6 ลูกไม้ซีทรู
ฉันมาที่ชั้นผู้บริหาร เช็กจนแน่ใจแล้วว่าตอนนี้พี่หมอกคุยอยู่กับฝ่ายขายที่ชั้นสามสิบสาม แล้วตอนนี้คุณไพลิน เลขาท่านประธานก็อยู่ที่นั่นด้วย เลยทำให้ที่หน้าห้องท่านประธานมีแค่คุณวี ผู้ช่วยอีกคนของเขา จะบอกยังไงล่ะ…คุณไพลินที่เป็นเลขาน่ะดูแลเรื่องงานทั้งหมด ส่วนคุณวีที่เป็นผู้ช่วย…ดูแลทุกอย่างตั้งแต่เรื่องงาน ครอบครัว ส่วนเรื่องส่วน…รวมถึงเรื่องของฉัน ซึ่งแน่นอน…ว่าคุณวีรู้สถานะของฉันดีเลยล่ะ
“คุณนับมาทำอะไรครับ?” พอเห็นฉัน คุณวีก็ทำหน้าตกใจ แหงสิ…พนักงานฝ่ายการตลาดตัวเล็กๆ อยู่ๆจะเดินเข้าห้องท่านประธาน ใครเห็นก็ต้องพากันสงสัยแน่ๆ
“นับจะเข้าไปในห้องพี่หมอกค่ะ”
“แต่คุณหมอกไม่อยู่นะครับ”
“นับรู้ค่ะ”
“แล้วจะเข้าไปทำไมล่ะครับ…รอคุณหมอกมาก่อนไม่ดีกว่าเหรอ?”
“นับแค่อยากจะเช็กอะไรสักหน่อย” ฉันรู้ว่าถามเรื่องนี้กับคุณไพลินไม่ได้ และถึงถามคุณวีไป เขาก็คงไม่บอก เพราะแบบนั้นฉันเลยต้องจัดการมันด้วยตัวเอง และอย่างที่บอก…ฉันเช็กจนแน่ใจแล้วว่าทางสะดวก จะไม่มีใครมาเห็นทั้งนั้นว่าฉันเดินเข้าห้องท่านประธาน
ฉันเข้ามาในห้องท่านประธานอย่างง่ายๆ ป่านนี้คุณวีคงรีบไปฟ้องแล้วล่ะ เพราะแบบนั้นฉันต้องรีบ…ตรงเข้าไปที่คอมพิวเตอร์ แต่ท่านประธานของฉันดันใส่รหัสเอาไว้น่ะสิ แบบนี้เสียเวลาชะมัด
ว่าแต่…รหัสผ่านคืออะไรกันนะ?
วันเกิดเขาเหรอ?
ฉันรีบใส่ตัวเลขวันเกิดพี่หมอก แต่มันกลับเข้ารหัสไม่ได้ งั้นแล้วอะไรล่ะ? ชื่อเขา? ก็ไม่ใช่อีก…งั้นวันเกิดฉันหรือเปล่านะ? ก็ยังไม่ใช่…บ้าจริง! แค่ใส่รหัสฉันก็เสียเวลาไปหลายนาทีแล้ว…คิดสิๆ นับดาว…เธอเป็นแฟนเขามาห้าปี จะไม่รู้รหัสคอมพิวเตอร์เขาได้ยังไง? หรือว่า…
ในตอนนั้นอยู่ๆฉันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ พี่หมอกชอบวง The Beatles แล้วเพลงที่เขาชอบมากที่สุดคือ In My Life หรือจะเป็น…อ๊ะ! ถูกเผง! ฉันสามารถเข้ารหัสได้แล้ว แต่มันต้องน่าน้อยใจหรือเปล่านะ…รหัสเข้าคอมพิวเตอร์ของพี่หมอกเป็นแค่ชื่อเพลงที่เขาชอบ แทนที่จะเป็นวันเกิดฉันหรือไม่ก็วันครบรอบของเรา แต่ช่างเถอะ! ฉันไม่มีเวลามาคิดเรื่องนั้นแล้ว ฉันรีบเปิดอีเมลอย่างรวดเร็ว เลื่อนเมาส์สองทีก็เจออัปเดตตารางงานของพี่หมอกฉบับล่าสุด จะมีนัดประชุมบอร์ดงั้นเหรอ? เหอะ! นัดใหญ่ขนาดนั้นยังไงคุณไพลินก็ต้องลงไว้ในตารางงานอยู่แล้ว…แต่นี่มันว่างเปล่า! มะรืนนี้…พี่หมอกว่างทั้งวัน ยกเว้นตอนบ่ายที่มีประชุมกับทีมของฉัน! เห็นไหมว่าเขาแกล้งกันชัดๆ
“ดูอะไรอยู่เหรอ?”
“อ๊ะ!” ฉันสะดุ้งตกใจเมื่อเสียงของพี่หมอกดังขึ้นมาจากด้าน พอหันไปมอง…เขาก็รวบเอวฉันเข้าไปกอดไว้ นี่เขาเข้าห้องมาอย่างเงียบๆ จนฉันไม่ได้ยินเสียงเลยได้ยังไงกัน
“ถามว่ามาแอบดูอะไร? เข้ามาในห้องทำงานประธานบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้…ผิดกฎนะครับคุณนับดาว”
“เหอะ! งั้นท่านประธานก็ไล่ฉันออกเลยสิคะ!”
