บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 จุดแตกหัก [2]

“มากันแล้วหรือ ข้าได้ยินว่าพวกเจ้ากินข้าวสามมื้อต่อวัน รู้หรือไม่มันสิ้นเปลืองแค่ไหน ของที่พวกเจ้าหยิบเกินไปเอากลับมาคืนบ้านใหญ่เดี๋ยวนี้”

“ท่านแม่ท่านเข้าใจผิดแล้ว พวกเราไม่ได้แตะของจากบ้านใหญ่แม้แต่ชิ้นเดียว จะเอาที่ไหนมาคืนท่านกันล่ะเจ้าคะ” นี่มันแม่ผัวใจร้ายชัด ๆ ตอนนี้นางเริ่มเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเศษเสี้ยวด้านมืดช่างอยู่ถูกที่เหลือเกิน นี่แหละหนาคนเช่นไรก็มักจะดึงดูดคนจำพวกเดียวกันเข้าหา

“อย่ามาโกหก ข้าเห็นอาหารเจ้าใส่ทั้งเต้าหู้ ไข่ แล้วก็ข้าวขาวอย่างดี หากไม่ขโมยจากบ้านใหญ่ไปแล้วเจ้าจะเอามาจากไหน” ถังหลิวแย้งขึ้นทันที ตั้งแต่ตอนเช้ามาถึงกลางวันหนิงหลันก็ใช้ของอย่างดีนำมาทำอาหารทุกวัน ทั้งที่แทบจะไม่ออกไปไหนเลยแท้ ๆ นอกเสียจากเอาของจากบ้านใหญ่ไป

“ข้าเห็นด้วยกับถังหลิว เกิดเป็นคนอย่าริอ่านโกหกเนรคุณ คนเขาจะหาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน” ของที่ว่ามีแต่ดี ๆ ทั้งนั้น อย่างไรก็ต้องริบคืนให้หมด

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านแม่ลองคิดให้ดี ที่บ้านหลังนี้มีของดี ๆ พวกนั้นด้วยหรือเจ้าคะ ท่านน่ะถูกน้องสะใภ้หลอกแล้วกระมัง” หนิงหลันปิดปากหัวเราะ ยากจนข้นแค้นกันออกปานนี้จะมีไข่ เต้าหู้ ทำกินทุกมื้อได้อย่างไร ยิ่งข้าวขาวอย่างดียิ่งแล้วใหญ่ หากไม่ใช่คหบดีร่ำรวยมีหรือจะได้กิน

“ข้าเห็นกับตาจริงนะเจ้าคะท่านแม่ สิ่งของพวกนั้นมันสมควรเป็นของท่าน แต่ครอบครัวพี่ใหญ่กลับเก็บไว้กินคนเดียว ทำเช่นนี้ถูกต้องแล้วหรือ ที่ผ่านมามีสิ่งใดเราก็แบ่งให้เท่ากันมาตลอด ทำเช่นนี้ไม่ถูกต้องนะเจ้าคะท่านแม่” มีหรือถังหลิวจะยอมแพ้ ในตอนที่ไฟยังร้อนก็ต้องรีบสุมไฟเข้าไปอีก

“เนรคุณ ๆ หนิงหลันเจ้ามันคนเนรคุณพ่อแม่ไม่สั่งสอน ไคเฉิงหากไม่ได้ข้าป่านนี้เจ้าตายตั้งแต่ยังเด็กไปแล้ว หากยังคิดว่าข้าเป็นแม่ บอกเมียเจ้าเอาของมาคืนบ้านใหญ่เดี๋ยวนี้” นางรั่วซิวปิดหูปิดตาทุกอย่าง แม้จะรู้ว่าของที่สะใภ้เล็กพูดมาบ้านหลังนี้ไม่เคยมีก็ตาม เพราะถ้าหากว่ามีจริงนั่นเท่ากับของพวกนั้นจะเป็นของตนทันที

