บทที่4 [แม่ดอกบัวขาว]
ภายหลังจากที่เว่ยเว่ยได้ถูกหลิวหยางตามไปต่อว่าถึงที่จวนในครั้งนั้น พร้อมด้วยสาเหตุที่ว่าเว่ยเว่ยได้ตามไปรังแกลู่ซือ สหายคนสนิทของหลิวหยาง หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองเพียงแค่บังเอิญเจอกันก็เท่านั้น และที่คนอื่นเข้ามาเห็นว่าลู่ซือกำลังร้องไห้ นั่นก็เป็นเพราะว่านางกำลังถูกคุณหนูจวนอื่นต่อว่าต่างหาก
คนอื่นเป็นผู้กระทำ หากแต่เว่ยเว่ยที่เพียงแค่เดินผ่านไปก็เท่านั้น สุดท้ายแล้ว เรื่องราวกลับกลายเป็นว่าเว่ยเว่ยได้กลายมาเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างไรกัน ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
ในตอนนั้น เว่ยเว่ยคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คงมีลู่ซืออยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน หากไม่ใช่ลู่ซือนำเรื่องนี้ไปใส่ร้ายนางต่อหลิวหยาง อีกฝ่ายคงไม่โมโหและมาต่อว่านางอย่างแน่นอน เช่นนั้นแล้ว เว่ยเว่ยจึงยิ่งมีความรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของลู่ซือมากยิ่งกว่าเดิม ลำพังความสัมพันธ์ของนางกับหลิวหยางก็ไม่นับว่าจะราบรื่นอยู่แล้ว หากยังมีลู่ซือที่มาคอยสร้างความเข้าใจผิดและคอยคั่นกลางอยู่เช่นนี้ เห็นทีว่านางคงจะไม่มีวันได้ดวงใจของหลิวหยางมาครอบครองอย่างแน่นอน
โดยความเป็นจริงจากเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ ในขณะที่เว่ยเว่ยกำลังเดินไปยังโต๊ะที่ตนเองจองไว้ที่โรงเตี๊ยม ลู่ซือที่กำลังร้องไห้อยู่ก่อนแล้วก็ได้เดินมายังทิศทางที่นางกำลังเดินอยู่ เว่ยเว่ยเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าลู่ซือคงถูกคุณหนูจวนอื่น ๆ กลั่นแกล้งเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน แต่กระนั้น นางก็ไม่คิดที่จะใส่ใจหรือยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออีกฝ่ายแต่อย่างใด นางเพียงแค่อยากจะมานั่งจิบชาและทานขนมเพื่อความสบายใจของตนเองก็เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าตัวปัญหาจะเดินเข้ามาหานางถึงที่เช่นนี้
เว่ยเว่ยยอมรับว่าลู่ซือนั้นมีรูปร่างและหน้าตาที่งดงามมากทีเดียว รูปร่างที่ดูบอบบาง พร้อมด้วยกิริยาที่อ่อนช้อยเช่นนั้น คงทำให้บุรุษมากมายลุ่มหลงและอยากที่จะปกป้องแม่ดอกบัวขาวผู้นี้เป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็ทำให้สตรีด้วยกันหลาย ๆ คนไม่ค่อยชื่นชอบสักเท่าไรนัก รวมไปถึงตัวนางด้วย
นางจะมีใจชื่นชอบให้แก่สตรีที่เป็นคนรักของคู่หมายนางได้อย่างไรกัน
เมื่อเว่ยเว่ยเห็นว่าปัญหากำลังจะมาถึงตัวของนาง เช่นนั้นแล้วนางจึงได้คิดที่จะเดินหลีกเลี่ยงไปทางอื่น วันนี้นางเหนื่อยมากแล้ว ไม่ได้อยากที่จะมีเรื่องกับใครทั้งสิ้น หากแต่จังหวะที่ลู่ซือกำลังจะเดินผ่านเว่ยเว่ยไปนั้น ไม่รู้ด้วยเหตุใด แม่ดอกบัวขาวที่แสนบอบบางนี้กลับสะดุดและล้มลงต่อหน้าของเว่ยเว่ยเสียอย่างนั้น
เว่ยเว่ยไม่เข้าใจเสียจริง เหตุใดทุกอย่างถึงได้ดูเหมาะเจาะและพอดีมากถึงเพียงนี้ จังหวะนั้นไม่ว่าใครมองมาก็คงเข้าใจว่าเป็นนางที่รังแกลู่ซืออย่างแน่นอน อีกทั้งน้ำตาที่ไหลนองอยู่เต็มใบหน้าพร้อมกับร่างบอบบางที่นั่งอยู่ที่พื้น คงทำให้ใครหลายคนเชื่อว่าเป็นนางที่ผลักให้ลู่ซือล้มลงอย่างไม่ต้องสงสัย
เว่ยเว่ยไว้ได้แต่ยิ้มหยันให้แก่ความพยายามของลู่ซือ ถ้าหากว่าอีกฝ่ายอยากที่จะรับบทเป็นนางเอกมากถึงเพียงนั้น เช่นนั้นแล้ว นางก็จะขอน้อมรับบทนางร้ายมาไว้ครอบครองก็แล้วกัน เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้วเว่ยเว่ยจึงได้ต่อว่าลู่ซือกลับไป และนั่นก็คือสาเหตุที่ใครต่อใครต่างเล่าขานกันออกไปว่า นางได้ตามมารังแกลู่ซือถึงโรงเตี๊ยม โดยไม่หวาดกลัวต่อคอยคำครหาของผู้คนเลยแม้แต่น้อย