“หืม? เอางั้นเลยเหรอ? ถ้าไล่ออก…แล้วผมจะเอากำลังใจที่ไหนมาผมงานล่ะครับ? รู้ไหมว่าทุกวันนี้…”
“ไม่ต้องมาพูดเลยนะ…คนนิสัยไม่ดี! แกล้งกันทำไม?!” ฉันรู้ว่าเขาจะพูดอะไร รู้ว่าเขาจะบอกว่าฉันคือกำลังใจที่ทำให้เขาอยากจะมาทำงาน มันก็น่าดีใจอยู่หรอกนะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่ฉันกำลังโมโหจนลมออกหู!
“พี่ไปแกล้งอะไร?”
“ยังจะมาทำหน้าไม่รู้เรื่องอีก! มะรืนนี้พี่หมอกไม่มีนัดประชุมบอร์ดด้วยซ้ำ! แล้วทำไมต้องมาเลื่อนประชุมทีมนับให้เร็วขึ้นด้วย?!”
“อา…เรื่องนี้เองสินะ” แล้วเขาก็ยิ้มออกมา
“ยิ้มเหรอพี่หมอก?!”
“ก็หมั่นไส้…เลยแกล้ง”
“หมั่นไส้เหรอ?”
“ทำไมต้องสนิทกันขนาดนั้น? ขนตาติดแก้ม…แค่จะหยิบออกให้ต้องยื่นหน้าเข้าใกล้กันจนแทบจะจูบกันแบบนั้นด้วยเหรอ? แล้วอะไรนะ…ถึงมีผดก็สวยเหรอ? ใครจะทนมองทนฟังแฟนตัวเองถูกผู้ชายคนอื่นชมว่าสวยได้…นับไม่คิดถึงใจพี่บ้างหรือไง?”
“พี่หมอก? นี่หึงนับกับแอมเบอร์เหรอ?” ไม่อยากจะเชื่อ…เขาแกล้งเพราะหึงฉันงั้นเหรอ?
“ห้ามเข้าใกล้กันแบบนั้นอีก…พี่ไม่ชอบ”
“แอมเบอร์เป็นเกย์! นับบอกพี่หมอกไปตั้งกี่ครั้งแล้ว!”
“เกย์แล้วไง? เป็นเกย์แล้วพี่จะหึงจะหวงแฟนตัวเองไม่ได้เหรอ?”
“แอมเบอร์ไม่ได้คิดกับนับแบบนั้นหรอกน่ะ! พี่หมอกเลื่อนนัดเดี๋ยวนี้เลย…อย่าเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัว” ฉันช้อนสายตาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา จนถึงตอนนี้เขาก็ยังโอบเอวฉันแน่นไม่ยอมปล่อย
“ไม่…พี่รู้ว่าทีมนับทำทันอยู่แล้ว อีกอย่าง…พี่ให้เวลาไปตั้งสองอาทิตย์แล้ว มันต้องเสร็จได้แล้วถ้าไม่เอาเวลาไปนั่งกินเค้กแล้วเมาท์กันแบบนั้น”
“ให้ตายเถอะว่ะ!” ไม่อยากจะเชื่อ…นี่พี่หมอกสั่งคนตามเฝ้าทีมของฉันหรือไงกันวะ?
“ว่าไงนะ? ให้ตายเถอะว่ะเหรอ? นี่พูดแบบนั้นกับแฟนเหรอนับ?”
“ก็มันน่าหงุดหงิด! พี่หมอกปล่อยเลย…ปล่อยนับเดี๋ยวนี้เลย” ฉันพยายามดันตัวเขาให้ออกห่าง แต่แทนที่มันจะเป็นแบบนั้น เขากลับโอบกอดฉันแน่นขึ้นกว่าเก่า
“โกรธขนาดนั้นเลยเหรอ? พี่หรือเปล่าที่ต้องโกรธ…แฟนตัวเองใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่น…ไม่กระชากเข้ามาต่อยหน้าก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“ก็บอกว่าแอมเบอร์ไม่ใช่ผู้ชาย!”
“ถ้ามีไอ้นั่นที่แข็งได้มันก็ผู้ชายทั้งนั้นแหละ!”
“พี่หมอก!”
“พี่จะเลื่อนประชุมให้…ถ้านับอ้อนพี่หวานๆ”
“เหอะ! ไม่!”
“งั้นบ่ายนี้เจอกัน”
“จะเอาแบบนี้ใช่ไหมพี่หมอก? ทำมาเป็นหึงที่นับมีเพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชาย…ชิ! ตัวเองแท้ๆที่ไปแต่งงานกับคนอื่น!”
“…” พี่หมอกนิ่งไปในทันทีที่ฉันพูดออกไปแบบนั้น ให้ตายเถอะ…ฉันพูดแรงไปหรือเปล่านะ?
“เงียบทำไม?”
