๊ะ ตรงกลางมีหม้อดินขนาดพอประมาณอยู่บนเตา น้ำซุปเริ่มเดือดได้ที่รอแค่ไคเฉิงอาบน้ำเสร็จก็พร้อมทานกันได้เลย

ส่วนรั่วเอินน้อยนั้นนางจัดการป้อนอาหารสำหรับเด็กเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เจ้าตัวกำลังอารมณ์ดีอยู่ในคอกสำหรับเด็ก พร้อมกับของเล่นมากมายที่บิดาทำไว้ให้

“นั่งเลยเจ้าค่ะ อาหารพร้อมแล้ว”

ไคเฉิงนั่งลงประจำที่ แต่เจ้าตัวกลับทำเพียงจับตะเกียบไม่ยอมคีบอาหาร มิใช่ว่ามันไม่น่ากินแต่เขาไม่รู้วิธีกินต่างหาก เกิดมาก็เพิ่งจะเห็นอาหารเช่นนี้

“ทำแบบนี้นะเจ้าคะ น้ำแกงจะมีสองแบบเผ็ดและไม่เผ็ด ท่านอยากกินอะไรก็นำไปลวกในน้ำแกงได้เลยเจ้าค่ะ ถ้วยเล็กนี่คือน้ำจิ้มงา” หนิงหลันสาธิตวิธีการกินหม้อไฟให้สามีดูทุกขั้นตอน นางนำเนื้อสไลด์ลงจุ่มในน้ำซุป รอจนเนื้อสุกกำลังดีจิ้มกับน้ำจิ้มงาก่อนจะกินด้วยความเอร็ดอร่อย

“สิ่งนี้เรียกอะไร” ไคเฉิงเห็นดังนั้นเขาจึงทำตามบ้าง แค่เข้าปากคำแรกก็ต้องตาโต ผักกรอบหวานอร่อยเนื้อก็สด ยิ่งจิ้มน้ำจิ้มก็ยิ่งอร่อยเป็นเท่าตัว

“เรียกว่าหม้อไฟเจ้าค่ะ ท่านกินเยอะ ๆ เลยนะไม่ต้องกลัวจะไม่พอ ในครัวยังมีของให้เติมอีกเยอะ” มิติวิเศษนี่ดีจริงอยากได้อะไรก็มีหมด เสียก็แต่เอาออกมาใช้ตามใจไม่ได้

“เจ้าคงใช้เงินเก็บไปเยอะ ไม่ต้องห่วงนะข้าจะขยันทำงานล่าสัตว์ จะหาเงินมาให้เจ้าเยอะ ๆ” ที่ผ่านมาหนิงหลันนางสละของส่วนตัวไปมากแล้ว เขาที่เป็นสามีและเป็นพ่อของลูกจะต้องขยันให้มากขึ้น ทั้งสองคนจะได้ไม่ต้องลำบาก

อาหารมื้อนี้อร่อยเสียจนวางตะเกียบไม่ลง กระนั้นไคเฉิงไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองคีบแต่ผักลงลวกในหม้อ เขาไม่ยอมแตะเนื้อสัตว์เลยสักชิ้น หนิงหลันเห็นแล้วได้แต่ถอนหายใจ คนอะไรคิดถึงแต่ผู้อื่นไม่เคยคิดถึงตนเองบ้างหรืออย่างไร ปากบอกจะทำงานให้หนักแต่กลับกินแต่ผัก จะไปมีแรงทำงานได้อย่างไร

“ท่านน่ะ ต่อไปนี้ไม่ต้องออกไปหางานทำแล้วนะ แค่ช่วยข้าทำสวนก็พอ”

“ได้ เช่นนั้นข้าจะเลิกรับงาน ล่าสัตว์อย่างเดียวก็พอ” เวลาว่างจากทำสวนเขาก็จะเข้าป่าล่าสัตว์ พวกนางสองคนจะได้มีเนื้อกินบ้าง เผื่อวันไหนได้เยอะก็จะได้แบ่งไปขาย ถือว่าเป็นรายได้อีกทาง

“ก่อนจะทำสวนหรือล่าสัตว์ ท่านต้องกินให้อิ่มท้องก่อนนะเจ้าคะ ถึงจะมีแรงทำงาน”

ถ้วยที่มีเนื้อลวกจนพูนถูกเลื่อนไว้ตรงหน้า ไคเฉิงรู้สึกอุ่นซ่านในอก ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน เขาพยายามสกัดกั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ภรรยาเห็นความอ่อนแอและอ่อนไหว แม้แต่ท่านแม่ที่ชุบเลี้ยงมาก็ยังไม่เคยทำให้เขาถึงขนาดนี้

“เจ้าก็กินบ้างสิ” ชายหนุ่มลวกเนื้อและผักให้ภรรยาบ้าง ไม่นานถ้วยของหนิงหลันก็เต็มไปด้วยของที่ไคเฉิงทำให้