ภายหลังจากที่หลิวหยางได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ในค่ำคืนนั้นเขาก็ได้ตามไปต่อว่าเว่ยเว่ยถึงจวนสกุลหลี่ ก่อนที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองใกล้ที่จะเดินทางมาถึงจุดแตกหักในอีกไม่ช้า
เมื่อหลิวหยางต่อว่าเว่ยเว่ยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในค่ำคืนนั้น เว่ยเว่ยที่คิดจะตัดใจอยู่แล้ว แต่ภายในใจก็แอบมีความคิดที่ร้ายกาจเกิดขึ้นมาชั่วขณะ โดยเว่ยเว่ยอยากที่จะเอาคืนลู่ซือสักหน่อย ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากเว่ยเว่ยเชื่อว่าการที่หลิวหยางได้มาหาและต่อว่านางนั้น ย่อมต้องมีสาเหตุมาจากลู่ซือที่แอบบิดเบือนเรื่องราวและความเป็นจริงอย่างแน่นอน
‘หากพวกท่านรักและพึงใจในกันและกันมากถึงเพียงนี้ เช่นนั้นตัวข้าก็จะสนองในความรักนี้ของท่านเอง’ เว่ยเว่ยแอบคิดวางแผนที่จะวางยาปลุกกำหนัดให้แก่หลิวหยางและลู่ซือที่โรงเตี๊ยม ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะเอาคืนคู่รักทั้งสองที่แอบมีใจให้กันลับหลังนาง
หลิวหยางกล่าวอ้างว่าไม่อาจถอนหมั้นกับนางได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะรับคนรักอย่างลู่ซือเข้ามาเป็นเพียงอนุได้ เช่นนั้นแล้ว นางจะช่วยทำให้เรื่องราวเหล่านี้มันง่ายขึ้นสักหน่อยก็แล้วกัน หากผู้คนทั้งหลายรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองเช่นนี้แล้ว แม่ทัพเว่ยผู้นั้นจะยังเหลือหนทางที่จะกล่าวอ้างอีกหรือไม่
เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว เว่ยเว่ยจึงได้จ้างให้คนสวมรอยและส่งเทียบเชิญไปให้ลู่ซือและหลิวหยาง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้คนทั้งสองได้มาพบกันที่โรงเตี๊ยม โดยเว่ยเว่ยคิดที่จะอาศัยความเข้าใจผิดที่ว่าต่างฝ่ายต่างก็นัดหมายกันมา ซึ่งภายในห้องนั้น เว่ยเว่ยก็ได้ทำการแอบจุดธูปราคะเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
เว่ยเว่ยเลือกใช้ธูปราคะที่มีราคาที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เหมือนกลิ่นดอกไม้ ไม่ว่าใครได้กลิ่น ก็ยากที่จะแยกออกหรือรับรู้ได้ว่าเป็นธูปชนิดใด
ก่อนที่จะถึงกำหนดนัดหมายของคนทั้งคู่ เว่ยเว่ยก็ได้เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา อาจจะด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ยังมีหลงเหลืออยู่ภายในใจ หรือการที่ความโกรธที่เคยมีนั้นได้ทุเลาลงไปบ้างแล้ว ในที่สุด เว่ยเว่ยก็รีบเดินทางมาที่โรงเตี๊ยม ก่อนที่จะดับธูปนั้นด้วยตนเอง
“ค่อยยังชั่วที่ธูปยังจุดไปได้เพียงไม่นาน อีกทั้งพวกเขายังไม่มาถึง” เว่ยเว่ยเอ่ยกับตนเองด้วยความโล่งใจอยู่หลายส่วน ก่อนที่จะรีบเปิดหน้าต่างออกเพื่อให้อากาศถ่ายเท โดยที่นางได้ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนสีขาวปิดจมูกเอาไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ตนนั้นสูดดมกลิ่นของธูปนี้เข้าไป หากแต่เว่ยเว่ยไหนเลยจะคาดคิด ว่าธูปนี้จะมีฤทธิ์ร้ายแรงมากเพียงใด นางเพียงเผลอสูดดมไปแค่เล็กน้อย แต่กลิ่นหอมและควันของธูปนั้นก็ได้เข้าสู่ร่างกายของนางและกำลังจะออกฤทธิ์ในไม่ช้านี้แล้ว
เว่ยเว่ยที่ยังไม่รู้ว่าชะตาชีวิตต่อจากนี้ของนางจะเป็นเช่นไร ตอนนี้นางได้แต่ใช้มือปัดป่ายไปมา เพื่อให้กลิ่นธูปนั้นจางหายโดยเร็ว โดยที่นางไม่รู้เลยว่า ทุกการกระทำของนางนั้น บัดนี้ได้ตกอยู่ในสายตาของหลิวหยางเป็นที่เรียบร้อย
