บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 หญิงงามจากแดนใต้

"ท่าน..."

"ข้าไม่นิยมชมชอบทำร้ายหญิงงามหรอก มีแต่จะมอบความสุขให้ เจ้างดงามยิ่งนัก บอกข้ามาเถิดว่าเจ้าชื่ออะไร"

วาจาของเขาสร้างความประหลาดใจให้หญิงสาวไม่น้อย ในนิยายตัวร้ายรักนางเอกสวีอี้ฝานมากไม่ใช่หรือ คงเป็นเพราะเขาอกหักจนเปลี่ยนนิสัยกลายมาเป็นคนเจ้าชู้เสเพลกระมัง

"หม่อมฉันชื่อเยี่... หงอี้หยวนมาจากเมืองใต้เพคะ" กำลังจะเอ่ยชื่อของเจ้าของร่างออกไป แต่เยี่ยนเหลียนหรงกลับชะงักไปเสียก่อน นางคิดได้ว่าหากบอกชื่อเสียงเรียงนามของนางจริงๆ ไป เขาไม่มีวันหานางเจอหรอก เพราะหงอี้หยวนไม่ได้มีตัวตนอยู่ที่นี่ แต่ถ้าหากบอกว่าชื่อเยี่ยนเหลียนหรง เขาคงจะสืบเสาะหาตัวของนางได้ไม่ยาก ในเมื่อเขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นใคร นางจะขอเอาตัวรอดโดยการปิดบังตัวตนของนางเอาไว้ดีกว่า

หวางจื่อชางกระตุกยิ้มขึ้นมาเบาๆ เมืองใต้มีอยู่ไม่กี่เมืองในแคว้นฮั่น หากเขาจะตามหาตัวนางย่อมหาได้ไม่ยาก นิ้วเรียวลูบแก้มของนางเบาๆ สองสามหน ส่งสายตามองหญิงงามตรงหน้าด้วยความเสียดาย หากแต่ตอนนี้เขามีภารกิจที่จะต้องไปทำต่อจึงต้องปล่อยมือออกจากนาง ก่อนจะรีบกระโดดหายออกไปทางหน้าต่าง

เยี่ยนเหลียนหรงรอจนแน่ใจว่าหวางอ๋องจะไม่กลับมาอีก นางจึงรีบวิ่งไปปิดหน้าต่างทุกบานพลางลั่นกลอนอย่างแน่นหนา ก่อนที่จะเอ่ยปากร้องเรียกไป๋เฉียนให้เข้ามานอนเป็นเพื่อน ไป๋เฉียนเดินงัวเงียเข้ามาด้วยความแปลกใจ แต่กระนั้นก็ต้องทำตามคำสั่ง ไม่นานก็ผล็อยหลับไปปล่อยให้เยี่ยนเหลียนหรงนอนลืมตาโพลงด้วยความหวาดระแวงไปตลอดทั้งคืน

นับตั้งแต่วันที่หวางจื่อชางบุกรุกเข้ามาที่โรงเตี๊ยมสกุลเยี่ยนในวันนั้น เยี่ยนเหลียนหรงก็ไม่กล้ากลับไปนอนที่โรงเตี๊ยมอีก เช้าตรู่ของวันที่สองนางรีบกลับจวนสกุลเยี่ยนท่ามกลางความแปลกใจของท่านพ่อเยี่ยนปิ่งซงและท่านพี่เยี่ยนหรงซาน จนกระทั่งเวลาล่วงเข้าสู่วันที่สาม นับว่ากลวิธีเรียกลูกค้ากลับคืนของนางนั้นได้ผลดียิ่งนัก จากเดิมที่สกุลเยี่ยนแทบไม่มีลูกค้าเดินเข้าโรงเตี๊ยมแม้แต่เงา บัดนี้กลับมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสายท่ามกลางความดีใจของคนสกุลเยี่ยน