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

สองสามีภรรยาต่างผลัดกันคีบอาหารให้กัน หลังจากกินอิ่มก็เข้าสวนช่วยกันทำงาน เรียกได้ว่าตั้งแต่ตัดสินใจแยกบ้านออกมา ความอึดอัดคับข้องใจและปัญหาที่สะสมมานาน บัดนี้ได้มลายหายไปสิ้น ทุกอย่างเหมือนจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทว่ามันกลับไม่ใช่ในค่ำคืนนี้

หนิงหลันนางกำลังเจอกับศึกครั้งใหญ่ ถึงขั้นที่ว่าจนปัญญาจะแก้ไขมันได้

“แงงงง”

ศึกที่ว่านั่นก็คือการงอแงของเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าทำอย่างไรหาของหลอกล่อ รั่วเอินก็ไม่หยุดร้องเสียที

“เอินเอินของแม่เป็นอะไร เหตุใดเจ้าถึงได้งอแงจังวันนี้ ไม่สบายตรงไหนกันนะ” ปกติบุตรสาวจะไม่ร้องไห้โยเยเลย นอกเสียจากนางจะไม่สบายหรือต้องการขับถ่ายไม่ก็หิว ทั้งเจ้าภูตน้อยยืนยันเจ้าก้อนไม่ได้เป็นอะไรทุกอย่างปกติดี

“แงงงง” รั่วเอินตะเบ็งเสียงร้องลั่น ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมหยุด แม้แต่ตุ๊กตาที่นางเคยชอบนอนกอดทุกคืนก็ยังทำให้เจ้าเด็กจอมโวยวายเงียบลงไม่ได้

“อาหลันลูกเป็นอะไร” เขายืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเพราะได้ยินเสียงบุตรสาวร้องไม่หยุด ทนรอไม่ไหวด้วยความเป็นห่วง เขาจึงเข้าห้องมาโดยพลการ

“ไม่รู้เจ้าค่ะ ร้องไม่ยอมหยุดเลย หรือจะเป็นเพราะแปลกที่” แม้จะอุ้มในท่าที่เจ้าตัวเล็กสบายตัวแล้วก็ตาม ทว่ารั่วเอินกลับไม่ยอมหยุดร้อง พอร้องเหนื่อยทำเพียงสะอื้น หายเหนื่อยแล้วกลับมาตะเบ็งเสียงต่อ สลับอยู่เช่นนี้มาพักใหญ่แล้ว

“มาข้าอุ้มนางเอง”

แต่เมื่อเปลี่ยนมือคนอุ้มจากที่เอาแต่ร้องโยเยกลับเงียบอย่างน่าเหลือเชื่อ ไคเฉิงตบหลังลูกน้อยเบา ๆ พร้อมกับโยกตัวไปมาเพื่อขับกล่อมให้เจ้าก้อนเคลิ้มหลับ

“สำเร็จแล้วเจ้าค่ะ” หนิงหลันดีใจมากที่สามารถทำให้เจ้าตัวดีหยุดร้องได้เสียที รู้อย่างนี้นางน่าจะขอความช่วยเหลือสามีแต่แรก

“เช่นนั้นข้ากลับก่อนนะ”

“ฝันดีนะเจ้าคะ”

แม้ไม่อยากกลับแต่ก็ต้องกลับ ชายหนุ่มเอาแต่มองตามตาละห้อย ทำตัวอ้อยอิ่งอยากให้ภรรยารั้งไว้ ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจ

“แงงงง”

ยังไม่ทันจะก้าวขาพ้นประตู บุตรสาวสุดที่รักกลับร้องขึ้นมาอีกครั้ง กลายเป็นว่าไคเฉิงต้องรีบกลับมาอุ้มเจ้าตัวน้อยต่อ ลูกน้อยไม่ยอมห่างยามบิดาวางนางลงบนเตียงเด็ก เจ้าตัวยุ่งก็ร้องงอแงเสียงดัง สุดท้ายไคเฉิงต้องอุ้มบุตรสาวอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งเคลิ้มหลับไปพร้อมกันทั้งสองคน หลับไปทั้งที่ยังมีรั่วเอินนอนอยู่บนอก

หนิงหลันไม่มีทางเลือกนางจึงค่อย ๆ อุ้มบุตรสาวไปนอนบนเตียงเด็ก ส่วนพ่อของเด็กก็คงจะปล่อยให้นอนที่นี่ไปก่อน ทำงานเหนื่อยทั้งวันนางก็ไม่อยากจะปลุก อีกทั้งไม่แน่ว่าพอรั่วเอินห่างพ่อเจ้าตัวยุ่งจะร้องขึ้นมาอีก เช่นนั้นก็นอนรวมกันทั้งสามคนพ่อ แม่ ลูกนี่แหละดีที่สุด

“ตัวแสบ เจ้านี่ลูกพ่อชัด ๆ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel