3
ตอนที่ 3
ภายในห้องนอนตกแต่งเรียบง่ายมีเพียงเตียงนอน โต๊ะ เก้าอี้สำหรับอ่านหนังสือ ตู้เก็บหนังสือสันปกเรียงรายตามความชอบของเจ้าของห้อง มันน่าจะเป็นห้องสมุดมากกว่าห้องนอนเด็กสาววัยสิบแปดปีหยิบหนังสือเล่มหนา
“เรื่องนี้อยากอ่านมานานแล้ว อ่านหน่อยดีกว่าเรา” เธอกระโดดขึ้นนอนเล่นบนเตียง เปิดหนังสือนิยายจีนโบราณเล่มโปรดอ่าน
“ได้เวลาท่องยุทธภพแล้วเรา อ่านไปมาชักอยากเป็นจอมยุทธ์หญิง มีเพลงยุทธ์ที่เก่งกาจแบบนางเอกนิยายจีนโบราณบ้างแล้วสิ” ถึงแม้เธอจะไม่เห็นภาพแต่สามารถรับรู้ได้ทางตัวอักษร
เวลาผ่านไปเที่ยงคืนกว่าๆ
“ตายแล้ว! เกือบตีหนึ่ง! อยากอ่านให้จบเรื่องจังเลย เอาไว้ อ่านเสาร์อาทิตย์แล้วกัน” คั่นหน้าล่าสุดไว้ด้วยความเสียดาย เด็กสาววางหนังสือนิยายจีนโบราณลง เปลือกตาเริ่มหนักอึ้ง
“นอนดีกว่าเรา พรุ่งนี้จะได้ไม่ตื่นนอนสาย ไม่งั้นยายจ๋าบ่นแน่ ๆ เลย” เด็กสาวปิดไฟหัวเตียง หลับตาไม่นานเธอก็นอนหลับสนิท เผยรอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้าอ่อนเยาว์
ในป่าใหญ่ที่มืดสนิท
“ช่วยฉันด้วย” หญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือ
“พวกเจ้าปล่อยนาง ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” คนร้ายเปลี่ยนจากไล่ล่าหญิงสาวมาเป็นเจ้าของเสียงแทน
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า อย่ามาสอดดีกว่า” มันด่าออกมา
โครม!
ชายหนุ่มแปลกหน้าใช้มือเปล่าซัดใส่คนร้าย ตามด้วยพลังจากปลายเท้าส่งให้พวกมันล้มลง
“ตายเสียเถอะ” พวกมันชักดาบเข้าฟาดฟัน ชายหนุ่มลอยตัวขึ้นมาพร้อมโอบกอดหญิงสาวพาข้ามหัวพวกมันไป
“ข้าไม่อยากทำร้ายพวกเจ้า” เขาตะโกนดัง พวกมันวิ่งตามแต่ไม่ทัน
“ว้าว หล่อมาก เก่งมาก สุดยอด” โรสตาเป็นประกายมองชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มให้เธอ
“ข้าส่งเจ้าแค่นี้แล้วกัน” ชายหนุ่มปล่อยหญิงสาวลง เขาใช้วิชาตัวเบาหายไปในอากาศ
“ท่านอย่าเพิ่งไป รอข้าก่อน...” หญิงสาวเอื้อมมือคว้า
“โรส ตื่นนอนได้แล้ว เกือบหกโมงเช้าแล้วนะ” กลายเป็นเสียงเรียกผู้เป็นยายแทน
“ตายแล้ว!! สายจริง ๆ ด้วย” เด็กสาวคว้านาฬิกาหัวเตียง รีบวิ่งเข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
“สาวน้อยตัวอ้วนผมหยิกจะมีหนุ่มหล่อที่ไหนมาสนใจ แต่ไม่แน่นะ วันหนึ่งเราอาจสวยขึ้นก็ได้ ฮ่า ๆ” เธอปลงตกตัวเอง ส่ายหัวหมุนตัวซ้ายขวามองสำรวจเงาในกระจก ทว่าเงาสะท้อนกลับเป็นจอมยุทธ์หนุ่ม ยืนคู่กับหญิงสาวหน้าตาเหมือนเธอแต่รูปร่างผอมเพรียว
“บ้าไปแล้วยายโรส อ่านนิยายมากไป มันแค่เป็นความฝันเท่านั้น” เธอรีบขยี้ตา ตอนนี้เห็นเพียงความว่างเปล่า
ช่วงเช้าหญิงชราถือขันข้าวรอใส่บาตรพระอยู่หน้าบ้าน เธอเดินเข้าไปหอมแก้มผู้เป็นยาย “ยายจ๋า หนูไปมหาวิทยาลัยก่อนนะจ๊ะ”
“วันนี้หลานจะกลับบ้านค่ำไหมจ๊ะ” ยายถามอย่างเป็นห่วง
“หนูยังไม่รู้เลย แต่คงกลับบ้านไม่ดึกหรอกจ้ะ” โรสตอบพลางช่วยยายถือถาดขนม
“หลานดูแลตัวเองดี ๆ นะ ยายเป็นห่วง” ความจริงหญิงชราไม่เคยให้หลานสาวเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว
“หนูไม่เป็นไร หนูดูแลตัวเองได้จ้ะ” เธอวางถาดบนโต๊ะไม้
“เมื่อคืนตาจ๋ากลับบ้านดึกไหม” หญิงสาวมองหาคนเป็นตา ทำให้ยายหัวเราะ
“ไม่ได้กลับจ้ะ โทรมาบอกว่านอนบ้านเพื่อนเลย หลานรีบไปเถอะ ประเดี๋ยวจะสายเอาเปล่า ๆ” หญิงชรามองหลานสาวที่เพิ่งเดินผ่านไป แต่เธอเห็นหลานสาวกายตุ้ยนุ้ยกลายเป็นสาวร่างบางผอมเพรียว
“อุ๊ย!! มันเกิดอะไรขึ้น” นางขยี้ตาแรง ๆ ภาพที่ปรากฏกลับเป็นหลานสาวยิ้มแก้มยุ้ยโบกมือให้คนเป็นยาย
“ตาฝาดไปแล้วเรา” พระสงฆ์เดินบิณฑบาตเข้ามาพอดี หญิงชราใส่บาตรข้าวปลาอาหารพร้อมดอกไม้ธูปเทียน รับพรแล้วก็เดินไปกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร
ภายในมหาวิทยาลัยดัง รถตู้ของมหาวิทยาลัยจอดรอนักศึกษา
“วันนี้ทำไมเธอมาสายได้อะ” บัวชมพูถามเพื่อนรักที่วิ่งกระหืดกระหอบมา โรสยิ้มตาหยีแทบไม่เห็นลูกตา
“ฉันอ่านหนังสือนิยายดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย” โรส สารภาพเบา ๆ กลัวคนอื่นได้ยิน
“เก็บพระเอกในนิยายไปฝันหวานด้วยเปล่า” บัวชมพูแซวเพื่อนรักขณะที่ก้าวขึ้นพร้อมกัน
“บ้าน่ะ” โรสเขินอาย
“ยายโรสไม่ต้องอายหรอก ฉันก็เคยฝันบ่อย ๆ ว่าพระเอกในนิยายเป็นแฟนฉันถ้าอ่านเรื่องที่ชอบอะ” บัวชมพูกระซิบกระซาบ
“สองสาวคุยอะไรกัน อาจารย์เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตั้งแต่รถตู้ออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว” อาจารย์ที่มาด้วยถามเสียงดัง
“เปล่าค่ะอาจารย์” สองสาวประสานเสียงตอบ
“ไม่ต้องแย่งกันตอบหรอกจ้า แค่เห็นลูกศิษย์ยิ้มอย่างมีความสุขอาจารย์ก็ดีใจแล้ว”อาจารย์หัวเราะเบาๆ บัวชมพูยิ้มหวานตอบ
“เรื่องนี้ไงงานเขียนที่ชอบ ออกมาสองเล่มแล้วอะ” โรสหยิบหนังสือนิยายเล่มโปรดส่งให้เพื่อนสาว
“เธอเอาเล่มหนึ่งไปอ่านไหม ฉันกำลังอ่านเล่มสองอยู่” บัวชมพูรับมาดูปกหน้าปกหลัง
“ว้าว พระเอกหล่อจังเลย แถมนางเอกสวยเหมือนเธอใช่ไหม” บัวชมพูแซวเพื่อนรักที่เขินอายกับพระเอกในนิยาย
“บ้าไปแล้ว”โรสเขินอายหน้าแดง
“ถ้าถึงอยุธยาแล้ว ขอให้นักศึกษาเก็บรายละเอียดและรูปถ่ายไว้ทำรายงานให้อาจารย์ด้วยนะคะ” เสียงอาจารย์สั่งงานดังแทรกความเงียบขึ้นมา
กิจกรรมทัศนศึกษาในครั้งนี้ สิ้นสุดลงที่วัดใหญ่ชัยมงคล นักศึกษาพากันเดินดูองค์เจดีย์ใหญ่
“พวกเราเข้าไปในวิหารพระพุทธไสยาสน์กันเถอะ ข้างในเป็นที่ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่” อาจารย์เล่าให้นักศึกษาฟัง
“พวกเราไปขอพรท่านให้ได้แฟนหล่อ ๆ กันนะ” บัวชมพูแซวเพื่อนรัก
“เธออย่ามาแย่งพระเอกขี่ม้าขาวของฉันไปนะ” โรสแย้งเบา ๆ สองสาวเดินตามกันไป
ประมาณทุ่มครึ่ง ท้องถนนเต็มไปด้วยรถราแล่นแซงกันไปมา ทุกคันต่างเร่งรีบกลับที่พัก
“เฮ้ย! สิบล้อวิ่งข้ามเลนมา!” คนขับรถตู้มหาวิทยาลัยพยายามบังคับพวงมาลัย
โครม!!
“ช่วยด้วยมีคนได้รับบาดเจ็บ!” รถฉุกเฉินวิ่งเปิดไฟขอทางไปมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกั้นทางให้รถที่ตามมาแซงออกข้าง
“คนเจ็บอยู่ที่ไหน มีใครเป็นอะไรบ้างครับ” เป็นเสียงที่ โรสได้ยินก่อนที่จะสิ้นสติ
“ช่วยด้วยค่ะ” หญิงสาวไขว่คว้าอากาศ ขอความช่วยเหลือ เปลือกตาหนักอึ้ง สมองงุนงง แขนขาเริ่มอ่อนแรง ตาหลับลงช้า ๆอย่างหมดกำลัง
รถฉุกเฉินพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจเคลียร์ท้องถนนให้รถใช้สัญจร รถลากมาเก็บซากรถตู้กับรถบรรทุกสิบล้อที่ชนกันเข้าข้างทาง เป็นภาพที่ชวนให้ผู้เห็นเหตุการณ์สลดใจ
