
บทย่อ
สตรียุคใหม่ต้องเข้าไปอยู่ในโลกนิยายที่จบไปแล้ว หนำซ้ำยังถูกตัวร้ายตามสังหารเพราะเจ้าของร่างเดิมดันไปทำร้ายน้องสาวสุดที่รักของเขา นางจึงต้องหากลวิธีให้ตัวร้ายลุ่มหลง เผื่อเขาจะยอมละเว้นชีวิตน้อยๆของนาง
บทที่ 1 ทะลุมิติมาก็เกิดเรื่อง!
ณ เมืองหลวง ค.ศ. 2024
วันนี้ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส หงอี้หยวนก้าวขาลงมาจากรถสปอร์ตคันหรู ร่างบางแต่งกายด้วยชุดแซนตี้สีแดงเข้มสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย อวดขายาวในเวลาที่เธอก้าวเดิน หญิงสาวเดินเข้าไปในโรงแรมอันเป็นสถานที่จัดงานสังสรรค์เทศกาลยอดฮิตกับบรรดาเหล่าเพื่อนสนิทในวงการบันเทิงอันเลื่องชื่อของประเทศ
มือบางหยิบแว่นดำขึ้นมาสวมใส่เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครจำนางเอกดังตัวแม่แห่งยุคอย่างเธอได้ เพราะไม่อยากให้เป็นข่าว สำหรับดาราเบอร์หนึ่งของช่องเพียงแค่ขยับตัวนิดหน่อยก็เป็นข่าวแล้ว หญิงสาวก้าวเดินเข้าไปในลิฟต์ นิ้วเรียวกดไปยังปุ่มกดบอกเลขชั้น 32 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าของโรงแรมหรู ยืนรออยู่สักพักลิฟต์โดยสารก็พามาถึงจุดหมาย
ตริ๊ง!
ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออก หงอี้หยวนก้าวฉั่บๆเดินออกจากลิฟต์ด้วยความมั่นใจ ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นม่านหมอกหนาเกาะกินบรรยากาศไปทั่วบริเวณทำให้หงอี้หยวนรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาไปทั่วสรรพางค์ หญิงสาวยกมือขึ้นกอดตนเองเพื่อคลายความหนาว เดินฝ่าหมอกไปได้สักพักก็เห็นจุดหมายปลายทางอยู่รำไร ทว่ากลับต้องร้องอุทานด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นบรรยากาศรอบกายไม่ใช่สถานที่จัดเลี้ยงในชั้นดาดฟ้าอันเป็นจุดหมายปลายทางของเธอ แต่มันคือสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง ข้างหน้ามีสระน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่แทน!
หงอี้หยวนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะเหลือบไปเห็นผู้หญิงสองคนยืนอยู่ ขาเรียวจึงก้าวเดินตรงไปหา ก่อนจะพบว่าผู้หญิงสองคนนี้แต่งตัวแปลกพิลึกพิกลยิ่งนัก
"เอ่อ คุณคะที่นี่ใช่โรงแรม xx หรือเปล่าคะ"
"..." มีเพียงซึ่งความเงียบ ผู้หญิงทั้งสองคนนั้นไม่ได้สนใจในสิ่งที่หงอี้หยวนถามเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเธอกลับกำลังพูดคุยกันพร้อมหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน ซึ่งพูดอะไรกันนั้น หงอี้หยวนก็ไม่ได้ยินเหมือนกัน
"นี่พวกเธอน่ะ กล้าเมินฉันเหรอ รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร!" หงอี้หยวนพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เธอคือนางเอกดังที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนี้เชียวนะ! มือบางเอื้อมตรงไปหมายจะสะกิดแขนเรียวของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า หากแต่ว่ากลับคว้าได้เพียงแค่อากาศ
หงอี้หยวนตะลึงงัน ฉับพลันผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ทางขวาก็โบกมือให้อีกคน ก่อนจะหมุนกายหันหลัง ทว่าคนที่ยืนอยู่ฝั่งซ้ายมือกลับวิ่งตรงไปยังสระน้ำพร้อมกระโดดลงไป
ตูมมม!
เสียงผิวน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้าง ร่างบางผลุบๆโผล่ๆอยู่บนผิวน้ำ ก่อนจะค่อยๆจมหายลงไป
"เหลียนหรง!" หลินเจิ้นหลานขานเรียกชื่อสหายด้วยความตกใจ ไม่รอช้านางรีบกระโดดลงไปในน้ำหมายจะช่วยเยี่ยนเหลียนหรงสหายรักของตน โดยลืมไปว่าตนเองนั้นว่ายน้ำไม่เป็น
"กรี๊ดดดด! ท่านหญิงเจิ้นหลานตกน้ำเจ้าค่ะ!"
เมื่อนั้นร่างของหงอี้หยวนก็ถูกดูดเข้าไปยังร่างนั้น หญิงสาวลืมตาขึ้นพรวด เมื่อเห็นว่าร่างของเธอกำลังจมลึกลงไปใต้น้ำ เธอจึงรีบว่ายขึ้นไปบนเหนือผิวน้ำด้วยความรวดเร็ว
หงอี้หยวนตกใจไม่น้อย เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอนึกสิ่งใดไม่ออก แต่เมื่อสิ้นเสียงร้องของคนที่ยืนอยู่บนบกก็ปรากฏบุรุษร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งกระโดดลงน้ำ ว่ายเข้าไปถึงตัวหลินเจิ้นหลานพร้อมพานางว่ายขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!" หงอี้หยวนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เธอตั้งใจจะมาปาร์ตี้สุดเหวี่ยงฉลองวันคริสต์มาสกับเพื่อนๆแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้มาโผล่ในสถานที่แปลกประหลาด อีกทั้งยังพบเจอแต่คนแปลกๆอีกด้วย
"ไม่อยู่แล้ว รีบหาทางออกก่อนดีกว่า" หญิงสาวรีบว่ายกลับขึ้นมาบนฝั่ง เหลือบมองไปยังคนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้นหญ้า ก่อนจะรีบออกตัววิ่งใส่เกียร์หมาหนีออกไปอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งฝ่าสวนดอกไม้หาทางออก แต่แล้วจู่ๆก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ร่างบางซวนเซรู้สึกปวดศีรษะอย่างมาก สุดท้ายก็ทิ้งร่างลงบนพื้นพร้อมกับสติที่หลุดลอยไป!
เจ็ดวันให้หลัง
ตุ้บ!
"โอยย! เจ็บ!" ร่างบางของเยี่ยนเหลียนหรงผุดลุกขึ้นจากข้างเตียงพลางใช้มือลูบสะโพกของตนป้อยๆด้วยความเจ็บปวด เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นตามกรอบหน้าเรียว หญิงสาวหอบหายใจเข้าออกจนทรวงอกสะท้านขึ้นลงอย่างเหนื่อยหอบ
แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปจนถึงเจ็ดวันนับตั้งแต่ที่วิญญาณของหงอี้หยวนได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้ นางก็มักจะผวาถึงเหตุการณ์ที่เยี่ยนเหลียนหรงแกล้งตกน้ำแล้วสตรีหน้าตางดงามที่แสนใจดีที่นางได้มารู้ภายหลังว่าชื่อท่านหญิงหลินเจิ้นหลานได้กระโดดตามลงไปช่วยจนตกน้ำจนแทบเอาชีวิตไม่รอด
หลังจากที่สลบไปในวันนั้นและฟื้นคืนสติในอีกหนึ่งวันต่อมา ก็ได้รับรู้ว่าหลายคนก่นด่าสาปแช่งถึงความใจร้ายอำมหิตของนางที่ต้องการจะทำร้ายท่านหญิงหลินเจิ้นหลาน แกล้งทำทีเป็นตกน้ำตกท่าเพื่อให้ท่านหญิงหลินเจิ้นหลานช่วยเหลือ ทั้งๆที่นางว่ายน้ำไม่เป็น
วิญญาณของหงอี้หยวนที่ได้มาอยู่ในร่างของเยี่ยนเหลียนหรงได้แต่เปล่งเสียงกรีดร้องด้วยความโกรธแค้นใจ ในตอนที่เธอสิ้นสติอยู่นั้นก็บังเกิดภาพของตนเองที่กำลังเดินทางไปร่วมงานปาร์ตี้คริสต์มาสสุดเหวี่ยงกับเพื่อนๆดารา แต่ทว่าลิฟต์โดยสารที่เธอใช้โดยสารมาเกิดค้างทำให้เธอขาดอากาศหายใจตาย
ส่วนสาเหตุที่ได้ทะลุมิติเข้ามาในนิยายที่จบไปแล้วเรื่องนี้น่ะหรือ คงเป็นเพราะว่าหงอี้หยวนได้ถูกวางตัวให้เป็นนางเอกนิยายเรื่องนี้ที่มีนามว่า 'สวีอี้ฝาน' คู่กับพระเอกที่ชื่อว่า 'เปาอี้ส่วง' และตัวร้ายที่มีนามว่า 'หวางจื่อชางอ๋อง' ซึ่งเป็นซีรี่ย์ฟอร์มยักษ์แห่งปีที่ทางช่องได้จัดสร้างขึ้นมาเพื่อขอบคุณแฟนๆละครที่คอยติดตามผลงานของเธอมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะจิตผูกพันธ์เพราะกำลังอยู่ในช่วงระหว่างถ่ายทำนั่นเอง
ตอนแรกหงอี้หยวนก็ไม่รู้หรอกว่าเธอเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องที่เธอเล่นเป็นนางเอก จนกระทั่งได้ยินสาวใช้คนสนิทของเจ้าของร่างนี้เอ่ยปากพูดถึงชายหนุ่มที่มีนามว่า 'สวีชางหมิง' น่ะสิ หากอิงตามในนิยายแล้ว สวีชางหมิงก็คือน้องชายของสวีอี้ฝาน ตัวละครที่เธอได้รับบทเป็นนางเอกนั่นเอง
ทว่าตั้งแต่ได้ทะลุมิติเข้ามา เธอยังไม่ได้เห็นหน้าพระเอกนางเอกตัวจริงเสียงจริงเลยแม้แต่หนเดียว หงอี้หยวนคิดว่าคนทั้งสองคงจะเสวยสุขครองรักกันอยู่ที่จวนสกุลเปานั่นแหละ เพราะเวลานี้เรื่องราวเลวร้ายที่คู่พระนางได้เผชิญนั้นได้จบลงไปแล้ว
น่าอิจฉายิ่งนัก!
ตุ้บ!
"น่าเจ็บใจจริงๆ!" ท่านเทพนะท่านเทพ ให้ข้าได้ย้อนเวลากลับมาเหตุใดถึงไม่ให้เป็นนางเอกล่ะเจ้าคะ เหตุไฉนถึงได้ส่งมาอยู่ในร่างของสตรีที่ผู้คนเกลียดชังไปกว่าครึ่งค่อนเมือง ในขณะที่หลินเจิ้นหลานกลับตรงข้าม มีแต่ผู้คนสรรเสริญเยินยอถึงความใจดีของนางที่ยอมเสี่ยงชีวิตกระโดดน้ำลงไปช่วยข้าไว้
"เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ" ไป๋เฉียนที่เปิดประตูเข้ามาแลเห็นเจ้านายนั่งหน้าตื่นอยู่ข้างเตียงจึงรีบปรี่เข้ามาประคองนางลุกขึ้นพลางถามด้วยความห่วงใย
"ข้าละเมอน่ะ"
"คุณหนูคงคิดมากถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นอีกสินะเจ้าคะ" ไป๋เฉียนบีบมือนุ่มนิ่มของเจ้านายเบาๆ ลางทีในตอนกลางคืนนางยังเคยได้ยินเสียงคุณหนูร้องผวาอยู่บ่อยๆ
"คราวหลังคุณหนูอย่าทำเช่นนั้นอีกเลยนะเจ้าคะ คุณหนูเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น ไยวันนั้นถึงได้คิดแกล้งตกน้ำเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงเพียงเพื่อที่จะแกล้งท่านหญิงเจิ้นหลานล่ะเจ้าคะ" ไป๋เฉียนกล่าวเสียงสั่น นางเป็นห่วงคุณหนูของนางจับใจ อันที่จริงเนื้อแท้ของคุณหนูเยี่ยนเหลียนหรงหาใช่คนใจร้าย หากแต่เป็นเพราะความรักที่มีให้คุณชายสกุลสวีผู้นั้นต่างหาก สวีชางหมิงรักอยู่กับท่านหญิงเจิ้นหลาน ทำให้คุณหนูเยี่ยนเหลียนหรงเกิดความริษยาสหายของตน นางจึงคิดว่าหากไม่มีหลินเจิ้นหลาน สวีชางหมิงคงจะหันมารักนางได้ไม่ยาก
"ใช่ ข้ามันโง่จริงๆ" เยี่ยนเหลียนหรงเบ้ปาก เจ้าของร่างนี้เองก็ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ยังกล้าออกอุบายทำทีเป็นแกล้งตกน้ำ สุดท้ายแล้วเป็นอย่างไรเล่า นางก็จมน้ำตายน่ะสิจึงทำให้วิญญาณของหงอี้หยวนเข้ามาอยู่ในร่างนี้แทน ในขณะที่สวีชางหมิงนั้นรีบว่ายน้ำเข้าไปช่วยคนรักโดยไม่ได้สนใจไยดีต่อนางเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะหันออกไปมองนอกหน้าต่างพบว่ายามนี้สายมากแล้ว ดวงตะวันสาดแสงสีแดงไปทั่วบริเวณ
"ท่านพ่อกับท่านพี่อยู่จวนหรือไม่" นางหมายถึงท่านพ่อเยี่ยนปิ่งซงกับท่านพี่เยี่ยนหรงซาน ครอบครัวของเจ้าของร่างนี้
"นายท่านกับคุณชายไม่อยู่เจ้าค่ะออกไปโรงเตี๊ยมตั้งแต่หัววัน เพราะเกิดปัญหาเล็กน้อย"
"ปัญหาอะไรหรือ?" เยี่ยนเหลียนหรงหันมาสบตากับไป๋เฉียนด้วยความสนใจใคร่รู้
"เพราะข่าวลือที่คุณหนูกลั่นแกล้งท่านหญิงเจิ้นหลานเป็นที่โจษจันไปทั่วเมืองหลวง ทำให้บรรดาชาวเมืองต่างพากันออกตัวไม่ขอมาใช้บริการโรงเตี๊ยมสกุลเยี่ยนของเราเจ้าค่ะ" สีหน้าของไป๋เฉียนแลดูกังวลไม่น้อย สกุลเยี่ยนเป็นตระกูลพ่อค้าหาใช่ตระกูลขุนนาง รายได้หลักจึงมาจากกิจการโรงเตี๊ยม หากไม่มีคนมาใช้บริการก็จะขาดรายได้ ยิ่งอยู่ในยุคที่มีโรงเตี๊ยมเปิดใหม่ผุดขึ้นราวดอกเห็นจึงทำให้การแข่งขันสูงขึ้นกว่าเดิม
คิ้วเรียวของเยี่ยนเหลียนหรงขมวดมุ่นเข้าหากัน นางได้มาอาศัยอยู่ในร่างนี้นับว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของสกุลเยี่ยนไปแล้ว หากสกุลเยี่ยนไม่มีเงิน นางจะทำอย่างไรดี ได้ทะลุมิติเข้ามาในยุคโบราณเช่นนี้ก็นับว่าลำบากมากแล้ว หากกิจการโรงเตี๊ยมสกุลเยี่ยนล้มละลาย นางจะหาเงินหาทองที่ไหนใช้ นางไม่อยากกลายเป็นยาจกนะ! ไม่อยากเลยแม้แต่น้อย!