“พี่ไม่ได้อยากแต่งงานนับก็รู้” สายตาของพี่หมอกสั่นไหว มันเป็นเหมือนตอนที่เขาบอกเลิกฉันเมื่อสามเดือนก่อน ในตอนที่เขาบอกว่าจะต้องไปแต่งงาน เห็นแบบนี้…ฉันก็รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“พี่หมอก…นับไม่ได้ตั้งใจ”
“นับรู้ดีกว่าใครว่าทำไมพี่ต้องแต่งงาน…นับรู้ดีกว่าทุกคนว่าคนเดียวที่พี่รักคือใคร”
“งื้อ! อย่าดึงดราม่าได้ไหม? นับไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น…”
“รู้ไหมว่าพี่เกลียดตัวเองแค่ไหนที่ปล่อยให้นับต้องไปงานแต่งงานเมื่อคืน…”
“ไม่เอาแบบนี้สิ…พี่หมอกอย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นได้ไหม?”
“หืม?”
“นะ…อย่าทำหน้าเศร้า อย่ามองนับด้วยสายตาแบบนั้น…นับไม่ชอบเลย” ฉันอยากจะร้องไห้เมื่อเห็นพี่หมอกทำหน้าเศร้า ยื่นมือไปกุมใบหน้าของเขาเอาไว้ ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยแก้มตอบเขาเบาๆ
“ทำเสียงอ่อนกับพี่ได้แล้วเหรอ? ไม่โกรธแล้วเหรอ?” แล้วเขาก็ยิ้มออกมา
“ไม่โกรธแล้ว…พี่หมอกอย่าทำหน้าเศร้าอีกได้ไหม?”
“ก็พี่เศร้า”
“ทำไมต้องเศร้า…”
“ก็นับโกรธพี่”
“ก็หายโกรธแล้วไง…”
“งั้นก็พูดหวานๆ อ้อนพี่หน่อย…แล้วพี่จะเลื่อนประชุมให้เลย”
“…” ฉันช้อนสายตามองเขา ให้อ้อนเขาอย่างนั้นเหรอ? มันง่ายนิดเดียวเอง
“เร็วครับ…อ้อนพี่หน่อย”
“พี่หมอกขา…” ฉันเขย่งปลายเท้าขึ้นไปกระซิบเบาๆ “วันนี้นับใส่ลูกไม้สีขาว…แบบซีทรูล่ะ”
“นับ…”
“พี่หมอกชอบใช่ไหมล่ะ ลูกไม้ซีทรูน่ะ”
“ต้องเป็นลูกไม้ซีทรูที่มีกลิ่นของนับติดอยู่ด้วย…พี่ถึงจะชอบ”
“อยากเห็นไหมคะ?”
“อยากครับ…” พี่หมอกทำหน้าเหมือนหิวอะไรสักอย่าง เห็นแบบนั้นฉันก็อดยิ้มไม่ได้ “อยากดมด้วย”
“งื้อ! ทะลึ่ง…จะดมด้วยเหรอ?”
“มาถอดออกไปเองสิ…” แล้วฉันก็ดึงมือหนาให้สอดล้วงเข้ามาใต้กระโปรง…
ฉันแค่จะแกล้งเขา…ให้เขาเข้ามาได้เพียงแค่ตรงต้นขา ทว่า…พี่หมอกไม่หยุดแค่นั้น เขาดึงมือฉันออกแล้วรวบไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนจะใช้มืออีกข้างที่อยู่ใต้กระโปรงกระทำเรื่องน่าอายกลางห้องทำงาน เขาลูบฉันเบาๆ ลูบเข้ามาตรงกลางกายแล้วกดเบาๆที่จุดสั่นไหว แล้วขบติ่งหูฉันเบาๆ เขาทำให้ฉันสะท้านไปทั้งร่าง…
“พี่หมอก…”
“นับครับ…แบบนี้มันเรียกว่ายั่วแล้วนะ ไม่ใช่อ้อน แล้วนับก็น่าจะรู้…ว่าถ้ายั่วพี่แล้วจะต้องเจอกับอะไร” จบนั้นพี่หมอกก็ทำบางอย่างที่ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำ
พรึ่บ!
“อ๊ะ! พี่หมอก?” ฉันเบิกตาโตมองชั้นในลูกไม้ของตัวเองที่อยู่ในมือเขาอย่างตกใจ เขายิ้มเหมือนกำลังชอบใจที่ได้แกล้งฉัน…ก่อนจะเอามันไปแนบกับจมูกโด่ง…
“กลิ่นของนับ…หอมมากเลยนะ” ได้ยินแบบนั้นหน้าฉันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที รู้อะไรไหม…ห้าปีที่ครบกันมา ฉันกับพี่หมอกทำเรื่องแซ่บๆกันนับครั้งไม่ได้ ฉันควรจะชินชากับสายตาและคำพูดของเขา ทว่าไม่เลย…มันตรงกันข้ามแบบสุดๆ ทุกครั้ง…ที่พี่หมอกเริ่มจะทำแบบนั้นฉันจะต้องเขินราวกับว่ามันเป็นครั้งแรกทุกครั้งไป