"คุณหนูเจ้าคะ ขนมหมาฮัวที่คุณหนูให้คนครัวเตรียมเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ" ไป๋เฉียนเดินเข้ามาในหอนอน ก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปหาเจ้านายสาวที่กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งพลางแต่งแต้มเครื่องประทินโฉมลงบนใบหน้าไปด้วย

"ดีมาก ข้าเองก็แต่งตัวเสร็จแล้ว เรารีบไปกันเถิด" ร่างบางอยู่ในชุดสีม่วงสดใสมีผ้าคลุมไหล่ผืนบางสีม่วงอ่อนเข้าชุดเหมาะกับวสันตฤดูผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้

"คุณหนูแน่ใจหรือเจ้าคะว่าจะไปพบท่านหญิงหลินเจิ้นหลาน" ไป๋เฉียนถามด้วยความไม่แน่ใจ คนร้ายกาจอย่างคุณหนูของนางน่ะหรือต้องการยุติความบาดหมางกับท่านหญิงเจิ้นหลาน ลางทีนางอดคิดไม่ได้ว่าหรือว่าคุณหนูเยี่ยนเหลียนหรงจะมีแผนอะไรอยู่กันแน่

"แน่ใจสิไป๋เฉียน ข้าไม่อยากทะเลาะกับท่านหญิงเจิ้นหลานเพราะเรื่องผู้ชายหรอกนะ มันเป็นเรื่องไร้สาระจะตายไป" หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย คนอย่างนางในยุคปัจจุบันมีผู้ชายมาขายขนมจีบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระเอกแถวหน้าของประเทศ หรือแม้กระทั่งพวกไฮโซ หรือลูกหลานจากตระกูลดังต่างๆ แต่เป็นนางเองนั่นแหละที่ไม่สนใจใคร

"อีกอย่างข้าไม่ได้รักสวีชางหมิงเสียหน่อย" เยี่ยนเหลียนหรงยกยิ้มขึ้นเบาๆที่มุมปาก เจ้าของร่างเดิมจะเป็นอย่างไรนางไม่รู้ แต่สำหรับนางที่มาอยู่ในร่างนี้จะแก้ไขเรื่องราวที่เยี่ยนเหลียนหรงเคยทำผิดพลาดเอาไว้เพื่อไม่ให้คนสกุลเยี่ยนต้องเดือดร้อนไปมากกว่านี้

"ไม่ได้รักหรือเจ้าคะ" ไป๋เฉียนขมวดคิ้วมุ่น คุณหนูจะไม่ได้รักคุณชายสวีชางหมิงได้อย่างไรกัน ในเมื่อที่ผ่านมาเป็นนางเองมิใช่หรือที่คอยกลั่นแกล้งรังแกท่านหญิงเจิ้นหลาน เพราะอิจฉาที่คุณชายสวีชางหมิงรัก

"เอ่อ ข้าหมายถึงแค่เคยรักน่ะ" เยี่ยนเหลียนหรงรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางสงสัยของสาวใช้คนสนิท แต่ก่อนที่จะทำให้นางสงสัยไปมากกว่านี้จึงรีบออกตัวเดินลิ่วตรงไปขึ้นรถม้าที่จอดรออยู่หน้าประตูจวน

รถม้าคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าประตูจวนสกุลหลิน รอเพียงไม่นานก็มีพ่อบ้านประจำตระกูลออกมาต้อนรับและพานางมานั่งรอที่โถงรับแขก แม้เขาจะต้อนรับขับสู้นางเป็นอย่างดี แต่เยี่ยนเหลียนหรงสัมผัสได้ถึงสายตาแปลกๆยามที่เขาจ้องมองมา ไหนจะบรรดาสาวใช้ภายในจวนอีกเล่า หญิงสาวคิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องบาดหมางในอดีตระหว่างนางกับท่านหญิงหลินเจิ้นหลานกระมัง

ระหว่างที่นั่งรอพ่อบ้านประจำตระกูลไปแจ้งแก่ท่านหญิงเจิ้นหลานว่านางมาขอพบ ดวงตาคู่งามก็กวาดตามองไปรอบๆอย่างสำรวจไปด้วย นางพบว่าจวนสกุลหลินแห่งนี้ใหญ่โตไม่แพ้จวนสกุลเยี่ยนของนาง ถึงแม้จะไม่ใช่ตระกูลขุนนาง แต่จวนของนางก็หรูหราไม่แพ้จวนของท่านหญิงเจิ้นหลาน

เยี่ยนเหลียนหรงรู้มาว่า ท่านหญิงเจิ้นหลานนั้นเป็นญาติผู้น้องของหวางจื่อชางอ๋อง และเสด็จแม่เป็นน้องสาวญาติห่างๆของหวางฮ่องเต้ ที่ไปแต่งงานกับขุนนางสกุลหลินที่เป็นสหายสนิทของหวางฮ่องเต้และสร้างความดีความชอบโดยการร่วมรบปกป้องบ้านเมืองเคียงบ่าเคียงไหล่กับหวางฮ่องเต้ จึงทำให้หวางฮ่องเต้ประทานยศอ๋องให้ ส่วนหลินเจิ้นหลานนั้นได้เป็นท่านหญิงขั้นสองซึ่งมีศักดิ์ใกล้เคียงกับองค์หญิง

"คุณหนูเหลียนหรง" เสียงหวานไพเราะดังขึ้นที่หน้าประตู ปรากฏร่างบอบบางน่าถนอมของใครบางคนเดินเข้ามา ดวงหน้าของนางงามล้ำราวกับหยกเนื้อดี ดวงตาโศกของนางกะพริบถี่เมื่อเยี่ยนเหลียนหรงเงยหน้าขึ้นประสานสายตา

ดูเหมือนว่าท่านหญิงเจิ้นหลานจะยังคงหวาดระแวงในตัวของนางอยู่มากจึงเลือกที่จะหย่อนกายนั่งลงห่างจากนาง โดยมีเก้าอี้ไม้อีกตัวขั้นกลางอยู่ ทว่าคนอย่างเยี่ยนเหลียนหรงมีหรือจะปล่อยผ่าน ทันทีที่ท่านหญิงเจิ้นหลานนั่งลง นางจึงรีบลุกขึ้นไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ข้างๆของท่านหญิงเจิ้นหลาน

"ท่านหญิงเจิ้นหลานเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นแล้วหรือไม่"

ดวงตาคู่งามของนางหรี่ลงเล็กน้อย มองเยี่ยนเหลียนหรงอย่างจับผิด ไม่ค่อยไว้ใจสหายผู้นี้มากนัก ที่ผ่านมามีคนคอยเตือนนางตลอดว่าเยี่ยนเหลียนหรงเป็นคนร้ายกาจ หากแต่นางไม่ยอมฟังเพราะคิดว่านางกับสตรีผู้นั้นเป็นสหายสนิทกัน ถึงแม้จะโดนกลั่นแกล้งรังแกแต่ก็ยอมปล่อยผ่านทุกครั้ง จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นเมื่อหลายวันก่อน เยี่ยนเหลียนหรงถึงขั้นวางแผนคิดจะสังหารนาง ยามนี้นางตาสว่างแล้วและไม่คิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับคนตรงหน้าอีกต่อไป

"ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่คงเพราะฟ้ายังเมตตาวันนั้นเลยรอด" หลินเจิ้นหลานกล่าวตอบด้วยวาจาเหินห่าง พร้อมปรายตามองไปทางอื่นไม่สบตากับคนตรงหน้าแต่อย่างใด

"ข้าขอโทษจริงๆนะ ข้ารู้ว่าข้าทำความผิดร้ายแรงกับท่าน แต่ต่อไปนี้ข้าขอสาบานว่าจะไม่ทำเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว ข้ารู้ว่าท่านโกรธข้ามาก ข้าจะไม่ขอให้ท่านอภัยข้าในตอนนี้ แต่ข้าอยากบอกท่านว่าข้าสำนึกผิดจริงๆ" แม้ว่าอันที่จริงแล้วข้าจะไม่ได้เป็นคนทำก็ตาม ในใจของเยี่ยนเหลียนหรงรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย นางไม่ได้เป็นคนทำร้ายท่านหญิงเจิ้นหลานเสียหน่อย แต่ต้องมาตามเช็ดตามล้างเรื่องวุ่นวายที่เจ้าของร่างเดิมเคยทำเอาไว้