“ท่านแม่ข้าขอล่ะขอรับ พวกเราไม่ได้เอาของจากบ้านใหญ่มาจริง ๆ” ไคเฉิงทนไม่ได้ที่มารดาพูดจารุนแรงเกินไป จะว่าเขาน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่การต่อว่าหนิงหลันเช่นนี้มันเกินไป ท่านแม่ก็รู้นางเป็นเด็กกำพร้าจะมีใครคอยสั่งสอนได้อย่างไร

“เจ้าก็เหมือนกันไม่รู้จักสั่งสอนเมียซะบ้าง ปล่อยให้มาเถียงแม่ฉอด ๆ” นางรั่วซิวหันกลับไปตำหนิบุตรชายตนเองบ้าง กล้าดีอย่างไรปล่อยให้เมียตนเองมายืนค้ำหัวผู้ใหญ่เถียงคำไม่ตกฟาก

“ข้าขอโทษแทนนางด้วยขอรับ ถ้าท่านแม่ไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัว ปล่อยเอินเอินอยู่คนเดียวนานแล้วข้าเกรงว่านางตื่นมาแล้วไม่เจอใคร จะตกใจร้องไห้ขอรับ”

“ข้าจะยกโทษให้สักครั้งก็แล้วกัน เพราะเห็นแก่หน้าเจ้าหรอกนะ” แม้จะไม่เต็มใจยกโทษให้แต่เมื่อคิดถึงข้าวของพวกนั้นจึงยอมลงให้ กระนั้นยังมิวายเน้นย้ำให้สะใภ้เล็กไปเอาของคืนมา “ถังหลิวเจ้าตามไปเอาของคืนมาให้หมด”

“ท่านแม่แล้วเรื่องที่พี่สะใภ้แย่งขนมฮุ้ยเอ๋อร์ล่ะเจ้าคะ” อย่างไรก็ไม่ยอมให้ผ่านไปง่าย ๆ บังอาจมาทำลูกชายสุดที่รัก

“หนิงหลัน เรื่องนี้เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร” ใบหน้าเหี่ยวย่นตวัดมองคู่กรณีตัวฉกาจ

“ข้าไม่ได้แย่งเจ้าค่ะท่านแม่ แต่เด็กคนนี้แอบมาขโมยของในเรือนข้าต่างหาก” ในตอนที่นางวางขนมไว้บนโต๊ะแล้วออกไปเอาถ้วยน้ำแกงครัวด้านนอก กลับมาอีกทีเจ้าเด็กนิสัยเสียคนนี้สวาปามกินจนเกือบหมด นางยังไม่ได้ต่อว่าอะไรด้วยซ้ำ เจ้าตัวกลับวิ่งร้องไห้ออกไปทั้งอย่างนั้น ยังมีหน้ามาฟ้องคนอื่นอีก

แหม...ช่างเป็นลูกไม้หล่นข้างรากเหง้าจริง ๆ โขกกันออกมาเชียว

“ไม่จริง ฮุ้ยเอ๋อร์ของข้าเป็นเด็กจิตใจดี มารยาทก็ดี เป็นเจ้าที่อิจฉาเด็ก ช่างหน้าไม่อายนังคนพ่อแม่ไม่สั่งสอน” เสียงแหลมตวาดแว้ด ๆ ชี้นิ้วต่อว่าหนิงหลัน ยอมไม่ได้ที่อีกฝ่ายให้ร้ายบุตรชาย

“ถังหลิวมันจะมากเกินไปแล้วนะ ถ้าเจ้ายังว่าพี่สะใภ้แบบนี้อีก อย่าหาว่าข้าไม่เตือน” ฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลง ชายหนุ่มดึงภรรยาเข้าไปหลบด้านหลัง ปกป้องหนิงหลันจากน้องสะใภ้เป็นครั้งแรก จะว่าเขาก็ว่าไปเถิด แต่สิ่งที่ทุกคนรุมด่าหนิงหลันเขารับไม่ได้

ถังหลิวรีบเข้าซุกหลังแม่สามีตัวสั่นงันงก ที่ผ่านมาเห็นพี่สามีเมินเฉยมาตลอดทำให้ได้ใจ คิดว่าหนิงหลันไร้คนปกป้อง ตนจะทำอะไรก็ได้ไม่ต้องเกรงใจใคร

“พอได้แล้ว เห็นข้าเป็นหัวหลักหัวตอหรืออย่างไร ไป! ไปเอาของพวกนั้นมาไว้ที่บ้านใหญ่” นางรั่วซิวเริ่มรำคาญเต็มทน ที่เรียกมาก็เพราะอยากได้สิ่งของพวกนั้น ไม่ใช่ให้ทั้งสองฝ่ายมาทะเลาะกัน

“ไม่ พวกเราไม่ได้เอาอะไรไป เหตุใดต้องคืน” แม้จะเข้าใจความลำบากใจของสามี ทว่าเมื่อคิดจะแยกบ้านก็ควรจะขาดกันไปเลยเสียตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าตัดกันไม่ขาดคนเหล่านี้ก็ยังคงเบียดเบียนไม่มีที่สิ้นสุด หรือหากไคเฉิงเลือกมารดานางก็จะไม่รั้ง แต่ว่ารั่วเอินจะต้องอยู่กับแม่เท่านั้น

“ไม่ได้เอาไป แล้วเอาของมาจากที่ใดมากินมาใช้ทุกวัน”

“ข้าได้มาจากขายสินส่วนตัวของข้า มันก็ย่อมเป็นของบ้านข้า ไม่เกี่ยวกับพวกท่าน”

“แต่กฎต้องนำมารวมกับบ้านใหญ่ทั้งหมด แล้วค่อยแบ่งเท่ากัน”

“ท่านแม่พูดผิดแล้ว พวกท่านไม่เคยทำงานมีแต่สามีข้าหาเงิน หาทุกอย่างเข้าบ้านจะแบ่งเท่ากันได้อย่างไร ถ้าเช่นนั้นเงินที่ขายที่นาได้ ท่านแม่ก็แบ่งให้สามีข้าครึ่งหนึ่งสิเจ้าคะ”

“แก นังเนรคุณ นั่นมันเงินของข้า กล้าดีอย่างไรมาทวงจากข้า” ทันใดนั้นเองร่างอวบปราดเข้าตบหน้าสะใภ้ดังฉาด พร้อมกับจิกทึ้งหัวด่าเอาความไม่พอใจทั้งหมด ไปลงกับการทำร้ายหนิงหลัน “ข้าให้ที่ซุกหัวนอนก็ดีเท่าไรแล้ว เก็บข้าวของของแกออกไปจากบ้านเดี๋ยวนี้ จากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก”

“ได้ ต่อไปเราไม่ข้องเกี่ยวกัน” หนิงหลันน้ำตาคลอฝ่ามือประกบไว้บนแก้ม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แสดงออกถึงความขุ่นเคืองและเจ็บปวดเหลือแสน แรงของแม่สามีน้อยนิดทำอะไรนางไม่ได้อยู่แล้ว ที่สภาพนางตอนนี้ดูไม่ได้นั่นเป็นเพราะอาศัยช่วงชุลมุน นางแอบดึงผมตนเองดึงอาภรณ์ให้หลุดลุ่ย อีกทั้งยังร้องเสียงดังเพื่อให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าใจว่าแม่สามีทำรุนแรง

ทว่าภายในใจกลับบอกตนเองว่าข้าเล่นใหญ่พอหรือยัง หรือข้าต้องเล่นใหญ่กว่านี้

ไคเฉิงรีบเอาตัวเข้าไปบดบังไม่ให้มารดาทำร้ายภรรยาได้ ก่อนจะพยุงหนิงหลันที่ตอนนี้ถูกตีถลาล้มนอนกลิ้งอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้น เขาเดินตามภรรยากลับเรือนไปอย่างเงียบ ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel