4
ตอนที่ 4
ภายในห้องนอนมีแสงสว่างจากโคมไฟสลัว สาวน้อยค่อย ลืมตา มือขวาขยับเล็กน้อย ทำให้คนที่เฝ้ามองยิ้มออกมาได้
“หลินเอ๋อร์เจ้าฟื้นแล้วหรือ เจ้าไม่ตายแล้ว” เธอเห็นสาวสวยแต่งกายแปลกประหลาดยืนอยู่ด้านข้าง คนนอนกะพริบตาถี่ รู้สึกไม่คุ้นเคยทั้งสถานที่และผู้คน
“หลานหนิง เจ้าจงรีบไปตามท่านหมอลู่มา” สาวสวยคนนั้นตะโกนเสียงดังอย่างดีใจมาก
“ที่นี่ที่ไหน” สาวน้อยบนเตียงพยายามจะลุกขึ้น
“เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง” โรสมองเตียงนอนใหญ่คลุมด้วยมุ้งผ้าสีฟ้าบางเบา
“ไม่ใช่ห้องนอนที่บ้าน” ประตูไม้บานใหญ่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เธอมองหญิงสาวแต่งกายประหลาดตรงหน้า
“ทำไมแต่งตัวเหมือนคนจีนโบราณเลย” คนเจ็บเริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูก
“เจ้าฟื้นคืนสติแล้วจริง ๆ ข้าไม่ได้ฝันไป” หยางอี๋เหนียงเข้ามากอดหญิงสาว มือลูบไปตามเนื้อตัว โรสลุกขึ้นนั่งช้า ๆ สายตามองเงาตนเองในกระจกบานใหญ่
“ตายแล้ว มันไม่ใช่หน้าตารูปร่างของหนู หนูไม่อยากอยู่ที่นี่! หนูจะกลับบ้าน!” โรสโวยวายอาละวาดลั่นห้องนอน เธอตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ก่อนผู้เฒ่าผมขาวจะเดินเข้ามา
“คุณหนู ท่านฟื้นแล้วจริง ๆ” ท่านหมอลู่เข้ามาตรวจดูอาการหญิงสาวอย่างถ้วนถี่
“ฉันอยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่ที่นี่” หญิงสาวโวยวายลุกขึ้น เตรียมวิ่งหนีออกจากที่แปลกประหลาดแห่งนี้
“พวกเจ้าจับตัวนางไว้ นางเพิ่งได้สติ อาการนางยังไม่ปกติ” ท่านหมอประจำตระกูลหยางตะโกน
“คุณหนูเจ้าคะ ท่านโปรดสงบสติอารมณ์ก่อน” สาวใช้ประจำตัวรีบจับผู้เป็นนาย แต่อีกคนเหมือนขัดขืนมากขึ้น
“พวกท่านเป็นใคร ปล่อยฉัน อย่ามาจับตัวฉัน” เธอดิ้นรนต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต
“หลินเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป” หยางอี๋เหนียงตกใจหน้าซีด
“ฉันไม่ใช่หลินเอ๋อร์อะไรทั้งนั้น” หญิงสาวลุกขึ้นอาละวาด
“คุณหนูเจ้าคะ” ยิ่งเธอโวยวายเท่าไร บรรดาสาวใช้ก็ยิ่งมาช่วยกันจับตัว โรสพยายามกระชากตัวเองออกจากคนพวกนั้น
“ปล่อยฉัน ฉันจะกลับบ้าน!” ไม่รู้เอากำลังมาจากที่ไหน โรสลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตู
“คุณหนูจะไปไหนเจ้าคะ” โรสปาข้าวของที่อยู่ใกล้มือ หวาดกลัวที่จะถูกจับตัวสาวใช้วิ่งไล่จับ
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันปาพวกเธอด้วยอันนี้แน่!” หญิงสาวยกแจกันโบราณ เทดอกไม้ออกพร้อมฟาดหัวทุกคนที่มาเข้าใกล้เธอ
“คุณหนู” หลานหนิงเรียกเตือนสติ ทำให้หญิงสาวเห็นความหวาดกลัวในดวงตาคนที่พยายามจับตัวเธอ