หลินเจิ้นหลานได้ยินน้ำเสียงรู้สึกผิดของเยี่ยนเหลียนหรงก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่กระนั้นนางก็ทำใจแข็ง ทำทีเป็นไม่สนใจคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

"ท่านหญิงเจิ้นหลานข้าทำขนมหมาฮัวมาให้ ของโปรดท่านไม่ใช่หรือ หันมาชิมเสียหน่อยเถิด" เยี่ยนเหลียนหรงกล่าวอย่างเอาใจ นางสืบรู้มาว่าท่านหญิงเจิ้นหลานชอบขนมหมาฮัวมาก จึงสั่งให้คนครัวเตรียมไว้ให้ก่อนมาที่นี่

หลินเจิ้นหลานได้ยินเช่นนั้นจึงผินหน้าหันกลับมา ก่อนจะเหลือบไปเห็นนิ้วเรียวที่ถูกพันผ้าสีขาวเอาไว้ นางจึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

"นิ้วของคุณหนูเหลียนหรงไปโดนอะไรมาหรือ"

"โดนน้ำร้อนลวกตอนทำขนมน่ะ" เยี่ยนเหลียนหรงใช้มืออีกข้างลูบผ้าพันแผลเบาๆพลางส่งยิ้มจืดเจื่อนให้ท่านหญิงเจิ้นหลาน

หลินเจิ้นหลานไม่ตอบอะไร นางรับขนมมาจากเยี่ยนเหลียนหรงก่อนจะส่งมันเข้าปากเคี้ยวไปมา

"ท่านหญิงเจิ้นหลาน ท่านไว้ใจข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ กินขนมข้าเช่นนั้นไม่กลัวข้าวางยาพิษหรืออย่างไรกัน" เยี่ยนเหลียนหรงถามด้วยความประหลาดใจ เยี่ยนเหลียนหรงคนก่อนเคยทำร้ายกาจจนท่านหญิงเจิ้นหลานเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่นางยังไว้ใจรับขนมมากินโดยไม่ระแวงสงสัยอะไรเลย

'นางโง่หรือบ้ากันแน่นะ' หญิงสาวคิดในใจ

"หากคุณหนูเหลียนหรงวางยาพิษข้าแล้วข้าตายไป ข้าก็ไม่โกรธท่านหรอก จะคิดเสียว่าชีวิตนี้ของข้าได้ชดใช้หนี้บุญคุณที่ท่านเคยช่วยชีวิตข้าในตอนเป็นเด็กไปหมดแล้ว"

คำตอบของนางทำให้คนฟังอึ้งไปไม่น้อย ความละอายใจตีตื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่นางจะดึงผ้าพันแผลที่นิ้วออก

"ท่านหญิงเจิ้นหลาน อันที่จริงข้าไม่ได้เป็นคนทำขนมหมาฮัวนั่นหรอก แต่ข้าสั่งให้คนครัวทำให้ต่างหาก แล้วมือข้าก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรด้วย ข้าโกหกท่านเพราะต้องการให้ท่านสงสารและให้อภัยข้า"

"ข้ารู้อยู่แล้วล่ะ คนอย่างคุณหนูเหลียนหรงน่ะหรือจะเข้าโรงครัวทำอาหาร ในเมื่อท่านเป็นคนบอกข้าเองว่าไม่ต้องการให้ผมและชุดมีกลิ่นอาหารติด"

เยี่ยนเหลียนหรงถึงกับอ้าปากค้าง แท้จริงแล้วท่านหญิงเจิ้นหลานไม่ใช่คนโง่เลย แต่ท่านหญิงกำลังทดสอบนางอยู่ต่างหาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel