ตอนที่ 10 เตรียมสร้างบ้าน
สองพี่น้องสกุลหวังถูกปลุกขึ้นมาให้รับประทานอาหารเช้าด้วยกลิ่นอาหารที่หอมทะลุข้างฝามา
วันนี้ลี่หลินทำข้าวผัดใส่ไข่และทำต้มไก่ใส่ฟักให้พวกเขาคนละถ้วย ขาดน้ำปลาถ้วยน้อยและมะนาวตัวเพิ่มความอร่อยไปไม่ได้
“ข้าวผัดของพี่สะใภ้อร่อยมากเลยขอรับ”อาจิ้งพูดด้วยปากอันมันแผล็บ
“เจ้าชอบก็ดี เอาไว้พี่สะใภ้ทำอย่างอื่นให้กินอีกนะอาจิ้ง อิ่มข้าวแล้วลองดื่มโกโก้กันเถิด ในอากาศหนาวเช่นนี้มันช่วยให้เจ้าอบอุ่นร่างกายได้”
หลี่ซือนั่งมองคนทั้งสองพูดคุยกัน ลี่หลินซื้อของหน้าตาแปลกๆไว้หลายอย่าง ล่าสุดก็คือนาฬิกาปลุกที่นางมอบให้เขากับอาจิ้งไว้คนละเรือน พร้อมกับสอนการอ่านเวลาที่เข้าใจได้ไม่ยากเท่าใดให้พวกเขาอีกหลายครั้ง
“ตอนนี้ 9 โมงครึ่งแล้ว ข้าอยากลองดื่มกาแฟที่เจ้าคุยว่าอร่อยนักอร่อยหนาหน่อยลี่หลิน ชงกาแฟให้ข้าบ้าง”หลี่ซือส่งสายตาอ้อนวอนมา
“ได้เลย เออ ข้าเจอป้าหยางเมื่อเช้านี้เลยบอกเรื่องสร้างบ้านไป เดี๋ยวบ่ายนี้คงจะมาที่บ้านของพวกเราแล้วล่ะ”
“ข้าได้ยินเจ้าบอกท่านป้าแล้ว รวมถึงเรื่องที่เจ้าบอกว่าพวกเราได้เงินปลูกบ้านมาจากหีบสมบัติเก่าๆของท่านแม่ด้วย”
“ฮ่าๆๆ” อาจิ้งหัวเราะเสียงดัง ส่วนลี่หลินกำลังทำหน้าตาเหลอหลาที่บุรุษตรงหน้าได้ยินคำโกหกคำโตของนาง
เขาเป็นนายพรานย่อมต้องมีประสาทสัมผัสที่ดีกว่าคนปกติทั่วไป เรื่องนี้นางลืมไปเสียสนิทเลย
“เจ้านี่มันช่างดื้อรั้นเสียจริง อยากแสดงฝีมือสร้างบ้านมากถึงเพียงนั้นเลย”
“โถ่ หน้าหนาวกำลังจะเข้ามาเยือนแล้ว ข้าไม่อยากนอนหนาวตายนี่หลี่ซือ”พูดตามตรงก็คือนางยังคิดถึงชีวิตที่สุขสบาย
ถ้าหากไม่มีตัวช่วยดีๆนางสามารถใช้ชีวิตที่ลำบากได้ แต่ว่านางมีระบบคอยช่วยแล้ว ลี่หลินจึงไม่เห็นเหตุผลที่ต้องอยู่อย่างยากลำบากต่อไปเลย
“จริงของพี่สะใภ้นะขอรับ แต่ข้ามองดูจากแบบบ้านที่สร้างด้วยอิฐและปูนทั้งหลังของพี่สะใภ้
ห้องรับแขกที่ใหญ่โตและห้องอื่นๆอีก ข้าคิดไม่ออกเลยว่าพวกเราจะหาเงินทั้งหมดมาจากที่ใด”
“เรื่องนั้นเจ้ามิต้องเป็นกังวลหรอก พี่สะใภ้มีแหล่งที่ซื้ออุปกรณ์อย่างดี ขอเพียงมีแรงงานที่ไว้ใจได้มาช่วยสร้างบ้านก็เท่านั้น”ลี่หลินยิ้มด้วยความมั่นใจ
“ดูเหมือนว่าข้าต้องซื้อปิ่นจำนวนมากมาให้เจ้าเสียแล้วสิ”หลี่ซือเปรย
กลิ่นกาแฟที่ลี่หลินชงหอมกรุ่นลอยออกมาจากแก้วลวดลายสวยงาม นางถือมาส่งให้หลี่ซือที่โต๊ะ
เขายกแก้วขึ้นมาสูดกลิ่นหอม เป่าให้เย็นลงเล็กน้อยแล้วลองดื่มดู ถือว่ารสชาติไม่เลวเลย มีกลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดื่มแล้วทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่ายิ่งนัก
“นอกจากปิ่นแล้วเครื่องประดับอื่นๆข้าก็อยากได้ เช่น มงกุฏหงส์ สร้อยคอ กำไล ชุดเครื่องประดับต่างๆ ข้ารับมาขายต่อได้ทั้งนั้น”นางรีบพูดโดยไม่สนใจว่าเขากำลังประชดนางอยู่
เวลาประมาณบ่ายโมงลุงหยางก็เดินมาหารือเรื่องการปลูกบ้านที่บ้านหวัง
เขาอยากเดินมาดูด้วยตาของตัวเองว่าที่ภรรยาของเขาพูดว่าลี่หลิน พูดจาดีกับนางเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
ส่วนเรื่องการปลูกบ้านของหลี่ซือนั้นเขาคิดว่าผิงหยวนคงละเมอไปเองมากกว่า แก่แล้วก็เลยเลอะเลือน
หวังหลี่ซือและหวังจิ้งมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 1 ปีครึ่ง ตอนมาก็มาแต่ตัวไม่มีสมบัติใดๆติดตัวมา
แต่ยังโชคดีที่มารดาทิ้งบ้านหลังนี้เอาไว้ให้ 1 หลังก่อนจะจากโลกใบนี้ ความเป็นอยู่ของพวกเขาลำบากแค่ไหนไยเขาจะไม่รู้ แล้วยังดื้อดึงแต่งลี่หลินเข้ามาอีก
มีปากท้องให้เลี้ยงดูเพิ่มเช่นนี้ หลี่ซือจะหาเงินจากไหนมาเลี้ยงดูได้หวัดไหว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปลูกสร้างบ้านนั่นหรอก ถึงอย่างไรก็เป็นไปมิได้
“ท่านลุงหยางเข้ามาด้านในก่อนขอรับ ลี่หลินชงน้ำหวานเอาไว้รอให้ท่านด้วย”
หยางเกอเดินไปนั่งบนโต๊ะรับแขกอย่างเก้อเขิน อยากจะปฏิเสธน้ำหวานที่หลี่ซือมอบให้จะแย่ แต่ไม่อาจทัดทานสายตาที่จริงใจคู่นั้นของหลี่ซือได้
เขาจึงได้แต่รับมาดื่มอย่างจนใจ คิดว่าถ้าหากตายไปผิงหยวนคงจะทำศพให้เขาเป็นอย่างดี
“ตอนนี้ลี่หลินกำลังทำขนมอยู่อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วขอรับ”
“อืม น้ำหวานนี่อร่อยยิ่งนักหลี่ซือ ตั้งแต่เกิดมาข้ายังไม่เคยดื่มน้ำที่มีรสชาติทั้งหอมและหวานเช่นนี้มาก่อนเลย”ลุง หยางพูดอย่างตื่นเต้น
หลี่ซือยิ้มรับแล้วนำสมุดร่างโครงสร้างบ้านที่ลี่หลินออกแบบไว้มาส่งให้ท่านลุง เพื่อให้เขาช่วยประเมินดูให้หน่อยว่าต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการจ้างคนงานเท่าใด
หยางเกอรับไปดูก็พูดอะไรไม่ออกแม้แต่นิดเดียว ยิ่ง หลี่ซือบอกว่าผู้ที่เขียนแบบแปลนนี้คือลี่หลินเขายิ่งไม่เชื่อ
จากเดิมที่ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่รับงานนี้ กลับตกปากรับคำไปอย่างง่ายดาย พร้อมกับตกลงค่าจ้างต่างๆเสร็จสรรพ ก่อนกลับลี่หลินห่อขนมหน้าตาน่ารับประทานมอบให้เขานำกลับไปให้หลานๆที่บ้านอีกต่างหาก
บรรยากาศบ้านหวังแตกต่างไปจากเดิมมากจริงๆ ไม่คิดว่าลี่หลินจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากถึงเพียงนี้
หรือว่านางจะกลับใจได้แล้วก็ไม่ทราบ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบ้านหวังก็ตาม เขาได้กลายเป็นผู้รับเหมาที่จะสร้างบ้านที่น่าอัศจรรย์ใจขึ้นมาแล้ว หยางเกอคิดอย่างตื่นเต้น
ส่วนทางด้านลี่หลินก็ตกลงกับหลี่ซือและอาจิ้งว่าจะต้องถางป่าที่รกชัฏด้านหลังออก เพราะนางจะต้องใช้พื้นที่ตรงนั้นสร้างบ้าน และต้องค่อยๆปรับพื้นดินให้เท่ากันด้วย
หลี่ซือพยักหน้าอย่างเห็นด้วย และเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยจากคนทั่วไป เขาอาสาเข้าเมืองไปสั่งอุปกรณ์สร้างบ้าน มาอย่างละนิดอย่างละหน่อย เสร็จแล้วก็ไปหาซื้อของตามที่ลี่หลินต้องการ
ระยะเวลาเดินทางจากบ้านไปถึงตัวเมืองประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เวลาที่เหลือนางตั้งใจจะเล่าความจริงของนางให้อาจิ้งฟัง
แต่อาจิ้งกลับบอกว่าเขารู้เรื่องหมดแล้ว ผนังบ้านบางถึงเพียงนั้นผู้ใดพูดอะไรกันย่อมได้ยินชัดเจน
“เจ้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้วก็ดี ต่อแต่นี้ไปพี่ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกัน”
“ข้ายินดีที่ได้รู้จักท่านขอรับพี่สะใภ้ หากไม่รบกวนท่านเดินไปข้าอยากนั่งรถเข็นไปสำรวจที่ทาง ด้านหลังบ้านกับท่านได้หรือไม่”
“ได้เลย ข้าอยากหาเพื่อนไปอยู่พอดี”พูดจบนางก็พาอาจิ้งออกไปสำรวจพื้นที่
โชคดีที่ทางด้านหลังนี้ไม่รกนัก หลี่ซือจ้างให้คนมาช่วยกันรุมถางประมาณ 3 วันก็แล้วเสร็จ ส่วนค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกบ้านต้องมีอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 5 แสนหยวน
เมื่อขายของทุกอย่างที่หลี่ซือซื้อมาให้ ตอนนี้บัญชีในระบบของนางมีเพียง 3 แสนกว่าหยวนเท่านั้น ยังขาดอีกตั้ง 1 แสนหยวนเชียว
“ยังขาดเงินที่ต้องนำไปซื้อของอีกมากใช่หรือไม่ขอรับ”
“ใช่แล้วอาจิ้งยังขาดอีกจำนวนมากเลย”
“กาน้ำชาทองคำ และของประดับต่างๆจากมารดาของพี่สะใภ้ ท่านได้ลองวางขายหรือยังขอรับ”
ตายแล้วนางลืมไปเสียสนิทเลย พออาจิ้งพูดเตือนความจำนางจึงนำออกมาตั้งขายทันที ใช้เวลาเพียง 10 นาที
เครื่องประดับของท่านแม่ที่เหลืออยู่ก็ขายหมด นางจึงใส่ลงไปชิ้นแล้วชิ้นเล่าจนหมด เหลือเพียงชุดกาน้ำชาแกะสลักรูปมังกรของท่านพ่อที่ยังขายไม่ออก
เนื่องจากระบบตั้งราคาเอาไว้ตั้ง 150,000 หยวน รวมๆแล้วตอนนี้นางมีเงินในระบบอยู่ถึง 450,000 กว่าหยวนแล้ว
ลี่หลินจึงกดซื้อของรอบแรกหมดไป 6 หมื่นกว่าหยวน เนื่องจากมีจำนวนมากจึงต้องรอรับของภายใน 7 วัน ถึงเวลานั้นก็คงจะทันเวลาพอดีกับที่พวกช่างมาสร้างบ้าน
ปกติแล้วคนจีนในภพปัจจุบันใช้เงินหยวนในการสร้างบ้านเท่าใด นางก็มิอาจทราบได้แต่ในระบบกำหนดราคามาเช่นนี้ นางจึงได้แต่ซื้อของตามราคาที่ถูกกำหนดไว้ หากระบบนี้มีชีวิตนางคงต่อรองราคาขอส่วนลดได้บ้าง
การมีระบบร้านค้าออนไลน์ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่ง แต่ประเด็นสำคัญหรือสิ่งที่นางไม่ได้ตระหนักเลยก็คือ เรื่องของการถูกผูกขาดราคาสินค้าต่างๆ
ตราบใดที่หลี่ซือยังหาของมาขายให้นางได้ ทุกอย่างคงจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น อย่างน้อยนางก็ภาวนาให้มันเป็นเช่นนั้น