“ดีมาก ที่รู้จักกลัว” โรสหันหน้ากำลังจะวิ่งหนี ทันใดนั้น ฝ่ามือหยางอี๋เหนียงซัดลงที่ท้ายทอย หญิงสาวร่วงกับพื้น สาวใช้สองคนช่วยกันพยุงนายตัวเองเข้าไปนอนพัก
“หลินเอ๋อร์เจ้านอนนานไปแล้ว มันทำให้ความจำของเจ้าเลอะเลือนไปชั่วขณะ” หยางอี๋เหนียงมองเหมยหลินที่นอนหลับอีกครั้ง นางหวังว่าพรุ่งนี้เช้าทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม
หญิงสาวนอนหลับใหลไม่ได้สติ กระทั่งรุ่งเช้าเปลือกตาค่อยกะพริบเปิดช้า ๆ
“คุณหนู ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ข้าจะรีบไปบอกหยางอี๋เหนียงว่าท่านฟื้นแล้ว” หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบยื่นหน้าเข้าดูเจ้านาย
โรสในร่างเหมยหลินรีบจับมือหญิงงามตรงหน้าไว้แน่น สมองสับสน จับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“ขอโรสอยู่คนเดียวสักครู่เถอะ เธอออกไปก่อน โรสไม่ทำลายข้าวของและผู้คนหรอก” หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ ทำให้หลานหนิงต้องถอยออกไปอยู่ห่างๆ
โรสลำดับเรื่องราวในหัว เธอปวดหัวมากขึ้นจนแทบจะระเบิดออกมา
“เราไปเที่ยวอยุธยากับมหาลัย โอ๊ย! ปวดหัว รถชนกัน ทุกคนบาดเจ็บสาหัส แต่ทำไมเรามาอยู่ที่นี่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา โรส เธอฝันไปใช่ไหม”
เพียะ!
“อูย เจ็บจังเลย” หญิงสาวเอามือลูบหน้า หลังจากทดลองตบหน้าตัวเองเต็มแรงหนึ่งที สติเริ่มกลับมาหาเธออีกครั้ง
“คุณหนู ท่านเป็นอะไรไป” หลานหนิงรีบเข้ามาหา
“ไม่เป็นไร พี่สาวช่วยบอกฉันที่ว่ามันไม่ใช่ความฝัน” นางเอื้อนเอ่ยวาจา ทำเอาคนฟังตกใจไม่น้อย
“คุณหนูพูดอะไรแปลก ๆ แค่ท่านฟื้นมาพวกเราก็ดีใจมากแล้วเจ้าค่ะ” หลานหนิงจับมือนายสาวหลวมๆ
“พี่สาวชื่ออะไร” โรสถามเสียงเบา หลานหนิงมองหญิงสาวที่ตนดูแลมาตั้งแต่เล็กอย่างไม่เข้าใจ
“ข้าชื่อหลานหนิง คุณหนูจำข้าได้หรือไม่ ส่วนท่านชื่อเหมยหลิน เป็นคุณหนูตระกูลหยาง” สาวใช้จ้องหน้าคนถามที่พยายามลำดับเรื่องราวในสมอง
‘ฉันชื่อโรสต่างหาก ไม่ใช่เหมยหลิน’ เธอโต้แย้งในใจ ไม่พูดอะไรออกไปอีกด้วยกลัวจะทำให้เรื่องปานปลายไปกันใหญ่
“คุณหนูเจ้าคะ” หลานหนิงเขย่าตัวนายสาวเบา ๆ เชิงเรียกสติ เมื่อเห็นอีกคนนิ่งเงียบไม่โต้ตอบอะไรออกมา
“ฉัน เอ่อ ข้าเป็นอะไรไป ทำไมทุกคนถึงดูดีใจเมื่อเห็นข้าฟื้นขึ้นมา” เธอพยายามครุ่นคิด แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่คุ้นเคยกับที่นี่เลยสักนิด แม้แต่ผู้คนยังแปลกประหลาดในความคิดเธอ
“คุณหนูคงนอนนานเกินไปถึงจำไม่ได้กระมัง” คนตรงหน้าเล่าเรื่องที่เธอถูกทำร้ายจากชายชุดดำจนบาดเจ็บสาหัส นอนไม่ได้สติมาเป็นเวลาแรมเดือนให้ฟังอย่างละเอียด
“อ้อ เจ้าต้องช่วยข้าฟื้นความทรงจำ มันคงเป็นเพราะข้านอนมากไปจนสมองเลอะเลือน” หญิงสาวออกตัว เธอเข้าใจในสิ่งที่หลานหนิงพูด คงเป็นเพราะสำนวนพวกนี้เธออ่านเจอในนิยายบ่อยก็เป็นได้
“ได้เจ้าค่ะ อยากรู้เรื่องใด ขอให้คุณหนูถามมาได้เลย” สาวใช้ตอบอย่างกระตือรือร้น
“ที่นี่คือที่ไหน” โรสถามเพื่อคลายความสงสัย
“จวนตระกูลหยางอย่างไรเจ้าคะ” หลานหนิงพยายามทบทวนความจำให้ผู้เป็นนาย
“คุณหนูมีนามว่าหยางเหมยหลิน เป็นบุตรีของเจ้าบ้านตระกูลหยางเจ้าค่ะ” เธอพยักหน้าอย่างพยายามทำความเข้าใจ
“เกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ นี่ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม” เธอพยายามคิดอย่างหนักจนปวดหัว หลานหนิงมองอย่างไม่เข้าใจในตัวอีกฝ่าย
“คุณหนู ข้าจะไปตามท่านหมอลู่มาให้นะเจ้าคะ” โรสรีบห้าม
“ไม่ต้องไปหรอก ข้าไม่ได้เป็นอะไร” เธอลุกขึ้นนั่ง สายตามองไปทั่วห้องนอนอย่างคนใช้ความคิด
“แต่ว่า คุณหนู…เอ่อ พูดจาแปลก ๆ นะเจ้าคะ” นางแย้งเสียงเบา
“ข้าขอนอนพักสักหน่อย เจ้าออกไปก่อนแล้วกัน” เธอบอกหญิงสาวตรงหน้า หลานหนิงรีบเดินไปที่ประตูบานใหญ่
“เชิญคุณหนูพักเถอะ” สาวใช้เหมยหลินกำลังจะจากไป
“เจ้าไม่ต้องไปบอกหยางอี๋เหนียงว่าข้าฟื้นแล้ว” หญิงสาวพยักหน้าน้อย ๆ แล้วผลักประตูออก
โรสส่องกระจกบานใหญ่ ลวดลายขอบข้างเป็นเถากุหลาบดอกเล็กเลื้อยเป็นช่อยาว
“รูปร่างหน้าตา การแต่งกายมันไม่ใช่เรา เธอคนนี้เป็นใคร” รูปร่างที่เคยอวบอ้วนหายไป เงาสะท้อนในกระจกเป็นสตรีผอมเพรียว โรสเอามือลูบไปตามใบหน้าที่สวยงาม
“เรามาอยู่ในร่างของใคร ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา” เธอทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ มองไปยังโต๊ะไม้กลางห้องที่วางแจกันดอกไม้ใบใหญ่
“ตาจ๋า ยายจ๋า โรสมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หนูจะไปหาตากับยาย” เธอไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงฟื้นมาในร่างคนอื่น ยุคสมัยและวัฒนธรรมก็แตกต่างกันสิ้นเชิง โรสคิดถึงตากับยายคนจับใจ จะต้องหาทางกลับบ้านไปหาทั้งสองคนให้ได้ หญิงสาวคิดอย่างหนัก หันไปมองประตูบานใหญ่ หลังประตูคือการเปิดโลกใบใหม่ที่เธอไม่คุ้นเคย
หญิงสาวเปิดประตูเบา ๆ เธอเดินไปตามทางที่ปูด้วยหินก้อนเล็กลวดลายงดงาม
“คุณหนู ท่านฟื้นแล้ว” ผู้คนแต่งกายแปลกประหลาด บรรยากาศสถานที่เหมือนในนิยายจีนที่เธอชอบอ่าน
“ข้าหลุดเข้ามาในโลกของนิยายเข้าแล้ว” หญิงสาวทั้งตกใจทั้งตื่นเต้น
“คุณหนู ท่านออกมาเดินเล่นได้แล้วหรือ พวกข้าดีใจเหลือเกินที่ท่านฟื้นสติ” ทุกคนหันไปทำความเคารพเธออย่างนอบน้อม
“ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม” โรสรีบเดินหนีกลับเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเธอในขณะนี้
